เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของการเดินทางในอนาคต Honda ค่ายรถยนต์ชั้นนำแห่งแดนอาทิตย์อุทัย เปิดตัวธุรกิจจัดการพลังงานภายใต้แบรนด์ใหม่ e:Progress โดยจะเริ่มต้นที่ประเทศอังกฤษเป็นแห่งแรกภายในปี 2020

ด้วยยอดจองในแถบยุโรปที่สูงกว่า 25,000 คันของ Honda e ซับคอมแพ็กต์พลังงานไฟฟ้าที่มีกำหนดส่งมอบในช่วงซัมเมอร์นี้ กลายเป็น 1 ในเหตุผลสำคัญที่ผู้บริหาร Honda ต้องนำเสนอ e:Progress ธุรกิจจัดการพลังงานอัจฉริยะแบบครบวงจร โดยนับเป็นครั้งแรกที่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบ Smart Tariff ที่จะกำหนดเงื่อนไขพิเศษเพื่อเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป การจัดหาแหล่งพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์, ลม และน้ำ เพื่อนำมาใช้งานอย่างเหมาะสม รวมถึงการกำหนดช่วงเวลาชาร์จไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่าที่สุดตามความต้องการใช้งาน

คลิกเพื่อขยายรูป

ธุรกิจใหม่ของ Honda ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในธุรกิจพลังงานไม่ว่าจะเป็น Moixa บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการวางระบบเครือข่ายไฟฟ้า เพื่อให้เจ้าของรถยนต์สามารถควบคุมการชาร์จไฟฟ้าจากแอปพลิเคชั่น GridShare ในสมาร์ตโฟนของตัวเอง โดยพลังงานไฟฟ้าที่เข้าสู่รถยนต์จะมาจาก Vattenfall บริษัทพลังงานชั้นนำของยุโรปที่มีรัฐบาลสวีเดนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เข้ามาดูแลด้านค่าธรรมเนียมเพื่อกำหนดช่วงเวลาชาร์จที่ค่าไฟฟ้าต่ำสุด

ความร่วมมือที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถกำหนดเวลาชาร์จที่เหมาะสมในราคาที่ย่อมเยา และเป็นพลังงานสะอาด โดยสถานีชาร์จไฟฟ้า Power Charger ที่มีกำลัง 32 แอมป์ สามารถเติมกำลังให้ Honda e จาก 0-100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 4 ชั่วโมงนับว่าเร็วกกว่าอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าที่ติดตั้งตามบ้านหลายเท่า รวมทั้งสามารถจัดการหาพลังงานทดแทนที่เหมาะสมเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ให้เป็นไปตามเป้าหมายในแผน 2030 Vision ของ Honda

Jorgen Pluym หัวหน้าโครงการจัดการพลังงานของ Honda Motor Europe ให้ความเห็นว่า “การนำเสนอe:Progress นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ Honda ในการพัฒนาธุรกิจจัดการพลังงานในยุโรป เพื่อนำเสนอความคุ้มค่าที่แท้จริงแก่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงแรกในธุรกิจให้บริการด้านพลังงานของเรา โดยเราจะมุ่งมั่นลงทุน และพัฒนาในส่วนนี้พร้อมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และการเข้าถึงผู้คนส่วนใหญ่มากขึ้น”

e:Progressเริ่มต้นวางระบบเครือข่ายไฟฟ้าแห่งแรกที่ที่ไอส์ลิงท์ตัน ในกรุงลอนดอน โดยติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบ Bi-directional ทำให้ไม่เพียงจะกำหนดเวลาชาร์จที่ค่าไฟฟ้าต่ำสุด แต่สามารถรับพลังงานกลับคืนจากรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าแพง และแหล่งพลังงานมีการปล่อยมลพิษสูง หลังจาก Honda e เริ่มต้นส่งมอบในช่วงฤดูร้อนของยุโรปบริการนี้จะเริ่มต้นอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนจะขยายสู่เยอรมัน และประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ต่อไป

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Honda Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th