ในขณะที่ขนาดของหน้าจอทัชสกรีนและการควบคุมต่างๆ แบบสัมผัสเป็นหนึ่งในพื้นที่การโปรโมตที่บรรดาผู้ผลิตรถต่างนำมาใช้ต่อสู้กันทางการตลาด แต่ Honda กลับเลือกที่ขะย้อนกลับไปใช้แป้นและปุ่มควบคุมการทำงานแบบเดิมกับ Jazz รุ่นใหม่ที่เริ่มขายในปีนี้ โดยหัวหน้าโปรเจ็กต์ Jazz ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลของการใช้การควบคุมแบบเดิมกับรถซับคอมแพกต์แฮทช์แบ็กรุ่นใหม่

ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน Takeki Tanaka หัวหน้าโปรเจ็กต์ Jazz ได้บอกถึงเหตุผลที่ Honda เลือกกลับไปใช้แป้นจริงๆ สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศในรถว่าเพื่อต้องการลดความยุ่งยากของผู้ขับรถให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังบอกเพิ่มว่า “เราเปลี่ยนมันจากจอทัชสกรีนเป็นแป้นควบคุม เนื่องจากเราได้รับกระแสตอบกลับจากลูกค้าว่ามันยากที่จะควบคุมได้อย่างสะดวกคุ้นเคย” การปรับควบคุมแบบเดิมทำให้คนต้องมองไปที่ระบบ Infotainment ดังนั้นทาง Honda จึงเพิ่มการควบคุมแมนนวลเพื่อลดสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวขณะขับรถให้เหลือน้อยที่สุด

นอกจากเพิ่มการควบคุมแบบซึ่งเป็นปุ่มจริงๆ เดิมเข้ามาแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้วทาง Honda ยังเปิดเผยว่า Jazz รุ่นใหม่มีอินเตอร์เฟซที่เรียบง่ายซึ่งลดเวลาในการควบคุมสำหรับการทำงานทั่วไปที่มักถูกใช้บ่อยลงถึง 58 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยทาง Honda ระบุว่าส่วนหนึ่งของความรวดเร็วขึ้นมาจากการใช้ปุ่มควบคุมจริงๆ อย่างระบบปรับอากาศ

อย่างไรก็ตามระบบ Infotainment ที่เรียบง่ายขึ้นของ Jazz มีความไฮเทคขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าโดยมาพร้อมกับ Honda Personal Assistant ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเข้าใจหลายการสั่งงานได้ในเวลาเดียวได้ เช่น การที่ผู้ใช้สามารถพูดว่า “OK Honda หาร้านอาหารอิตาเลียนที่มีที่จอดรถฟรีที่กำลังเปิดตอนนี้ให้หน่อย”  ซึ่งระบบจะหาร้านที่เหมาะสมกับความต้องการให้แล้วแสดงบนระบบ Infotainment

นอกจากการเพิ่มปุ่มควบคุมจริงๆ ในรถแล้ว อีกสิ่งใหม่ใน Honda Jazz เจนเนอเรชั่นล่าสุดคือ ระบบไฮบริดซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี กับ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรีลิเธียมไอออนซึ่งมีกำลังรวม 109 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตัน-เมตร ทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. 9.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม.

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th