แม้ Honda จะมีรถเอสยูวีทั้งรุ่น CR-V, HR-V และ Pilot ทำตลาดในสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว แต่ล่าสุดยังเสริมทางเลือกในรถยนต์กลุ่มนี้ของตนด้วยการนำเอาชื่อรถเอสยูวีซึ่งเคยเป็นความร่วมมือกับ Isuzu ในอดีตแล้วหยุดไปในปี 2002 กลับมาใช้กับรถเอสยูวีรุ่นใหม่ของตนที่ระบุว่าเป็รรุ่นแทรกกลางระหว่าง CR-V และ Pilot คือให้ความสะดวกและความอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานในเมืองแต่ก็สามารถลุยได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับ CR-V

Honda Passport ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยและพัฒนาของ Honda ในอเมริกาเหนือที่ทอร์แรนซ์ แคลิฟอร์เนีย และเรย์มอนด์ในโอไฮโอ โดยใช้แพลทฟอร์ม Global Light Truck และมีการใช้ช่วงโครงสร้างด้านล่างของรถหลายส่วนร่วมกับรถเอสยูวี Pilot และรถปิคอัพ Ridgeline ที่ Honda ใช้ทำตลาดในสหรัฐอเมริก

เพื่อสร้างให้เป็นรถเอสยูมีที่พร้อมลุย Passport จึงถูกออกแบบภาบนอกให้ดูดุดันจากทั้งกระจังหน้า กันชนหน้า ขอบซุ้มล้อ ขอบกันกระแทกข้างประตู และกันชนหลังสีดำด้าน รวมไปถึงยังมาพร้อมล้อสีดำขนาด 20 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ที่ดูพร้อมลุยเท่านั้น แต่ Passport ยังลุยได้จริงและลุยได้มากขึ้น ด้วยระยะใต้ท้องรถที่สูงจากพื้นมากกว่ารุ่น Pilot 0.5 นิ้วในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 1.1 นิ้วในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยความสูง 7.8 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว ขณะที่ความสามารถในการลุยทางลาดชันรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าของ Passport มีมุมได่ 20.6 องศา และมุมจาก 26.8 องศา ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีมุมไต่ 21.4 องศา มุมจาก 27.6 องศา

ไม่เพียงแค่ความสามารถในการลุยเท่านั้นรถเอสยูวีรุ่นใหม่สำหรับตลาดอเมริกาของ Honda ยังให้ความสบายและความอเนกประสงค์ในการเดินทางด้วยห้องโดยสารสำหรับ 5 คนซึ่งมีพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 115.9 ลูกบาศก์-ฟุตจากพื้นที่ภายในรวมทั้งหมด 157.1 ลูกบาศก์-ฟุตซึ่ง Honda ระบุว่าดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ขณะที่ด้านหลังเบาะแถวที่สองมีพื้นที่เก็บของความจุมากถึง 41.2 ลูกบาศก์-ฟุตและขยายได้ถึง 77.9 ลูกบาศก์-ฟุตเมื่อพับเบาะแถวที่สอง นอกจากนี้ใต้พื้นที่เก็บของด้านหลังยังมีพื้นที่ขนาด 2.5 ลูกบาศก์-ฟุตสำหรับเก็บเครื่องมือหรือสิ่งของที่สกปรกจากการแคมปิ้งหรือการผจญภัย

สำหรับเครื่องยนต์ที่จะพา Honda Passport ไปผจญภัยบนเส้นทางต่างๆ คือ V6 3,500 ซีซี 280 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 354 นิวตัน-เมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดในการส่งกำลังสู่ล้อ โดยในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Passport จะมาพร้อมกับการทำงาน Intelligent Variable Torque Management เพื่อควบคุมการส่งแรงบิดไปยังล้อหลังรวมทั้งล้อซ้ายหรือขวา และมีการทำงาน Intelligent Traction Management ทั้งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและสี่ล้อเพื่อช่วยในการขับเคลื่อนทั้งบนถนนปกติและถนนที่ลื่นอย่างพื้นหิมะ ทราย หรือโคลน

สำหรับตลาดภูมิภาคอื่นนอกจากอเมริกาเหนืออาจหมดสิทธิ์ลุยเส้นทางออฟโรดด้วย Honda Passport เนื่องจากเป็นรถที่ออกแบบและวิจัยในอเมริกาจึงอาจทำมาเพื่อตลาดในอเมริกาเท่านั้นด้วย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th