ย้อนอดีต-ทดสอบ Honda Prelude รถสปอร์ตที่ครองใจวัยรุ่น 90
สัปดาห์นี้ขอย้อนเวลากลับไปดูภาพการทดสอบ Honda Prelude รถสปอร์ตที่เป็น 1 ในสัญลักษณ์ของวัยรุ่นไทยยุค 90’s ที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Grand Prix เมื่อปี 1992 พร้อมแถมรูปพิเศษการปะทะกับคู่รักคู่แค้นร่วมยุค Toyota Celica
Honda Prelude เจเนอเรชั่นที่ 4 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกันยายน 1991 และบริษัทฮอนด้า คาร์ส (ประเทศไทย) นำเข้ามาจำหน่ายหลังจากนั้นไม่นาน ในช่วงเวลาที่ธุรกิจรถยนต์นำเข้าในบ้านเรากำลังคึกคักสุดๆ จากนโยบายลดภาษีนำเข้ารถยนต์ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน จนทำให้มีรถหลายรุ่นที่คนวัย Gen Z ไม่เคยรู้ว่ามีการนำเข้ามาขายโดยบริษัทแม่อีกหลายรุ่น (ทีมงาน Grand Prix Online จะทยอยนำมาลงต่อไป)
สำหรับ Honda Prelude คันสีแดงที่นำมาให้วัยรุ่นยุค 90‘s ย้อนความหลัง เรียกว่าเป็นรถล็อตแรกๆ ที่ทางฮอนด้า คาร์ส (ประเทศไทย) นำเข้ามาเปิดตัวขาย โดยจะเป็นเครื่องยนต์โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์เดี่ยว (SOHC-Single Over Head Camshaft ) 4 สูบแถวเรียง 2.2 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ PGM-FI แบบ Multi-Point ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็คทรอนิคส์ที่มีให้เลือกทั้งโหมด Normal และ Sport
แม้ว่าหลังจากนั้น ฮอนด้า คาร์ส (ประเทศไทย) และบรรดาเกรย์มาร์เก็ตจะนำ Prelude โฉมอื่นๆ ที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์แรงขึ้นเข้ามาขาย แต่เครื่องยนต์ 2.2 ลิตรเดิมๆ ที่ติดตั้งมาใน Prelude คันนี้ถือว่าไม่น้อยหน้ารถสปอร์ตจากค่ายคู่แข่งในยุคนั้น โดยกำลังสูงสุด 130 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที และแรงบิด 138 ฟุต-ปอนด์ที่ 4,000 รอบต่อนาที ทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 11.0 วินาที, จับเวลาวิ่งระยะ 1/4 ไมล์ (402 เมตร) ได้ที่ 18.6 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 197 กม./ชม. ตามข้อมูลที่กองบรรณาธิการนิตยสาร Grand Prix ยุคนั้นได้ทดสอบเอาไว้
ในขณะที่งานดีไซน์ Honda ค่อนข้างจะพลิกโฉมไปจาก 3 เจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ (ถึงจะมีเสียงวิจารณ์แง่ลบจากคนที่ไม่ชอบอยู่ด้วยก็ตาม) แต่ก็ทำให้ Prelude 4th Gen มีความโดดเด่นของรถสปอร์ตยุคใหม่ที่เรียกความสนใจจากสาวๆ ยุคนั้นได้เสมอ โดยเฉพาะออปชั่นเสริมอย่างหลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารเบาะนั่งจะเป็นสไตล์กึ่งๆ Bucket Seat แต่มีความสบายตามสไตล์รถญี่ปุ่น แผงหน้าจอยังเป็นแบบอนาล็อกใช้เข็มแสดงข้อมูลความเร็ว และรอบเครื่องยนต์ แต่ข้อมูลอุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์ และปริมาณน้ำมันจะใช้จอแบบกราฟฟิกแทน ตำแหน่งชุดเครื่องเสียง (ที่สามารถเล่นเทปคาสเซ็ตต์ ^-^) และปุ่มปรับระบบแอร์ออกแบบให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวก แต่หากคุณเป็นคนรูปร่างเล็กก็อาจจะมองเห็นบางมุมไม่ถนัดอย่างกระโปรงหน้ารถที่ยื่นยาวตามสไตล์สปอร์ตคูเป้ และเสาหลังอาจจะบดบังในบางจังหวะ
BONUS STAGE—รูปการทดสอบ Honda Prelude vs. Toyota Celica โดยทีมงานนิตยสาร Grand Prix
อีกจุดเด่นที่สร้างชื่อให้ Honda Prelude รุ่นนี้ คงจะเป็นระบบกันสะเทือนอิสระทั้ง 4 ล้อ โดยล้อหน้า-ล้อหลังจะติดตั้งปีกนก 2 ชั้น โช๊คอัพแบบคอยล์สปริงท์พร้อมเหล็กกันโคลง และล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว ฮอนด้า ประเทศไทย ใส่ยาง Dunlop Performa 8000 ขนาด 205/55 เป็นมาตรฐาน ทำให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนไม่แพ้รถยุโรปในยุคนั้นเลย รวมทั้งมั่นใจได้กับระบบเบรกที่ใช้แบบ 2 วงจรอิสระพร้อมหม้อลมเบรก และวาล์วปรับแรงดันเบรก ล้อหน้าติดตั้งดิสค์เบรกแบบมีรูระบายความร้อน ส่วนล้อหลังเป็นดิสค์เบรกปกติ
ด้วยความ Retro ของรถสปอร์ต JDM ในยุค 90’S ทำให้เป็นเรื่องน่าเสียดายที่หลังจากได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในบ้านเรา และหลายประเทศทั่วโลก Honda มีการเปิดตัว Prelude เจเนอเรชั่นใหม่ออกมาในปี 1996 แต่ไม่ได้มีการนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยต้องซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระเท่านั้น ก่อนที่เทรนด์ของวงการรถยนต์เริ่มเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน จนทำให้ชื่อของ Prelude พร้อมทั้งพ้องเพื่อนร่วมยุคอย่าง Celica, Nissan Silvia หรือ Mitsubishi GTO กลายเป็นเพียงตำนานให้บรรดานักซิ่งยุค 90’S พูดคุยย้อนความหลังเวลาจัดมีตติ้งรียูเนียนกันเท่านั้น
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: นิตยสาร Grand Prix
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th