Honda XL750 Transalp เที่ยวก็ได้ลุยก็ลื่น เริ่มต้น 389,000 บาท
Honda XL750 Transalp เกิดจากภายใต้แนวคิดการออกแบบของทีมวิศวกร “ฮอนด้า” ที่ต้องการสร้างรถเที่ยวสายลุยซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ และเป็นมิตรกับนักขับขี่ รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย และพร้อมที่จะออกผจญภัยไปในโลกกว้างได้อย่างอิสระเสรี รวมไปถึงยังมีเทคโนโลยีอันทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างครบครัน
โดย XL750 ถือได้ว่าเป็นโมเดลทางเลือกตัวคั่นระหว่าง Honda CB500X หรือโฉมใหม่ในชื่อ NX500 กับ CRF1100 Africa Twin ด้วยขุมพลังขนาด 750 ซี.ซี. ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกันกับที่ติดตั้งในรถสปอร์ตเปลือยรหัส Honda CB750 Hornet นั่นเอง โดยเป็นแบบ 2 สูบคู่ขนาน 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์ 6 สปีด รีดสมรรถนะแรงม้าสูงสุด 90.5 hp ที่ 9,500 รอบ/นาที กับ แรงบิดสูงสุดที่ 74.4 Nm ที่ 7,000 รอบ/นาที มาพร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้า TBW Throttle By Wire และโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกปรับใช้ได้ตามสภาพการขับขี่ถึง 5 โหมด
ไล่เรียงไปตั้งแต่ Standard สำหรับการขับขี่ใช้งานทั่วไป โดยจะถ่ายทอดอัตราเร่งที่ราบเรียบนุ่มนวล โหมด Rain เพื่อการใช้งานบนถนนที่เปียกลื่นโดยการถ่ายทอดกำลังที่น้อยลงเพื่อความปลอดภัย โหมด Gravel เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางวิบากที่เป็นพื้นกรวดทราย ในขณะที่โหมด Sport เป็นโหมดที่ถ่ายทอดพละกำลังแรงบิดออกมาอย่างเต็มสมรรถนะ และท้ายสุดในส่วนของโหมด User มีไว้ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น P Power ,EB Engine Break ,ABS ที่ให้เลือกได้ 2 ระดับ และยังสามารถสั่งปิดการทำงานได้
รวมไปถึงในส่วนของ T Traction Control ที่มีให้เลือกตั้งค่าได้ถึง 5 ระดับ นอกจากนั้นยังติดตั้งเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถรายงานข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และระบบ Honda Smartphonce Voice Control System (HSVCs) ด้วย และยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ โดยผู้ขับขี่เลือกปรับการแสดงผลข้อมูลได้ผ่านปุ่มควบคุมแบบจอยสติ๊กที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย
ระบบรองรับของช่วงล่าง เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ โดยต้นสังกัดเลือกวางตัวโช้คหัวกลับ Up Side Down ของ Showa SFF-CA™ (Separate Function Fork-Cartridge) ที่มีขนาดแกนโต 43 มม. ให้ระยะยุบสูงสุด 200 มม. ในขณะที่ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยว Pro Link ของ Showa ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียม ส่วนของวงล้อแบบซี่ลวดด้านหน้ามีขนาด 90/90 – 21 และด้านหลังขนาด 150/70 – 18 … ระบบเบรกที่ใช้หยุดพยศด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาดจาน 310 มม. ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ ของ Nissin ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาดจาน 256 มม. กับปั๊มลูกสูบเดี่ยว
เรื่องของความสวยงามในการออกแบบนั้นว่ากันไปตั้งแต่ในส่วนของลวดลายสีสันที่ยังนำต้นแบบจากต้นตระกูล Transalp ในยุค 80’s มาดัดแปลงใช้ได้อย่างร่วมสมัย ส่วนระบบไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED เต็มระบบ โดยในส่วนของไฟหน้านั้นก็เป็นชุดเดียวกันกับที่ติดตั้งในรุ่น CB750 Hornet โดยรวมไฟสูง และไฟต่ำเอาไว้ในโคมเดียวกัน ส่วนของไฟท้ายขนาดกะทัดรัดยังมีลูกเล่นเพื่อความปลอดภัยด้วยระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหันที่ความเร็วมากกว่า 50 กม./ชม. พร้อมระบบปิดไฟเลี้ยวอัตโนมัติด้วย โดยผู้สนใจสามารถเลือกจับจอง Honda XL750 Transalp ที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Transalp Mat Ballistic Black Metallic) ที่เปิดราคาเอาไว้ที่ 389,000 บาท และสีขาว (Transalp Ross White) กับค่าตัว 394,000 บาท
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th