ด้วยการที่ยุโรปเป็นตลาดที่มีความนิยมรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล จึงทำให้ทั้งผู้ผลิตรถยนต์เจ้าถิ่นและต่างแดนต้องมีทางเลือกของเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถยนต์ที่ทำตลาดในภูมิภาคนี้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจเปลี่ยนไปในอนาคต จากปัจจัยต่างๆ โดยผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ส่งรถเข้าไปขายในยุโรปอย่าง Honda ได้วางแผนที่จะถอดเครื่องยนต์ดีเซลออกจากรถยนต์รุ่นต่างๆ ของตนทั้งหมดในยุโรป

ทาง Honda ได้ออกมาแถลงว่าจะหยุดขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปในปี 2021 โดยจะเน้นไปที่รถไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริดแทน พร้อมกับระบุว่าในปี 2025 รถทุกรุ่นของตนที่ขายในยุโรปจะมีพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของ Honda ที่จะผลิตรถใช้พลังงานไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใช้แบตเตอรีมากถึง 2 ใน 3 ของสายการผลิตในปี 2030 จากที่ปัจจุบันมีการผลิตอยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในสายการผลิตทั้งหมด

การตัดสินใจของ Honda ในเรื่องการหยุดขายรถเครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปมาจากความต้องการรถเครื่องยนต์ดีเซลที่ต่ำและมาตรฐานมลพิษของยุโรปที่มีความโหดมากขึ้น อย่างล่าสุดที่มีการกำหนดให้ค่าเฉลี่ยในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของรถ 95 เปอร์เซ็นต์ที่ขายในยุโรปในอนาคตต้องต่ำถึง 95 กรัม/กิโลเมตร จากปริมาณ 120.5 กรัม/กิโลเมตรซึ่งใช้ในปัจจุบัน โดยค่ามลพิษใหม่จะถูกบังคับใช้กับรถใหม่ทุกคันในยุโรปตั้งแต่ปี 2021

ปัจจุบัน Honda ได้ถอดทางเลือกของเครื่องยนต์ดีเซลออกจากรถเอสยูวีรุ่น CR-V ของตนไปแล้ว โดยที่มีรุ่นไฮบริดเข้ามาเป็นทางเลือกแทน นอกจากนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายนี้ยังออกมาระบุอีกว่ารถเล็กยอดนิยมของตนอย่าง Jazz เจนเนอเรชั่นต่อไปก็จะมีเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น ในขณะที่รถไฟฟ้าใช้แบตเตอรีอย่าง e จะเริ่มส่งถึงลูกค้าในช่วงต้นปี 2020 โดยปัจจุบัน Honda ยังคงมีเครื่องยนต์ดีเซลเป็นทางเลือกสำหรับตลาดยุโรปอยู่ใน Civic และคอมแพกต์เอสยูวี HR-V

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th