Ford เผยการพัฒนาห้องโดยสารที่เงียบสงบของ Everest
Ford Everest ห้องโดยสาร
หากถังน้ำมีรูรั่ว น้ำก็จะไหลซึมออกมา เช่นเดียวกันรอยต่อระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ของรถก็อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้
“การติดตามและตรวจสอบเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ผ่านทั้งระบบเสมือนจริงและจากรถคันจริงคือภารกิจหลักของทีม NVH ของฟอร์ดที่ศึกษาเรื่องระดับเสียง (N – noise) ความสั่นสะเทือน (V – vibration) และความกระด้างของเสียง (H – harshness)” ดร.มาร์ค ทอมป์สัน วิศวกรทีม NVH ของ Ford Ranger และ Ford Everest เผย “ลูกค้าฟอร์ด เอเวอเรสต์ ต้องการความเงียบ และปราศจากเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เพื่อให้ทุกคนในรถได้ยินเสียงบทสนทนาอย่างทั่วถึงไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งไหนในรถ”
“ดัชนีความชัดเจนของเสียงภายในห้องโดยสารของ Ford Everest ถือว่าอยู่ในระดับดีมาก ผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลังสามารถพูดคุยกับคนขับได้แบบสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องพูดให้ดังขึ้น”
ทีม NVH ใช้ดัชนีความชัดเจนของเสียง (Articulation Index) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการวัดเปอร์เซ็นต์การได้ยินเสียงในบทสนทนาแบบตัวต่อตัวเพื่อทดสอบว่าผู้โดยสารสามารถพูดคุยกันได้อย่างง่ายดายเพียงใด
พัฒนาคุณภาพเสียงให้ชัดเจนตั้งแต่การร่างแบบ
ก่อนที่รถต้นแบบจะถูกพัฒนาขึ้น ทีม NVH ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงไปกับการทดสอบแรงดันเสมือนจริง และวิเคราะห์การไหลเวียนอากาศที่ซับซ้อนภายในรถ Ford Everest เพื่อให้มั่นใจว่ามีเพียงอากาศที่จำเป็นต่อการระบายอากาศเท่านั้นไหลเข้าสู่ห้องโดยสาร (ประมาณ 100 ลิตรต่อวินาที)
“เรานำระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ (CAD) มาช่วยประเมินเพื่อให้แน่ใจว่าทุกจุดเชื่อม รอยต่อ และการซีลยางเป็นไปอย่างรัดกุมและแน่นหนาทุกจุด นอกจากนี้ เรายังทดสอบโดยใช้เครื่องมือจำลองแบบต่างๆ เพื่อตรวจสอบและอุดรอยรั่วก่อนเริ่มผลิตรถต้นแบบ” ดร.ทอมป์สัน กล่าว
เมื่อทดสอบด้วยระบบเสมือนจริงผ่านแล้ว จึงมีการพัฒนารถต้นแบบเพื่อการทดสอบทางกายภาพซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดของฟอร์ด กระบวนการตรวจสอบการรั่วไหลของอากาศเริ่มจากการอัดอากาศเข้าไปให้เต็มด้านในรถที่ปิดประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศทั้งหมดเพื่อสร้างสภาวะแรงดันบวก จากนั้นจึงใช้มาตรวัดมวลอากาศ (Mass Airflow Sensors) มาตรวจจับปริมาณและความเร็วในการรั่วไหลของอากาศ
มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
เมื่อรถต้นแบบผ่านการทดสอบและเริ่มมีการผลิตรถจริงในโรงงาน ขั้นตอนการทดสอบแรงดันเพื่อให้มั่นใจว่าห้องโดยสารของรถแต่ละคันจะเงียบสงบยังคงดำเนินต่อไป
“เราทดสอบแรงดันรถที่โรงงานผลิตออกมาทุกวันไม่มีเว้น” ดร.ทอมป์สัน กล่าว “เราสุ่มตัวอย่างรุ่นย่อยต่างๆ ทุกรุ่นในไลน์อัพของฟอร์ด เอเวอเรสต์ออกมาจากสายพานการผลิตเพื่อนำเข้าสู่ห้องทดสอบในโรงงาน ซึ่งเราจะทดสอบแรงดันโดยใช้เซนเซอร์ขั้นสูงในการตรวจวัดการรั่วไหลของอากาศ”
“ผลการตรวจสอบการรั่วไหลของอากาศจะถูกแสดงผลแบบเรียลไทม์ไปยังทีมงานทั้งที่โรงงานผลิตและที่ออสเตรเลียเพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกคันเป็นไปตามข้อกำหนดการออกแบบความหนาแน่นของอากาศ” ดร.ทอมป์สัน กล่าว
วัสดุสำคัญในการส่งมอบความเงียบภายในห้องโดยสาร
การรังสรรค์ห้องโดยสารที่เงียบสงบไม่ได้อยู่ที่การใช้ซีลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่มาจากหลายองค์ประกอบ ภายใต้หัวใจสำคัญคือคุณภาพและความแม่นยำ ทีมผลิตรถยนต์ได้สรรหาและเลือกใช้วัสดุซีลคุณภาพสูงมากมายเพื่อดูดซับเสียงรบกวน ประกอบด้วย
• กาวที่ใช้ยึดแผ่นโลหะแต่ละแผ่นเข้าด้วยกัน
•แผ่นกั้นความร้อนภายในโครงสร้างรถยนต์ที่ขยายตัวและเติมเต็มช่องว่างต่างๆ ของรถ ขณะที่รถเคลื่อนตัวผ่านเตาอบสี
• ปะเก็นยางหรือคลิปที่ถูกจัดวางอย่างแม่นยำเพื่อยึดกับวัสดุด้านนอก ตั้งแต่เสาอากาศบนหลังคาไปจนถึงชุดสายไฟบนพื้นตัวถัง
“Ford ได้ออกแบบ และพัฒนาวิธีการซีลรถยนต์เป็นอย่างดีในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าห้องโดยสารของรถฟอร์ด เอเวอเรสต์จะเงียบสนิทจริงๆ” ดร.ทอมป์สัน กล่าวสรุป
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ฟอร์ด ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Ford Everest ห้องโดยสาร ฟอร์ด Everest รถนั่งอเนกประสงค์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนรักการเดินทาง ผสานสมรรถนะอันโดดเด่นพร้อมลุยเข้ากับดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำสมัย แข็งแกร่ง และการออกแบบภายในที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับได้อย่างลงตัว อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยการขับขี่และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกเหนือระดับมากมาย
นำทัพโดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไวลด์แทรค ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าที่รักความท้าทายและการผจญภัย แตกต่างด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งหมดมาพร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure และโปรแกรม Ford Care รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
สำหรับลูกค้าที่ต้องการแสดงความเป็นตัวตนผ่านการแต่งรถคู่ใจให้มีเอกลักษณ์ ฟอร์ดนำเสนอชุดแต่งดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าพร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถที่พิเศษยิ่งขึ้น อาทิ ชุดแต่งที่ฟอร์ดพัฒนาร่วมกับแบรนด์ Hamer 4×4 ซึ่งเป็นแบรนด์อุปกรณ์ตกแต่งชั้นนำของไทย
โดยอุปกรณ์ตกแต่งแท้ฟอร์ด Ford x ARB และ Ford x Hamer มาพร้อมการรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และยังมาพร้อมแคมเปญสุดคุ้ม รับโชค 2 ต่อ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมีโปรแกรม Ford Care ขยายระยะการรับประกันคุณภาพรถยนต์ Gold Package และ Driveline Package มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้ารถฟอร์ด สำหรับลูกค้าใหม่ที่ซื้อโปรแกรม รับฟรี ที่ปั๊มลมยางแบบพกพามูลค่า 1,550 บาท สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ซื้อโปรแกรม รับบัตรกำนัลส่วนลดมูลค่า 1,500 บาท