Huracan สีชมพูพาสเทล หนึ่งเดียวในไทย
หนึ่งเดียวในไทยกับ Huracan สีชมพูพาสเทล รถคันโปรดของ “จิน คณัณสิณี คงมะกล่ำ”
“ต่อให้เราอ่านหนังสือเป็นร้อยเล่ม เข้าสัมมนาเป็นร้อยครั้ง ล้มเหลวมากี่สิบครั้ง แต่สิ่งเดียวที่จินไม่เคยทิ้งเลยสักครั้งคือ…ความพยายาม”
วลีเด็ดของผู้หญิงเก่งแห่งยุคที่แม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงโควิดจะทำให้การดำเนินธุรกิจไม่เป็นตามเป้าไปบ้าง แต่ความมุ่งมั่น และพยายามในการเดินทางไปยังเป้าหมายของเธอนั้นชัดเจนจนไม่สว่าอุปสรรคใดที่เข้ามาก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขอเพียงไม่ละความพยายาม และลงมือทำอย่างจริงจัง
วันนี้เรามีโอกาสได้มาพูดคุยกับผู้หญิงเก่ง “จิน คณัณสิณี คงมะกล่ำ” ที่เราตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง เมื่อเห็นความน่ารัก และจริงใจในการตามหาน้องหมาจากหน้าโซเชีบลเน็ตเวิร์ก ทำให้เราสนใจในความมีเสน่ห์อันน่ารักนี้ จนต้องขอเข้ามาติดตามเธอในเฟสบุค จนทำให้เราเห็นถึงไลฟ์สไตล์อันน่าสนใจว่าเธอเองเป็นผู้หญิงที่มีความหลงใหลในรถสปอร์ต และความเร็วอย่างที่ไม่ค่อยพบในผู้หญิงด้วยกันเท่าไหร่นัก ทำให้วันนี้เราต้องขอนัดพบเธอเพื่อพูดคุยถึงไลฟ์สไตล์อันน่าหลงใหลนี้
คุณจิน คือนักการตลาดออนไลน์ เจ้าของธุรกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลินิกปลูกผม ที่เธอนั่งแท่นเป็น CEO ภายใต้ชื่อบริษัท June Hair จำกัด นอกจากนี้ยังมีคลินิกศัลยกรรมจมูก ร้านไก่กะชา เจ้าแรกในประเทศไทย ที่สำคัญคือการเป็นเจ้าของร้านแร็ปสติ๊กเกอร์รถยนต์ร่วมกับสามีของเธอในนาม Zean Wrap ซึ่งเป็นร้านเปลี่ยนสีรถยนต์ ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ และแร็ปรถ ยอดนิยมในย่านหทัยราษฎร์ และวันนี้เธอเองก็ได้ให้เกียรติกับทีมงาน มาเล่าให้เราฟังถึงเส้นทางของความชื่นชอบรถสปอร์ต และบิ๊กไบค์ของเธออย่างเป็นกันเอง
GPI : เริ่มสนใจเรื่องรถมาตั้งแต่เมื่อไหร่
JIN : จินเริ่มสนใจเรื่องรถมาตั้งแต่หลายปี ก่อนที่จะมีลูกอีกค่ะ เริ่มจากการขับบิ๊กไบค์มาก่อน จากนั้นก็ขยับมาเป็นซูเปอร์คาร์ จินผูกพันกับรถมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณลุงก็เป็นนักแข่ง จริงๆ จินชอบความเร็ว จากบิ๊กไบค์ ก็เปลี่ยนมาเป็นรถเก๋ง Toyota Vios เป็นคันแรกที่จินซื้อด้วยเงินของตัวเอง ต่อด้วย Mercedes Benz เปลี่ยนมาเป็น BMW i8 และล่าสุดก็เป็น Lamborghini Huracan คันนี้ค่ะ
GPI : ทำไมถึงหันมาชอบซูปเปอร์คาร์
JIN : ที่หันมาชอบซูปเปอร์คาร์เพราะว่ามันคือรถในฝัน และเชื่อว่านี่ก็เป็นรถในฝันของใครหลายคน อีกอย่างจินเห็นเจ้านายจินขับตั้งแต่สมัยที่จินเริ่มทำงานใหม่ๆ และเขาก็มี Lamborghini หลายคัน จินเห็นทุกวัน เลยคิดว่าสักวันจะต้องมีเป็นของตัวเองให้ได้ จินทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ 8 ปี ยิ่งพอได้เห็นทุกวัน มันก็ทำให้เราตั้งเป้าหมาย ว่าสักวันจะต้องทำให้ได้ จินเป็นคนเป้าหมายชัดเจน ถ้าเรามีเป้า และคิดว่าเราทำได้ มันก็คือได้ นับจากวันนั้น เราก็คิดว่าถ้าเราเป็นพนักงานประจำเราคงทำตามฝันยาก พอวันหนึ่งที่มีโอกาสได้ออกมาทำธุรกิจเอง ก็เริ่มเก็บเงินเพื่อทำตามเป้าหมายให้ได้ กว่าจะได้คันนี้มา ก็ราวๆ 4-5 ปี ได้ค่ะ
GPI : ทำไมถึงเลือกสีชมพูพาสเทลกับรถสปอร์ต
JIN : จริงๆ รถเดิมเป็นสีเหลือง แต่จินอยากใช้รถที่บ่งอกถึงความเป็นผู้หญิง เลยเลือกที่จะเป็นสีชมพู เพราะหลายๆ คนจะมองว่าการที่ผู้หญิงขับ Lamborghini ต้องเอารถแฟนมาขับแน่นอน จินเลยอยากใช้สีเป็นตัวแทนที่บอกได้ว่านี่เป็นรถของเรา เป็นรถที่ผู้หญิงขับแน่นอนค่ะ
GPI : ทำไมต้องเป็น Lamborghini Huracan
JIN : ที่เลือกรุ่นนี้เพราะเคยไปลองรุ่น Aventador ที่เปิดปีกได้ จินรู้สึกว่ามันใหญ่ไป ถามว่าโอเคมั้ย จริงๆ มันก็โอเคนะคะเพราะจินเคยขับ BMW i8 ที่เปิดปีกมาแล้ว แต่แค่รู้สึกว่ามันใหญ่ไปเท่านั้นเอง เท่ก็จริง แต่มันขับยากสำหรับถนนในกรุงเทพ แค่รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่าง Huracan กับ Aventador เจ้า Huracan ขับง่ายกว่ามาก ทั้งการเลี้ยว วงเลี้ยว รอบเครื่อง มันไม่ทำให้เราวิตกจริตมากเวลาขับ
GPI : มุมมองของผู้หญิงที่มีต่อรถสปอร์ต และความเร็ว
JIN : แค่รู้สึกว่า พอขับคันนี้แล้วมีพลัง รู้สึกชิลล์ อาจจะเป็นเพราะชอบบิ๊กไบค์มาก่อน เลยชอบความเร็ว แต่ทุกวันนี้บิ๊กไบค์ไม่ค่อยได้ขับเท่าไหร่แล้ว เพราะเรามีลูก ตอนนี้ก็อาศัยขับเที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากกว่า ไม่ได้อยากที่จะลงสนามแข่งกับใคร เพราะลำพังแค่ทำธุรกิจเราก็มีความกดดันมากพออยู่แล้ว ถ้าต้องซื้อมอเตอร์ไซค์มาเพื่อไปกดดันตัวเองในสนามอีก ก็จะมากเกินไป
GPI : เปรียบรถเป็นอะไรในชีวิต
JIN : จินเปรียบรถเป็นลูกค่ะ ทุกคันจะมีชื่อ เพราะเราเรียกเขาลูกทุกคำ ดูแลเขาอย่างดีทุกอย่าง ทะนุถนอมเหมือนลูกของเราอีกคน
GPI : รถในฝัน
JIN : จริงๆ ก็คือ Aventador คันนี้แหละ ที่เรามุ่งมั่นหามาได้แล้ว แต่ถ้าถามว่ารถในฝันหลังจากคันนี้ก็อยากจะมี McLaren570 อีกสักคัน เป็นประตูเปิดปีกนกอีกกันค่ะ ตอนนี้ก็พยายามเก็บเงินอยู่เพื่อให้ได้มา หวังว่าจะเป็นเร็วๆ นี้ค่ะ
GPI : ฝากถึงคนใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน
JIN : คนใช้รถใช้ถนนทุกวันนี้ เห็นแก่ตัวกันมากขึ้นค่ะ เวลาขับรถอยากรบกวนให้สังเกตรถมอเตอร์ไซค์ที่ร่วมทางมา และระวังด้วยค่ะ เพราะจินเคยขับมอเตอร์ไซค์มาก่อน อยากให้ทุกคนมีน้ำใจต่อกัน อย่าใจร้อน ถ้าเรารู้จักที่จะมีน้ำใจ บวกกับขับอย่างระมัดระวัง เปิดไฟให้สัญญาณทุกครั้ง อุบัติเหตุก็จะไม่เกิดขึ้น
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
ภาพ : พิศวัส พงศ์พุฒิโสภณ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th