Hyundai พัฒนาระบบปรับอากาศใหม่เพื่ออากาศที่สะอาดขึ้นในรถ
ตามปกติผู้ผลิตรถยนต์มักมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับระบบปรับอากาศเพื่อสร้างความสบายและสุขอนามัยที่ดีในห้องโดยสารอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าการระบาดของโควิด-19 จะเป็นสิ่งที่เร่งการพัฒนาและทำให้นำมาออกมาใช้เร็วขึ้นอย่างระบบปรับอากาศใหม่ที่ทาง Hyundai เพิ่งเปิดตัวออกมาและจะใช้กับรถบางรุ่นของตนที่ขายในเกาหลีใต้ก่อนที่จะใช้กับทั้ง Hyundai, Kia และ Genesis ที่ขายทั่วโลก
ระบบปรับอากาศที่ทาง Hyundai เพิ่งพัฒนาขึ้นมาใหม่จะประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีที่เรียกว่า After-Blow, Multi-Air Mode และ Fine Dust Indicator โดยเทคโนโลยีแรก After-Blow มีเพื่อทำให้คอยล์เย็นของแอร์ที่มีละอองน้ำเกาะอยู่แห้งและควบคุมการเติบโตของเชื้อราในระบบปรับอากาศ ซึ่งรายละเอียดของระบบนี้คือจะเริ่มทำงานเมื่อดับเครื่องยนต์ ซึ่งโดยปกติแล้วละอองน้ำบนคอยล์เย็นของแอร์จะหมดไปในเวลา 30 นาที แต่ After-Blow จะใช้เวลา 10 นาทีในการทำให้คอยล์เย็นแห้งและกำจัดละอองน้ำอื่นที่หลงเหลืออยู่ออกไปจากท่อแอร์ นอกจากนี้ระบบ After-Blow ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับกำลังแบตเตอรีและจะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อกำลังแบตเตอรีต่ำ
ส่วนเทคโนโลยีที่ 2 Multi-Air Mode จะเป็นการปล่อยให้มีอากาศกระจายอยู่ทั่วผ่านการปล่อยออกมาจากหลายช่องแอร์ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาที่เบาะของผู้ขับและผู้โดยสารนอกเหนือจากช่องระบบปรับอากาศปกติ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยีสุดท้าย Fine Dust Indicator จะวัดและตรวจจับความเข้มข้นและสภาวะของฝุ่นละอองละเอียดสูงในระดับ PM 2.5 ในห้องโดยสาร ถ้าระดับของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง โหมด Air-Cleaning หรือระบบทำความสะอาดอากาศก็จะทำงานเพื่อสร้างความสะอาดให้กับอากาศในรถ โดยระบบนี้จะทำงานอัตโนมัติเมื่อปรับความแรงของระบบปรับอากาศที่ระดับ 3 ถึง 8 รวมทั้งยังใช้การทำงานหมุนเวียนอากาศใหม่อีกครั้งและใช้ระบบปรับอากาศเพื่อลดความชื้นลง
ทาง Hyundai ระบุว่าหากมีการทำงานนี้แล้วอากาศในห้องโดยสารยังไม่ดีขึ้นก็แนะนำให้เปลี่ยนฟิลเตอร์ระบบปรับอากาศในรถใหม่ รวมทั้งทำความสะอาดเบาะและพรมปูพื้นที่อาจมีการปนเปื้อน
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th