หลังจากที่ Hyundai เคยเปิดตัวรถคอนเซ็ปต์ไฟฟ้า 45 ออกมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วในงานแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ ตอนนี้รถคอนเซ็ปต์นี้ได้กลายเป็นรถไฟฟ้าจริงในสายการผลิตด้วยในชื่อ Ioniq 5 พร้อมกับการเป็นรุ่นรถแรกภายใต้แบรนด์ย่อย Ioniq ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีใต้ใช้กับรถไฟฟ้าของตน

รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า Ioniq 5 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Electric-Global Modular Platform หรือ E-GMP สำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะซึ่งเป็นการนำแพลตฟอร์มสเก็ตบอร์ดเดิมมายืดระยะฐานล้อออกไปเพื่อให้เป็นรถไฟฟ้ามีลักษณะดึงดูดใจและใช้งานได้อเนกประสงค์ขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวรถมีความยาว 4,635 มม. กว้าง 1,890 มม. และสูง 1,605 มม. โดยระยะฐานล้อมีความยาว 3,000 มม.

ในด้านพลังขับเคลื่อนและระยะการเดินทางจะขึ้นอยู่กับรุ่นของรถซึ่งมีทั้ง Long Range และ Standard Range รวมทั้งขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งใช้ 2 มอเตอร์หรือขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อโดยใช้มอเตอร์เดี่ยว โดยในรุ่น Standard Range ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี 58 kWh หากเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 จะมีกำลังรวม 2 มอเตอร์ 273 แรงม้า แรงบิดสูงสุดรวม 605 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 6.1 วินาที แต่หากขับเคลื่อนด้วย 2 ด้วยใช้มอเตอร์เดี่ยวจะมีกำลัง 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 8.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.

สำหรับรุ่น Long Range ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี 72.6 kWh หากขับเคลื่อนทุกล้อด้วยมอเตอร์คู่มีกำลังรวม 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.2 วินาทีทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. แต่กับรุ่นขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อ มอเตอร์ด้านหลังจะมีกำลัง 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 7.4 วินาที ด้านระยะการเดินทางถูกระบุออกมาเฉพาะกับรุ่นใช้มอเตอร์เดียวซึ่งมีแบตเตอรี 72.6 kWh ว่าอยู่ที่ 470-480 ต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP

ส่วนการชาร์จพลังงานถูกระบุว่ารองรับการชาร์จไฟ 400 V และ 800 V โดยไม่ต้องใช้อแดปเตอร์ และมีระบบชาร์จเร็วเป็นพิเศษสามารถชาร์จพลังงานจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลา 18 นาที สามารถเดินทางได้ 100 กิโลเมตรด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที

ด้านรูปลักษณ์ของ Ioniq 5 แน่นอนว่ายังคงรักษาเอกลักษณ์ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถคอนเซ็ปต์ 45 เอาไว้ ซึ่งทาง Hyundai เรียกว่าเป็นภาษาการออกแบบ Parametric Dynamics จึงทำให้รถมาพร้อมกับเส้นสายที่มีความเฉียบคมในทุกด้าน พร้อมฝากระโปรงหน้าที่นูนและโค้งลงด้านหน้าเพื่อผลในด้านแอโรไดนามิก และใช้ไฟที่มีลักษณะเป็นพิกเซลทั้งไฟหน้าและไฟท้าย ส่วนล้อมีขนาด 20 นิ้วถูกออกแบบมาเพื่อแอโรไดนามิกของรถเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ

นอกจากดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นแล้ว ภายในของรถก็เป็นอีกจุดเด่นของรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก Hyundai เพราะมาในแนวทางออกแบบที่เรียกว่า Living Space ส่งผลให้ในห้องโดยสารมีพื้นที่เรียบ ในขณะที่ส่วนซึ่งถูกสัมผัสไม่ว่าจะเป็นเบาะ พนักพิงศรีษะ แผงประตู และที่ท้าวแขนล้วนแต่เป็นวัสดุมีที่มาจากแหล่งเพื่อความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างการใช้วัสดุรีไซเคิลจากขวด PET พลาสติก เส้นใยที่มาจากพืช ขนแกะ หนังจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสีชีวภาพโดยมีพืชเป็นส่วนผสม

นอกจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วยังให้ความสบายด้วย เพราะเบาะหน้าปรับไฟฟ้าสามารถปรับเอนหลังได้มากเพื่อสร้างความรู้สึกที่ไร้น้ำหนักแก่ผู้นั่ง ขณะที่ด้านหลังของเบาะถูกทำให้มีความหนาลดลง 30 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้พื้นที่มากขึ้นแก่เบาะหลัง นอกจากนี้คอนโซลกลางซึ่งทางผู้ผลิตเรียกว่า Universal Island ยังสามารถเลื่อนมาที่ด้านหลังได้มากถึง 140 มม. เพื่ออิสระมากขึ้นในห้องโดยสาร ส่วนที่แผงแดชบอร์ดถูกออกแบบให้มีจอขนาด 12 นิ้ว 2 จอยาวต่อเนื่องทั้งสำหรับการแสดงข้อมูลผู้ขับที่สามารถคัสตอมรูปแบบการแสดงข้อมูลได้ และจอสำหรับระบบ Infotainment นอกจากนี้ยังมีการแสดงข้อมูล Augment Reality Head-up Display สำหรับผู้ขับ

อีกความอเนกประสงค์ของ Ioniq 5 คือฟังก์ชั่น V2L สำหรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากรถให้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างจักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์แคมปิ้ง โดยมีช่องชาร์จพลังงานอยู่ที่เบาะหลัง

ด้านระบบความปลอดภัยรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้านี้เป็นรุ่นแรกของ Hyundai ที่มาพร้อมกับระบบช่วยขับ Highway Driving Assist 2 เพื่อให้ความสบายในการขับบนทางหลวงมากขึ้น พร้อมด้วยระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนที่ด้านหน้า ระบบช่วยเลี่ยงการชนในมุมบอด ระบบช่วยควบคุมความเร็ว ระบบตรวจจับความอ่อนล้าของผู้ขับ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และการทำงานอื่นๆ สำหรับการขายที่ยุโรปจะเริ่มในช่วงกลางปีนี้ แต่ทาง Hyundai ยังไม่ระบุราคาออกมา

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th