Hyundai จับมือ Rolls-Royce Holdings หวังพัฒนาอากาศยานเซลล์เชื้อเพลิงภายในปี 2025
Hyundai Motor Group ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีใต้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาพาหนะสำหรับการเดินทางที่อยู่นอกเหนือไปจากบนพื้นดิน โดยล่าสุดได้มีการทำบันทึกความเข้าใจกับ Rolls-Royce Holdings ซึ่งเป็นบริษัทอากาศยานในสหราชอาณาจักร เพื่อทำงานร่วมกันในการพัฒนาการขับเคลื่อนที่มีความยั่งยืนสำหรับการเดินทางบนอากาศที่มีความล้ำหน้า
ด้วยบันทึกความเข้าใจที่ทาง Hyundai ทำร่วมกับ Rolls-Royce Holdings จะทำให้ทั้ง 2 บริษัทมีความร่วมมือกันในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนสำหรับโดรนเพื่อการเดินทางของผู้โดยสารโดยใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์ม Regional Air Mobility ของ Hyundai รวมทั้งจะมีการทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมการสำหรับให้ Rolls-Royce Holdings เป็นผู้ผลิตระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้น
จากความร่วมมือนี้ทั้งสองบริษัทต้องการให้มีการสร้างอากาศยานไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงออกมาสาธิตในปี 2025 และหวังให้ระบบขับเคลื่อนของอากาศยานที่พัฒนาขึ้นถูกใช้ในวงกว้างของตลาดการเดินทางทางอากาศที่ล้ำหน้า (Advance Air Mobility Market) นอกจากนี้ทั้ง Hyundai และ Rolls-Royce Holdings ยังบอกว่าการใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานทำให้ได้ประโยชน์ต่างๆ จากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งในด้านเสียงและมลพิษที่ลดลงรวมไปถึงระยะการเดินทางที่ไกล โดยทั้ง 2 บริษัทยังทำงานร่วมกันเพื่อนำเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ระบบจัดเก็บพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานไปสู่ตลาดอากาศยานด้วย
ทาง Jaiwon Shin ประธาน Hyundai Motor Group ได้บอกเกี่ยวกับความร่วมมือนี้ว่า “เรามีความภูมิใจที่ร่วมงานกับ Rolls-Royce ซึ่งความเชี่ยวชาญด้านอากาศยานของพวกเขาจะช่วยเร่งการพัฒนาระบบขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่เราเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะสนับสนุนเป้าหมายการบินโดยมีคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2050 ของอุตสาหกรรมการบินโลก”
ส่วน Rob Watson ประธาน Rolls-Royce Electrical ได้บอกว่า “เรายินดีที่ร่วมงานกับ Hyundai Motor Group ตลาดการเดินทางทางอากาศที่ล้ำหน้ามีศักยภาพมากในเชิงพาณิชย์ และความร่วมมือนี้สนับสนุนความทะเยอทยานร่วมกันของเราในการไปสู่ตลาดการเดินทางทางอากาศที่มีความล้ำหน้า”
Supernal ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการเดินทางทางอากาศที่มีความล้ำหน้าของ Hyundai Motor Group ในสหรัฐอเมริกาได้วางแผนที่จะเริ่มการบินในพื้นที่ตัวเมืองสำหรับลูกค้าภายในปี 2028 และวางแผนที่จะเปิดเที่ยวบินสำหรับการเดินทางระยะไกลภายในปี 2030