การศึกษาของ IIHS ชี้รถเอสยูวีอันตรายต่อคนเดินถนนกว่ารถอื่น
ในขณะที่ความนิยมรถเอสยูวียังคงมีอยู่ต่อเนื่องจนทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างเพิ่มรถครอสโอเวอร์และเอสยูวีออกมาเป็นทางเลือกแทบจะทุกเซ็กเม้นต์ แต่การศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนถนน Insurance Institute for Highway Safety หรือ IIHS กลับพบว่าพาหนะในการเดินทางประเภทนี้ได้คร่าชีวิตคนเดินถนนมากกว่ารถยนต์นั่งประเภทอื่น
การศึกษาที่จัดทำโดยใช้ข้อมูลจาก 79 อุบัติเหตุการชนใน 3 พื้นที่เมืองของรัฐมิชิแกนได้แสดงว่า รถเอสยูวีเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บสาหัสได้ที่ความเร็วสูงกว่า 30 กม./ชม. ขณะที่ความเร็วตั้งแต่ 20-63 กม./ชม. มี 30 เปอร์เซ็นต์ของอุบัติเหตุที่รถเอสยูวีมีส่วนร่วมได้สร้างอันตรายถึงชีวิตต่อคนเดินถนน เมื่อเทียบกับ 23 เปอร์เซ็นต์ในรถยนต์นั่งทั่วไป และเมื่อความเร็วสูงกว่า 64 กม./ชม. 100 เปอร์เซ็นต์ของอุบัติเหตุที่รถเอสยูวีมีร่วมด้วยทำให้คนเดินถนนเสียชีวิต เมื่อเทียบกับจำนวน 54 เปอร์เซ็นต์ของรถที่มีขนาดเล็กกว่า จนทำให้เกิดความการตั้งคำถามต่อตัวเลขที่มีความแตกต่างกันมาก
Sam Monfort นักสถิติของ IIHS ซึ่งเขียนรายงานการศึกษาได้บอกว่า “จำนวนรถเอสยูวีที่เดินทางในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงทำให้น่ากังวลว่าจะยังคงมีการเสียชีวิตของคนเดินถนนมากขึ้นกว่าจากรถประเภทอื่น”
การศึกษายังแสดงว่าการออกแบบรถเอสยูวีปกติที่มีด้านหน้าขนาดใหญ่ได้เปลี่ยนเป็นแรงที่มากขึ้นต่อร่างกายคนเดินถนน โดยส่งผลกระทบต่อกระดูกเชิงกรานและหน้าอกในเวลาไม่ถึง 1/10 วินาทีหลังกันชนกระแทกอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม IIHS ตั้งข้อสังเกต “เป็นไปได้ว่าหากมีลักษณะลาดเอียงมากขึ้นจะสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บน้อยลง”
อย่างไรก็ตามการออกแบบรถยนต์ใหม่ๆ ที่มีกันชนและโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก รวมทั้งส่วนหน้าของรถที่ต่ำลงก็ยังไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินถนน เนื่องจากรูปทรงโดยรวมของหน้ารถเป็นสิ่งที่มีผลสำคัญ “การค้นพบของเราทำให้มีหลักฐานมากขึ้นว่าผู้ผลิตรถยนต์ต้องเปลี่ยนการออกแบบเพื่อช่วยต่อสู้กับจำนวนที่เพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตของคนเดินถนนในปัจจุบันที่รถยนต์ส่วนใหญ่บนถนนเป็นเอสยูวี” Becky Mueller นักวิจัยด้านวิศวกรรมอาวุโสของ IIHS กล่าวเพิ่ม
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th