ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กับความท้าทายในวันที่ตลาดรถปิกอัพหดตัว
ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กับความท้าทายในวันที่ตลาดรถปิกอัพหดตัว
Special Interview ISUZU
ปีผ่านมามีสัญญาณบ่งชี้ภายในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายประการ ด้วยยอดขายของรถยนต์ในบางเซ็กเมนท์หดตัว โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพ ซึ่งมีสาเหตุหลักจากสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการเข้ามาบุกตลาดของค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ทำให้ในปี 2567 นี้ บริษัทรถยนต์หลายค่ายตื่นตัว งัดกลยุทธ์ กระตุ้นยอดขาย เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างดุเดือด
โดยภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 กรังด์ปรีซ์มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ ถึงประเด็นดังกล่าว กับ ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด (Special Interview ISUZU)
สถานการณ์ตลาดปิกอัพในไตรมาสแรกยังหดตัวต่อเนื่อง
สถานการณ์ตลาดปิกอัพในไตรมาสแรก เฉพาะยอดขาย 2 เดือนแรกยังเป็นเหมือนครึ่งปีหลังเนื่องจากมาตรการปล่อยสินเชื่อของไฟแนนซ์ยังคงเข้มงวดเหมือนเดิม และผู้ใช้ปิกอัพส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและ SME ซึ่งมีหลักฐานการเงินที่ไม่แน่นหนาและรายได้ประจำไม่มีหลักฐานเพียงพอทำให้ผ่านมาตรฐานการคัดกรองของไฟแนนซ์ยาก
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดปิกอัพหดตัว
หากมองจากยอดขายรวมของรถปิกอัพในปีที่แล้ว 264,738 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 34% และยอดขาย 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 30,000 คัน ก็ถือว่าตลาดยังคงหดตัวต่อเนื่อง สืบเนื่องจากปีที่แล้วมีหลายค่ายแนะนำรถเก๋งรุ่นใหม่ ๆ ออกมาหลายรุ่น ทำให้ตลาดรถเก๋งขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันมาตรการทางด้านไฟแนนซ์ทำให้ตลาดรถปิกอัพหดตัวลง
แต่คาดว่าปีนี้จะมีสัญญาณที่ดีเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลมีการนำงบประมาณมาใช้ในช่วงกลางปีนี้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่สัญญาณลบก็ยังคงอยู่ เช่น ความเข้มงวดของบริษัทไฟแนนซ์ต่าง ๆ เราจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักดีๆ ระหว่างสัญญาณบวกกับลบ จำเป็นต้องดูหลายปัจจัยประกอบ เราถึงจะพิจารณาได้ว่า ตลาดรถปิกอัพปีนี้ควรจะเป็นเท่าไหร่ ทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้
การมาถึงของรถยนต์จากประเทศจีน เกิดความท้ายทายหรือไม่
จากที่เห็นได้ว่า ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 มีค่ายรถหลากหลายชาติ ทั้งจีน เวียดนาม และส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องรถไฟฟ้า ISUZU เองก็นำ Isuzu D-Max EV Concept และรถบรรทุก Isuzu Elf EV มาโชว์ด้วยนั้น อีซูซุในฐานะผู้จำหน่ายรถปิกอัพและรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ไม่คิดว่ารถทุกประเภทจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็น EV ทั้งหมด เราต้องการสนับสนุนรัฐบาลไทยในการดำเนินนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2050
ดังนั้นจึงแนะนำรถที่เหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภทแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น EV, FCEV หรือรถที่ใช้น้ำมันที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนที่เรียกว่า CN Fuel ซึ่งอีซูซุกำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากอีซูซุมีแนวคิดเกี่ยวกับ Multi-Pathways to Carbon Neutrality หรือ โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยเหตุผลที่ว่าเรามีวิธีการอันหลากหลายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน
และจากข่าวที่ว่ารถจีนเข้ามาในตลาดในกลุ่มรถปิกอัพและพีพีวีมากขึ้น ซึ่งอีซูซุยังไม่ทราบว่ารถปิกอัพของจีนที่จะแนะนำเป็นไฮบริดหรือบีอีวีกันแน่ แต่อย่างไรก็ถือว่าเป็นคู่แข่งของอีซูซุ
แต่อีซูซุเชื่อว่า เรารู้จักความต้องการของลูกค้าดี ยิ่งการทำมอนิเตอร์จะรู้ว่าลูกค้าต้องการรถที่วิ่งระยะทางสูงสุดหรือน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ และควรแนะนำรถประเภทไหนให้กับลูกค้า ได้เหมาะสมตามประสบการณ์ที่สั่งสมมาของอีซูซุ
โดยจุดแข็งที่เรามีคือ นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีความใกล้ชิดมากกับลูกค้า หรือเรียกว่า นโยบายประชาคมอีซูซุ (Isuzu Community) ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ทั้งเรื่องบริการก่อนและหลังการขาย เราจะดำเนินนโยบายนี้ต่อไปในการรักษาฐานลูกค้าของเราไว้
รถพลังงานทางเลือก คือส่วนหนึ่งที่ทำให้อีซูซุสามารถบรรลุสังคมความกลางทางคาร์บอน
อีซูซุเห็นด้วยว่า ไฮบริดปิกอัพ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่จะบรรลุสังคมความกลางทางคาร์บอนได้ และในอนาคตเราก็อาจจะมีรถไฮบริดปิกอัพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการจะเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนก็ได้ แต่ระหว่างไฮบริดปิกอัพกับปิกอัพอีวีที่จะผลิตในไทย อะไรจะมาก่อนกันนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือ การมอนิเตอร์วิธีการใช้งานของลูกค้าเป็นหลักแล้วจึงตัดสินใจว่าลูกค้าแต่ละกลุ่ม อีซูซุควรจะแนะนำรถประเภทใดจึงจะเหมาะสม เนื่องจากรถพลังงานทางเลือกมีข้อดี-ข้อเสียหลายประการ
คนไทยจะได้เป็นเจ้าของ Isuzu D-Max EV Concept ในเร็วๆ นี้หรือไม่
อีซูซุมีแผนส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าจากฐานการผลิตในไทยไปนอร์เวย์ปีหน้า นอกจากนี้มี สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และไทย แต่ยังไม่ได้จัดลำดับก่อนหลังขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ demand ของลูกค้าในประเทศว่ามีเท่าไหร่
ซึ่ง Isuzu D-Max EV Concept ในไทยก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่เรายังไม่มีแผนจำหน่ายในปีนี้ และมีหลายขั้นตอนก่อนที่จะนำสินค้าออกสู่ตลาด เนื่องจากรถปิกอัพไม่ใช่รถเก๋ง จำเป็นต้องมอนิเตอร์วิธีการใช้รถจริง เพราะรถปิกอัพไฟฟ้าจะต้องดูเรื่องน้ำหนักบรรทุก ระยะทางวิ่งได้ไกลเท่าไหร่ และเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้พร้อม และเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของลูกค้าจะนำมาสู่การพิจารณาเพื่อตัดสินใจได้
อีซูซุไม่ต้องการทำสงครามราคาแน่นอน
อีซูซุยังคงนโยบายไม่ร่วมสงครามราคา เราเชื่อว่า ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา เชื่อมั่นในบริการก่อนและหลังการขาย เราจะย้ำจุดยืนเหล่านี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจของลูกค้ามากกว่าจะแข่งในด้านราคา แต่ถ้าถามว่าปัจจัยทางด้านราคามีผลไหมก็คงส่งผลกระทบด้วยแต่เรามั่นใจในฐานลูกค้าของเราอยู่
ไม่ว่าตลาดรถปิกอัพจะอยู่ในสถานการณ์ใด แต่ทางอีซูซุ ยังคงเน้นการสื่อสารกันภายในองค์กรให้เกิดความเข้าใจ และมีเป้าหมายเดียวกันในเรื่องนโยบายบริษัท เนื่องจากเราไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์ แต่เราขายบริการและรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าด้วย ซึ่งหากมาตรการที่เข้มงวดของไฟแนนซ์ผ่อนคลายลง ตลาดรถปิกอัพก็จะกลับมาเจริญเติบโตเหมือนเดิม เราก็จะเทรนเซลส์ที่ตั้งใจอยู่กับเรา ให้รอจนกว่าจะถึงวันนั้น ซึ่งคงจะอีกไม่นาน
สำหรับใครที่สนใจยานยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัย สามารถมาสัมผัส Isuzu D-Max EV Concept และรถบรรทุก Isuzu Elf EV และทดลองขับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ได้ที่บูธอีซูซุ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th
อีซูซุจัดเต็มรถโชว์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งด้าน การใช้งานและไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย กับไฮไลท์รถปิกอัพไฟฟ้าต้นแบบ “Isuzu D–Max EV Concept” และรถบรรทุกไฟฟ้า “Isuzu Elf EV” เพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมรถแต่งสร้างแรงบันดาลใจ และรถรุ่นมาตรฐานยอดนิยม กับโซนตกแต่ง 5 โซน รวมทั้งสิ้น 15 คัน และกิจกรรมความสนุกในรูปแบบต่าง ๆ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่น
นอกจากนี้ มร. ทาคาชิ ฮาตะ ยังกล่าวอีกว่า “อีซูซุพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับนโยบายรัฐบาลไทยในการผลิตรถทุกรุ่นให้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ด้วยการใช้เทคโนโลยี DOC (Diesel Oxidation Catalyst) ในรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ และระบบ DPD (Diesel Particulate Diffuser) ในรถบรรทุกขนาดกลางบางรุ่น รถปิกอัพและรถนั่งอเนกประสงค์
ทำให้รถอีซูซุมาตรฐานยูโร 5 สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น กล่าวคือ รถอีซูซุทุกรุ่นสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue ทั้งในรถปิกอัพ
รถอเนกประสงค์ และรถบรรทุกอีซูซุทุกรุ่น ต่างกับเทคโนโลยีบำบัดไอเสียอื่น ๆ ที่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เช่น AdBlue ตลอดการใช้งาน เป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้รถ การพัฒนารถมาตรฐานยูโร 5 แม้จะทำให้ต้นทุนการผลิตรถสูงขึ้นมาก แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับลูกค้ามากเกินไป อีซูซุจึงขอปรับราคารถมาตรฐานยูโรแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ครั้งที่ 45 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็(Special Interview ISUZU) ค เมืองทองธานี
5 เพิ่มขึ้นดังนี้