ตลาดปิกอัพไทย กับความหวังจากมาตรการรัฐ ท่ามกลางยอดขายชะลอ และความท้าทายรอบด้าน
อีซูซุแสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพที่กำลังชะลอตัว
อีซูซุแสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพที่กำลังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรายละเอียดและเงื่อนไขที่รัฐบาลประกาศใช้ ท่ามกลางภาวะตลาดรวมที่ไม่เติบโต อีซูซุคาดการณ์ยอดขายใกล้เคียงปีก่อน แต่ยังไม่รวมผลจากมาตรการดังกล่าว
ในส่วนของการลงทุน อีซูซุยังคงเดินหน้าแผนการส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าสู่ยุโรป ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการผลิตโดยรวม กลยุทธ์การตลาดของอีซูซุเน้นย้ำความเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ (“Isuzu Trusted Buddy”) ตอกย้ำคุณภาพ ความประหยัด ความทนทาน และความคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยผ่านการใช้ชิ้นส่วนในประเทศจำนวนมาก ยอดจำหน่ายในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย และอีซูซุกำลังติดตามผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะไม่มีการส่งออกรถยนต์โดยตรงไปยังสหรัฐฯ ก็ตาม
โดยผู้บริหารบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำโดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ คุณปนัดดา เจณณวาสิน ประธานที่ปรึกษา มร. มิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ และคุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อทิศทางตลาดปิกอัพไทย รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่จะมารองรับสภาวะตลาดปิกอัพที่กำลังชะลอตัวอยู่ในขณะนี้
ความคิดเห็นต่อมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ของ บสย.
อีซูซุชื่นชมต่อแนวคิดของรัฐบาล โดยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม อย่างที่ทราบดีว่าตลาดรถปิกอัพหดตัวลงเนื่องจากข้อกำหนดที่รัดกุมของบริษัทไฟแนนซ์ ขณะนี้ บสย. อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งยังไม่ทราบบทสรุป แต่อีซูซุคิดว่ามาตรการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับลูกค้ามาก ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปในไม่นานนี้
มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ช่วยกระตุ้นตลาดปิกอัพได้อย่างไร
ผลตอบรับจะดีมาก-น้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของบทสรุปรัฐบาลจะประกาศ ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นรายละเอียดที่ดีพอสมควรสำหรับการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพ ส่วนอัตราการค้ำประกันจาก บสย. เราไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ เรื่องจากยังมีรายละเอียดปีกย่อยอื่น ๆ ระหว่าง บสย. กับ ธนาคารต่างๆ ซึ่งต้องรอรายละเอียดก่อน
มุมมองต่อภาพรวมตลาดปิกอัพในปัจจุบัน ของอีซูซุ
สถานการณ์ตลาดรถปิกอัพในปีนี้ จะยังไม่กระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วรถปิกอัพมียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 163,000 คัน โดยปีนี้อีซูซุตั้งเป้ายอดขายรถยนต์รวม อีซูซุ และ รถ Mu-X (PUP + PPV) จะขายได้รวม 76,000 คัน และรถขนาดกลาง-ใหญ่ (CV) จะได้ 11,000 คัน และคาดการณ์ตลาดรวมรถยนต์ทั้งประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 570,000 คัน ซึ่งยังไม่รวมผลกระทบจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เนื่องจากสถานการณ์ไฟแนนซ์ยังคงเป็นปัญหาอยู่เหมือนเดิม ทั้งนี้เรายังไม่ได้คิดรวมกับแคมเพจ์นของ บสย.
การลงทุนเรื่องส่งออกรถปิกอัพอีวี จะสามารถเริ่มในปีนี้ได้หรือไม่
ในด้านการลงทุน อีซูซุยังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนระยะยาว (ปี 2024-2028) มูลค่า 32,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาและส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าไปยังทวีปยุโรป ซึ่งจะเริ่มต้นที่ประเทศนอร์เวย์ในช่วงกลางปีนี้ การลงทุนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาด้านอื่นๆ ในโรงงานผลิตด้วย
ท่ามกลางตลาดชะลอ อีซูซุเลือกใช้กลยุทธ์ใดเข้ามากระตุ้น
ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่สดใส อีซูซุปรับกลยุทธ์การตลาดโดยเน้นย้ำความเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนาน ภายใต้แนวคิด “Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” โดยตอกย้ำคุณค่าของผลิตภัณฑ์ในด้านคุณภาพ, ความประหยัดน้ำมัน, ความทนทาน, และความคุ้มค่า พร้อมกับการบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจ นอกจากนี้ อีซูซุยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศด้วยการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศในสัดส่วนที่สูง
นอกจากนี้อีซูซุยังให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากที่สุด เช่น รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจไทยตลอดมา ซึ่งเราต้องการใช้กลยุทธ์นี้สื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่า อีซูซุ เป็น “Trusted Buddy” ที่อยู่เคียงคู่ไทย และคนไทย”
สถานการณ์ยอดจำหน่าย 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ของ ISUZU
สำหรับสถานการณ์ยอดจำหน่ายในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ อีซูซุมียอดขายรวมทุกประเภท 12,965 คัน ซึ่งลดลง 16.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในส่วนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อีซูซุกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในด้านการผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ส่งไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม อีซูซุเองไม่มีการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ โดยตรง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th
ตลาดปิกอัพไทย
ความหวังจากมาตรการรัฐ ท่ามกลางยอดขายชะลอ และความท้าทายรอบด้าน
อีซูซุแสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพที่กำลังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรายละเอียดและเงื่อนไขที่รัฐบาลประกาศใช้ ท่ามกลางภาวะตลาดรวมที่ไม่เติบโต อีซูซุคาดการณ์ยอดขายใกล้เคียงปีก่อน แต่ยังไม่รวมผลจากมาตรการดังกล่าว
ในส่วนของการลงทุน อีซูซุยังคงเดินหน้าแผนการส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าสู่ยุโรป ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการผลิตโดยรวม กลยุทธ์การตลาดของอีซูซุเน้นย้ำความเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ (“Isuzu Trusted Buddy”) ตอกย้ำคุณภาพ ความประหยัด ความทนทาน และความคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยผ่านการใช้ชิ้นส่วนในประเทศจำนวนมาก ยอดจำหน่ายในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย และอีซูซุกำลังติดตามผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะไม่มีการส่งออกรถยนต์โดยตรงไปยังสหรัฐฯ ก็ตาม
โดยผู้บริหารบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำโดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ คุณปนัดดา เจณณวาสิน ประธานที่ปรึกษา มร. มิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ และคุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อทิศทางตลาดปิกอัพไทย รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่จะมารองรับสภาวะตลาดปิกอัพที่กำลังชะลอตัวอยู่ในขณะนี้
ความคิดเห็นต่อมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ของ บสย.
อีซูซุชื่นชมต่อแนวคิดของรัฐบาล โดยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม อย่างที่ทราบดีว่าตลาดรถปิกอัพหดตัวลงเนื่องจากข้อกำหนดที่รัดกุมของบริษัทไฟแนนซ์ ขณะนี้ บสย. อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งยังไม่ทราบบทสรุป แต่อีซูซุคิดว่ามาตรการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับลูกค้ามาก ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปในไม่นานนี้
มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ช่วยกระตุ้นตลาดปิกอัพได้อย่างไร
ผลตอบรับจะดีมาก-น้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของบทสรุปรัฐบาลจะประกาศ ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นรายละเอียดที่ดีพอสมควรสำหรับการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพ ส่วนอัตราการค้ำประกันจาก บสย. เราไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ เรื่องจากยังมีรายละเอียดปีกย่อยอื่น ๆ ระหว่าง บสย. กับ ธนาคารต่างๆ ซึ่งต้องรอรายละเอียดก่อน
มุมมองต่อภาพรวมตลาดปิกอัพในปัจจุบัน
สถานการณ์ตลาดรถปิกอัพในปีนี้ จะยังไม่กระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วรถปิกอัพมียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 163,000 คัน โดยปีนี้อีซูซุตั้งเป้ายอดขายรถยนต์รวม อีซูซุ และ รถ Isuzu Mu-X (PUP + PPV) จะขายได้รวม 76,000 คัน และรถขนาดกลาง-ใหญ่ (CV) จะได้ 11,000 คัน และคาดการณ์ตลาดรวมรถยนต์ทั้งประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 570,000 คัน ซึ่งยังไม่รวมผลกระทบจากมาตรการ “” เนื่องจากสถานการณ์ไฟแนนซ์ยังคงเป็นปัญหาอยู่เหมือนเดิม ทั้งนี้เรายังไม่ได้คิดรวมกับแคมเพจ์นของ บสย.
การลงทุนเรื่องส่งออกรถปิกอัพอีวี จะสามารถเริ่มในปีนี้ได้หรือไม่
ในด้านการลงทุน อีซูซุยังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนระยะยาว (ปี 2024-2028) มูลค่า 32,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาและส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าไปยังทวีปยุโรป ซึ่งจะเริ่มต้นที่ประเทศนอร์เวย์ในช่วงกลางปีนี้ การลงทุนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาด้านอื่นๆ ในโรงงานผลิตด้วย
ท่ามกลางตลาดชะลอ อีซูซุเลือกใช้กลยุทธ์ใดเข้ามากระตุ้น
ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่สดใส อีซูซุปรับกลยุทธ์การตลาดโดยเน้นย้ำความเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนาน ภายใต้แนวคิด “Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” โดยตอกย้ำคุณค่าของผลิตภัณฑ์ในด้านคุณภาพ, ความประหยัดน้ำมัน, ความทนทาน, และความคุ้มค่า พร้อมกับการบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจ นอกจากนี้ อีซูซุยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศด้วยการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศในสัดส่วนที่สูง
นอกจากนี้อีซูซุยังให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากที่สุด เช่น รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจไทยตลอดมา ซึ่งเราต้องการใช้กลยุทธ์นี้สื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่า อีซูซุ เป็น “Trusted Buddy” ที่อยู่เคียงคู่ไทย และคนไทย”
สถานการณ์ยอดจำหน่าย 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
สำหรับสถานการณ์ยอดจำหน่ายในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ อีซูซุมียอดขายรวมทุกประเภท 12,965 คัน ซึ่งลดลง 16.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในส่วนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อีซูซุกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในด้านการผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ส่งไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม อีซูซุเองไม่มีการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ โดยตรง