Isuzu รถยอดเยี่ยมแห่งปี 2023
Best 2WD Pickup under 2,000 c.c.
NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs
จาก NEW! ISUZU D-MAX พลานุภาพ ไร้ขีดจำกัด … ก้าวสู่ NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ทะยานต่อ ให้โลกตาม คือ
สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึง “ปณิธาน” ของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ในความมุ่งมั่นที่จะรักษาฐานะความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยศักยภาพทั้งหมดนี้เอง ที่สร้างความประทับใจให้คณะกรรมการจนยอมรับในความเหมาะสมกับการคว้ารางวัล Best 2WD Pickup under 2,000 c.c. แห่งงาน Thailand Car of The Year 2023 ไปครอง
หัวใจหลักของความสำเร็จ คือ คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่ไล่เรียงมาตั้งแต่ “การขับเคลื่อน” จาก “เครื่องยนต์ดีเซล” รหัส RZ4E-TC เจเนอเรชันที่ 2 แห่งตระกูล ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น ความจุ 1.9 ลิตร เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ สร้างกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800–2,600 รอบต่อนาที
ส่วนระบบส่งกำลัง มีให้เลือก 2 รูปแบบ ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มากับระบบ Genius Sport Shift แจ้งเตือนการเปลี่ยนเกียร์ พร้อม 2 ตำแหน่งโอเวอร์ไดร์ฟที่เกียร์ 5 และ 6
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด
ทั้งยังมี ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM ที่ออกแบบพิเศษ เพื่อผสานทุกการทำงานให้ร่วมกันเป็นหนึ่ง ตั้งแต่การวางตำแหน่งเครื่องยนต์แบบ Semi-Midship เพื่อการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล และลงตัวกับการออกแบบมิติฐานล้อ ตลอดจนการเลือกใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบแหนบยาว Long Span ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะมีสัมภาระบรรทุก หรือไม่บรรทุกสัมภาระก็ตาม
พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งความสำคัญ คือ ชื่อ MAGIC EYEs ที่นำเสนอความล้ำสมัยของเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยระดับโลก ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำหน้าที่เสมือนดวงตาอัจฉริยะ ทำงานผสานกันร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน สร้างความมั่นใจทุกการขับขี่
โดยทั้งหมดได้สร้าง NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ให้ก้าวสู่ความสมบูรณ์แบบ ซึ่งคณะกรรมการสามารถสัมผัสได้ในทุกสถานีทดสอบ จนไม่อาจปฏิเสธในความยอดเยี่ยมได้เลยทีเดียว
The Most Popular Pickup
NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs
ในทุกๆ ครั้งที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยโฉมผลงานใหม่ ไม่เคยมีแม้สักครั้งที่จะไม่สร้างประวัติศาสตร์ และ NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ก็คือ “น้องใหม่” ที่สานต่อตำนาน “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ได้อย่างไม่ผิดหวัง ด้วยความสมบูรณ์แบบของศักยภาพที่ประกอบกันทั้งในเรื่อง “สมรรถนะ” ตลอดจน “ออปชัน” และ “เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก” ที่ถูกอัปเกรดขึ้นไปอีกขั้น จนกลายเป็นกระแสร้อนแรงด้วยเวลาอันรวดเร็ว และคู่ควรที่จะคว้ารางวัล The Most Popular Pickup ไปครอบครอง
แน่นอนว่า การครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างยาวนาน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย หากไร้ซึ่ง “รากฐาน” มั่นคง จากศักยภาพที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วอย่างครบถ้วน จนสามารถสื่อสารคำว่า “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม
นับตั้งแต่เรื่องราว “บทที่หนึ่ง” ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2545 กับการมาของ “อีซูซุดีแมคซ์” เจเนอเรชันแรก เป็นครั้งแรกในโลก และสร้างกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ต่อเนื่องมาจนถึงการเปิดตัวขุมพลังใหม่ ดีเซล ไอ-เทค ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 สร้างยอดจำหน่ายรวมไปกว่า 2 ล้านคัน ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตร
เดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด” รุ่นที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ทั้งในเรื่องของการออกแบบ และการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุด ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล เจเนอเรชัน 3.5 ภายใต้แนวคิด “เครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต” ต่อยอดให้ในปีต่อมา พ.ศ. 2555 เกิดการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ ด้วยยอดการผลิตที่ก้าวสู่ระดับ 3 ล้านคัน
ก่อนการมาถึงของ “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่” ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเปลี่ยนโลก!” ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ถือกำเนิดเทคโนโลยี ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ พร้อมเซอร์ไพรส์เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ครั้งแรกในโลก!จนเป็นที่มาของปรากฏการณ์ “อีซูซุ บลูเพาเวอร์” ทั่วประเทศ สร้างยอดจองแบบถล่มทลาย
จนมาสู่ประวัติศาสตร์บทใหม่กับ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” พลานุภาพ…พลิกโลก! ที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2562 ในฐานะ “รถปิกอัพที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ด้วยสมรรถนะที่อัปเกรดสู่เจเนอเรชันที่ 2 ของเครื่องยนต์ ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ทั้งพิกัด 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร พร้อม “ออปชัน” มากมาย จนทำให้คำว่า ความ “คุ้มค่า” สามารถจับต้องได้ และกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมการกวาดยอดจองไปแบบถล่มทลายอีกเช่นกัน
ตุลาคม พ.ศ. 2564 ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ตอกย้ำฐานะผู้นำ ด้วยการเปิดตัวรุ่นล่าสุด นำเสนอจุดยืนผ่านตัวตนใหม่ ภายใต้
แนวคิด “MY NEW ID…MY NEW ISUZU D-MAX” … “ใหม่! พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด”เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class
เพื่อปูทางสู่การมาถึงของ NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เติมเชื้อไฟความร้อนแรงแห่งกระแส “อีซูซุ บลูเพาเวอร์” ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก บนพื้นฐานของ “สมรรถนะ” อันน่าประทับใจจนไม่อาจปฏิเสธได้ แม้กระทั่งคณะกรรมการแห่งงาน Thailand Car of The Year 2023
Best Fuel Economy Pickup under 2,500 c.c.
NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs
Best Fuel Economy Pickup under 2,500 c.c. คืออีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติ ซึ่ง NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs คว้าไปครองจากงาน Thailand Car of The Year 2023 ผ่านบทพิสูจน์ “ความประหยัด” ของเครื่องยนต์ดีเซล ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
เจเนอเรชันที่ 2 ขนาด 1.9 ลิตร คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น เสริมทัพด้วยระบบอัดอากาศ VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์
ซึ่งศักยภาพเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร นั้น มาพร้อมกับ “ความประหยัด” อันน่าประทับใจ ด้วยผลตัวเลขจาก Eco Sticker ที่มีค่าเฉลี่ยระดับ 14.9-16.1 กม./ลิตร ต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย อีกทั้งยังมากับความสามารถในการรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลได้ถึงระดับ B20 อีกด้วย
นอกเหนือจากการการันตีด้วยตัวเลขแล้ว … “กิจกรรม” ที่จัดขึ้นโดย บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อ “ทุบสถติ” ความประหยัดในช่วงก่อนเข้าสู่วิกฤติโรคระบาด COVID-19 ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญเพื่อตอกย้ำคุณภาพ ไล่เรียงมาตั้งแต่ กิจกรรม “แชมป์ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ Isuzu Insight Fuel Economy Contest” บนเส้นทาง ปีนัง–มะละกา ระยะทาง 520.20 กม. แบบเปิดแอร์ตลอดเส้นทาง ในระยะเวลา 8 ชม. ซึ่งผลงานเฉลี่ยดีที่สุดนั้น ทำได้ถึง 25.04 กม./ลิตร
ส่วนภารกิจ “Isuzu Max Challenge กับ บอย ปกรณ์” ที่เดินทางจากมหานครเซี่ยงไฮ้ สู่เมืองฉางซา ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถังของ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่มีระยะทางรวม 1,212 กม. ก็สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้อย่างน่าทึ่ง ถึง 24.99 กม./ลิตร
และอีกครั้งกับกิจกรรม “Isuzu Last Drops Challenge น้ำมันไม่หมด…ไม่หยุดขับ! กับ บอย ปกรณ์” ที่ใช้รถ “ออลนิว อีซูซุ
ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ขณะที่ไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดแสดงบนหน้าจอ เพื่อท้าพิสูจน์ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ?
ที่จังหวัดใด ?
…ก่อนจะสร้างบทสรุปที่เหนือคาด จากการขับขี่จริง เปิดแอร์ตามมาตรฐาน ขับขี่ด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-90 กม./ชม. ท่ามกลางการจราจรปกติ กระทั่งรถหยุดนิ่ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ รวมเป็นระยะทางมากถึง 251.8 กม. และบทพิสูจน์ทั้งหมดนั้น มากพอสำหรับยืนยันความเหมาะสมในการคว้ารางวัล รถปิกอัพประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซี.ซี. ไปครอบครองอย่างแน่นอน
Best Hi-Tech & Safety Pickup
NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs
อีกหนึ่งรางวัลที่คณะกรรมการ Thailand Car of The Year 2023 ภาคภูมิใจ ในการมอบให้ NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ก็คือ Best Hi-Tech & Safety Pickup ที่เหมาะสมกับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยระดับโลก จากนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera เปรียบเสมือนดวงตาอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน สร้างระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ประกอบไปด้วย
l ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
l ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning)
l ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
l ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring)
l ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมี
รถสวนทาง ขณะเลี้ยวขวา TA-AEB
(Turn Assist with AEB)
l ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
(Autonomous Emergency Braking)
l ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบ
คันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
l ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
l ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System
l ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB
(Automatic High Beam)
l ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วย
ตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
นอกจากนี้แล้ว NEW! ISUZU D-MAX MAGIC EYEs ยังมีระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เสริมทัพความมั่นใจมากขึ้นไปอีกระดับ ทั้ง Active Safety เพื่อป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เช่น ระบบไฟฉุกเฉินกะพริบอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ABS (Anti-Lock Brake System) ชนิด 4-Channel 4-Sensor, ระบบช่วยกระจายแรงเบรกให้สัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุกของรถ EBD (Electronic Brake-Force Distribution), ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน BA (Brake Assist), ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist), ระบบควบคุมความเร็ว ลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) และกล้องมองภาพขณะถอยจอดแบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide
ขณะที่ระบบ Passive Safety สำหรับปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ ครบเครื่องด้วย เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง, เข็มขัดนิรภัยที่นั่งตอนหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Safety Belts), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบ Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ตลอดจนจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix) ที่เบาะนั่งแถว 2 โดยทั้งหมด คือ สิ่งที่อยู่ภายในโครงสร้างห้องโดยสารเสริมเหล็ก Ultra-High Tensile และแชสซีขนาดใหญ่ อันแข็งแกร่ง และปลอดภัย ให้ความมั่นใจทุกการขับขี่
Best 4WD Pickup under 3,200 c.c.
NEW! ISUZU V-CROSS 4×4 MAGIC EYEs
สูงสุดแห่งปิกอัพสปอร์ตสายลุยแห่งตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ต้องยกตำแหน่งให้กับ ISUZU D-MAX V-CROSS 4×4 ซึ่งเพียบพร้อมด้วยขีดสุดแห่งศักยภาพสมรรถนะ และเคยสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการจากงาน Thailand Car of The Year จนคว้ารางวัล Best 4WD Pickup under 3,200 c.c. มาแล้วในปีที่ผ่านมา
แล้วก็ยังไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ NEW! ISUZU V-CROSS 4×4 MAGIC EYEs ในงาน Thailand Car of The Year 2023
ปีล่าสุดอีกเช่นกัน ด้วยเพราะจากพื้นฐานของ “สมรรถนะ” อันยอดเยี่ยม ที่มาพร้อมการเติมเต็มเทคโนโลยีสุดล้ำเข้าไป จนกลายเป็นความสมบูรณ์แบบที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว
NEW! ISUZU V-CROSS 4×4 MAGIC EYEs ยังคงสื่อสารถึงความแข็งแกร่ง ดุดัน ทรงพลัง ตามสไตล์ออฟโรด ซึ่งผสมผสานด้วยความสปอร์ต ผ่านรูปลักษณ์ภายนอก ขณะที่ภายในมากับงานดีไซน์ที่หรูหรา และความสปอร์ต เพียบพร้อมด้วยออปชันอำนวยความสะดวกในการใช้งานที่ไม่ต่างอะไรจากรถอเนกประสงค์
แต่สิ่งที่ยังคงสร้างความประทับใจเช่นเดิม คือ “สมรรถนะ” จากขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ Electronic VGS Turbo, หัวฉีด High Pressure แรงดันสูงถึง 250 MPa และกล่อง ECM ประมวลผลแบบ Multi-core ร่วมกันสร้างกำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร
มีระบบส่งกำลังให้เลือก 2 รูปแบบ คือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Rev Tronic และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยมีระบบ Terrain Command เข้ามายกระดับขีดความสามารถ ผ่านการขับเคลื่อนที่เลือกได้ 3 รูปแบบ คือ 2 ล้อความเร็วสูง (2H), 4 ล้อความเร็วสูง (4H) และ 4 ล้อความเร็วต่ำ (4L) ซึ่งมากับระบบ Electronic Diff-Lock ทํางานด้วยไฟฟ้า
ระบบช่วงล่างมากับการกำหนดความสูงใต้ท้องรถที่ 240 มม. โดยสามารถลุยน้ำลึกได้สูงถึง 800 มม. บนพื้นฐานด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง และช่วงล่างด้านหลัง แหนบยาวแบบ Long Span ติดตั้งอยู่บนโครงสร้าง “ISUZU Dynamic Drive Platform”
เหนืออื่นใดเลย ก็คือ การติดตั้งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยระดับโลกเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน เพื่อสร้างระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ช่วยลดอุบัติเหตุสูงสุดได้ถึง 50% พร้อมทัพเสริมจากระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง Active Safety เพื่อป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และ Passive Safety สำหรับปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งนั่นคือการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ NEW! ISUZU V-CROSS 4×4 MAGIC EYEs กลายเป็นยอดยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการใช้งานทั่วไป หรือเอาใจสายลุยได้อย่างเต็มพิกัด จนชนะใจคณะกรรมการไปอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
The Sporty Lifestyle Pickup
NEW! ISUZU X-Series
สำหรับ ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ แล้ว…“ความสำเร็จ” ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงในไลน์อัปของรถปิกอัพ หรือรถอเนกประสงค์เท่านั้น…หากแต่ยังมีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่ Young Generation ด้วยการมาถึงของ “ปิกอัพสายพันธุ์สปอร์ต” แห่งตระกูล X-Series ซึ่งมีจุดเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2553 นำเสนอความเร้าใจผ่านเรือนร่าง 2 สไตล์อย่างต่อเนื่อง มาจนถึงเจเนอเรชันล่าสุด ที่หยุดทุกสายตาด้วยการใช้โทนสีเทา Islay Gray Opaque “เป็นครั้งแรก”
ยกระดับความสปอร์ตให้ NEW! ISUZU X-Series รุ่น Speed ที่ร้อนแรงทุกองศา รับกับการเติมรายละเอียด “ใหม่!” เช่น สเกิร์ตหน้าลายเคฟลาร์ มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน, สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า ช่วยเพิ่มความลงตัวให้กับกระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์ทูโทนสีดำ Glossy Black และสีแดงเข้ม Garnet Red พร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม และสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง ต่อเนื่องด้วยสัญลักษณ์ X ด้านข้างตัวรถ สีแดง ไปจนถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สีดำ Glossy Black ที่ตัดด้วยสัญลักษณ์ ISUZU โทนสีแดงเช่นกันอีกหนึ่ง คือ ความสปอร์ตพรีเมียมจากNEW! ISUZU X-Series รุ่น Hi-Lander ที่มากับความ “ใหม่!” ในรายละเอียด เช่น สเกิร์ตกันชนหน้า ดีไซน์เท่ รับกับกระจังหน้าแบบ Double Dimensions แบบทูโทนสีดำ Glossy Black และสีแดงเข้ม Garnet Red มาพร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม เสริมความต่างด้วยสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง และกันชนท้าย Integrated Bumper สีเดียวกับตัวรถ รวมถึงสติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X โทนสีตามสีรถ
มุมมองด้านข้างมากับสัญลักษณ์ X สีแดง, สปอร์ตบาร์สีเดียวกับตัวรถ ดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมการเสริมด้วยบันไดข้างแบบชิ้นเดียว ตกแต่งด้วยสีเงิน Silver สำหรับรถสีขาว และสีเทาเข้ม Dark Gray สำหรับรถสีเทา ส่วนล้ออัลลอยจะมากับขนาด 18 นิ้ว สีดำ Glossy Black ดีไซน์แบบ Robust Radius ประทับสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง ก่อนปิดท้ายด้วยความ “ใหม่!” ล่าสุด กับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู ดีไซน์แบบ Aeroscrew ที่ดูสปอร์ตหรูทุกมิติ
ภายในห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น มากับการเสริมหล่อโดยชุดแต่ง X-Stylish Package ที่ผสมผสานไว้ด้วยอารมณ์ความสปอร์ต และความพรีเมียม ตามด้วยการอัปเกรดของ “ใหม่!” เพิ่มเติมด้วย ดีไซน์เบาะนั่งทูโทนสีดำแดง ทรงสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ X สีแดงที่เบาะคู่หน้า ในรุ่น Speed ขณะที่รุ่น Hi-Lander จะมากับเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX เพื่อช่วยลดการสะสมความร้อน และสัญลักษณ์ X ด้ายแดงที่เบาะคู่หน้า
ส่วนขุมพลังของทั้ง 2 รุ่น จะมากับเครื่องยนต์ดีเซล ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen2 ขนาดพิกัด 1.9 ลิตร แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น พ่วงระบบอัดอากาศ VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร โดยมีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Rev Tronic เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงเหมาะสมที่จะเก็บรางวัล The Sporty Lifestyle Pickup ไปครองอีกหนึ่งสมัยเช่นกัน
Best Diesel 2WD PPV under 3,200 c.c.
The New MU-X
จากแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ เพราะฉะนั้น ทุกรายละเอียดการออกแบบ จึงถือกำเนิดจากรสนิยม และการใช้ชีวิตโดยผู้ที่สร้างความสำเร็จด้วยตัวเอง จนทำให้ The New MU-X แตกต่างจากรถอเนกประสงค์ที่หลายคนเคยได้สัมผัส ทั้งยังชนะใจคณะกรรมการจนสามารถครองรางวัล Best Diesel 2WD PPV under 3,200 c.c. ไปอย่างน่าภาคภูมิใจ
โดยไล่เรียงมาตั้งแต่ งานดีไซน์ภายนอกอันทรงพลัง สไตล์ Sports SUV ด้วยกระจังหน้า “ใหม่!” แบบ Black Chrome
ตัดสลับกับเฉดสี Magnetite Gray รอบคัน เพิ่มความดุดันอย่างลงตัว ร่วมกับล้ออัลลอย “ใหม่!” ลาย Aeroscrew ขนาด 17 นิ้ว และลาย Dynamic Rotor Blade สี Magnetite Gray ขนาด 20 นิ้ว เข้ามาเสริมทัพตัวเลือก ร่วมกับลาย Dynamic Design ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารได้รับการอัปเกรดขึ้นไปอีกระดับ บนพื้นฐานรายละเอียดที่ประณีตดุจงาน Craftmanship ซึ่งประกอบด้วย ภายในโทนสีน้ำตาลเทาสลับสีน้ำตาลเข้มMacchiato Brown “ใหม่!” ให้อารมณ์สุขุมนุ่มลึก ผสานด้วยความหรูจากวัสดุ Piano Black และ Chrome
อีกทั้งยังเพิ่มเติมออปชันอำนวยความสะดวกมาให้ เพื่อเติมเต็มความสะดวกสบายอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยฝาท้าย Smart Tailgate “ใหม่!” เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor ซึ่งใช้จังหวะเดินเข้า-ออก แทนการแกว่งเท้าโดยจะมาพร้อมกับระบบ Jam Protection เพื่อเสริมความปลอดภัยมากขึ้นไปอีกขั้น
ความยอดเยี่ยมของ The New MU-X ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ “สมรรถนะ” ที่ประกอบขึ้นจาก เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น พ่วงระบบอัดอากาศ VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ สร้างกำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย สู่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อสนองตอบการขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เหนือชั้นไปกว่านั้น ต้องยกให้กับการอัปเกรดความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก โดยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ผสานเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assstance Systems) มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ทั้งแบบ Active Safety ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และ Passive Safety เพื่อปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ จนส่งให้ The New MU-X กลายเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่เปี่ยมด้วยความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
Best Hi-Tech & Safety PPV
The New MU-X
ความสมบูรณ์แบบของ The New MU-X ไม่ได้มีเพียงแค่อรรถประโยชน์ใช้สอยหรือ สมรรถนะเท่านั้น เพราะอีกหนึ่งรางวัลอัน
ทรงเกียรติที่ได้รับ คือ Best Hi-Tech & Safety PPV อันเกิดจากเทคโนโลยีที่ถูกติดตั้งในรถ เช่น หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Android Auto และ Wireless Apple CarPlay, หน้าจออัจฉริยะ Smart MID และ Smart Tailgate แบบ Step Sensor การติดตั้งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยระดับโลก เพิ่มเติมเข้ามา ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอีกด้วยเช่นกัน
โดยระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน จะถูกแบ่งออกเป็น ระบบ Active Safety สำหรับป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย ระบบเบรก ABS, EBD และ BA นอกจากนี้ยังมี ระบบไฟฉุกเฉินกะพริบอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal), ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control),ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist), ระบบควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) และกล้องมองภาพขณะถอยจอดแบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide
ตามมาด้วยระบบ Passive Safety สำหรับปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ ที่ไล่เรียงมาตั้งแต่ โครงสร้างห้องโดยสารเสริมเหล็ก
Ultra-High Tensile และแชสซีขนาดใหญ่, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง, เข็มขัดนิรภัยที่นั่งตอนหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Safety Belts), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบ Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ตลอดจนจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix) ที่เบาะนั่งแถว 2
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะ The New MU-X ยังมอบความมั่นใจมากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก จากนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน จนเกิดเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ล้ำสมัย ซึ่งประกอบไปด้วย
l ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
l ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning)
l ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
l ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring)
l ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถ
สวนทาง ขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn
Assist with AEB)
l ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
(Autonomous Emergency Braking)
l ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบ
คันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
l ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
l ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System
l ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB
(Automatic High Beam)
l ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วย
ตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
ซึ่งทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ The New MU-X สามารถแสดงศักยภาพอย่างเต็มขีดจำกัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อ
คณะกรรมการ จนมากพอที่จะพิสูจน์ว่าคู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรติอย่างแท้จริง
Best CSR Project of The Year
Isuzu Gives Water…For Life Project
รางวัล Best CSR Project of The Year ยังคงเป็นความสำเร็จที่ “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย” ได้รับอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคม Corporate Social Responsibility (CSR) ในชื่อโครงการ Isuzu Gives Water…For Life (อีซุซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต)
ด้วยวัตถุประสงค์หลักก็คือ การเพิ่มคุณภาพของน้ำ สำหรับอาคารเก็บน้ำในโรงเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และในอีกทางหนึ่งก็ยังเป็นการให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้องในชุมชนใกล้เคียง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด รวมถึงช่วยสนับสนุนให้ผู้คนในชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืนอีกด้วยเช่นกัน
โดย “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย” ได้ริเริ่มโครงการ Isuzu Gives Water…For Life (อีซุซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน “นับเป็นปีที่ 10” ด้วยปณิธานแรงกล้าที่จะ “ดำเนินโครงการ จนกว่าจะไม่มีโรงเรียนในประเทศไทย ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดอีกต่อไป”
และล่าสุด “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย” ได้เดินทางไปเปิดโครงการแห่งที่ 41 ณ โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ 10 บ้านสาละโว้ ตำบลพานทอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร เปิดสอนในระดับตั้งแต่อนุบาล 1-มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนประมาณ 276 คน และบุคลากรจำนวน 18 คน ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภค เนื่องจากสถานที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ปลายสายของระบบน้ำ บ่อยครั้งน้ำประปาจึงไม่เพียงพอต่อการใช้ โดยเฉพาะในหน้าแล้ง นอกจากนี้ น้ำที่ได้มาแม้ว่าจะผ่านการกรองแล้ว ยังขุ่นมัว ไม่เหมาะแก่การบริโภค โรงเรียนจึงต้องซื้อน้ำถังแกลลอนเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค เฉลี่ยเดือนละ 7,000-8,000 บาท
ด้วยเหตุนั้น “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย” จึงได้ส่งทีมสนับสนุนลงพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อสำรวจ
และแก้ไขปัญหา ด้วยการติดตั้งชุดอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาลแบบครบวงจร และระบบกรองน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐาน ไปจนถึงดำเนินการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อช่วยให้นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน รวมถึงคนในชุมชนใกล้เคียงที่ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคและบริโภคอย่างยั่งยืน
รวมไปถึงยังมอบเงินสนับสนุนการศึกษา และร่วมเลี้ยงอาหารกลางวันแก่คณะครูและนักเรียนอีกด้วย ซึ่งนี่คือ การตอกย้ำปรัชญาการดำเนินธุรกิจแห่ง “วิถีอีซูซุ”… เพื่อให้ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” อย่างแท้จริง