ISUZU : CAR OF THE YEAR 2024
The Best
2WD Pickup under 2,000 c.c.
“New! Isuzu D-Max”
“Unlock Your Potential…เหนือลิมิต พิชิตโลก” คือคอนเซปต์ของ “New! Isuzu D-Max” ที่มากับดีไซน์ใหม่ สะกดทุกสายตา พร้อมด้วยความสามารถในการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อสานต่อการครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านั้น เพราะ “สมรรถนะ” ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของหัวใจหลักแห่ง “New! Isuzu D-Max”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น” ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รหัส RZ4E-TC เจเนอเรชันที่ 2 พิกัดเล็กสุด ขนาด 1.9 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทอร์โบ VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ สร้างกำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร
ซึ่งจะมากับระบบส่งกำลังที่มีให้เลือก 2 สไตล์ ประกอบด้วย ความสะดวกสบาย จากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่สปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มากับระบบ Genius Sport Shift ช่วยแจ้งเตือนรอบการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเร้าใจแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นอีกด้วย
อีกจุดเด่น คือโครงสร้างตัวถัง Isuzu Dynamic Drive Platform ออกแบบพิเศษ เพื่อผสานให้ทุกการทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย การวางตำแหน่งเครื่องยนต์หลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship เพื่อการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุล ขณะที่เสื้อสูบมีการชุบแข็งแบบเหนี่ยวนำ ด้วยคลื่นความถี่สูงที่เรียกว่า Melt-in Liner เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะอีซูซุ ทั้งยังมีการเปลี่ยนวัสดุไปใช้เหล็กกล้า Ultra-High Tensile เพื่อยกระดับความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบปรับความตึงอัตโนมัติ Timing Gear & Chain ช่วยเพิ่มความทนทาน และลดเสียงรบกวนให้ดีขึ้น ก่อนปิดท้ายด้วยระบบช่วงล่าง ซึ่งมีด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมโช้คอัพแก๊ส กับด้านหลังแบบแหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี พร้อมโช้คอัพแก๊ส (แหนบเหนือเพลา)
ซึ่งทั้งหมด คือองค์ประกอบที่สร้าง “สมรรถนะ”…เหนือ “ลิมิต” และสามารถ “พิชิต” ใจ คณะกรรมการงาน Thailand Car of The Year 2024 ไปอีกครั้ง ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่น ทั้งในฐานะของแบรนด์ และยนตรกรรมอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค
ชาวไทยอย่างแท้จริง
The Most Popular Pickup
“New! Isuzu D-Max”
การมาของ “New! Isuzu D-Max” ในคอนเซปต์ “Unlock Your Potential…เหนือลิมิต พิชิตโลก” ได้สร้าง “กระแสตอบรับ” อันยอดเยี่ยม รวมถึงตอกย้ำความสำเร็จแห่งแบรนด์รถปิกอัพอันดับ 1 ในเมืองไทยเช่นกัน
ด้วยเหตุผลสำคัญคือความครบครันของไลน์อัปที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง New! Isuzu D-Max Hi-Lander ซึ่งมีตัวเลือกทั้งรถปิกอัพ 2 ประตู และรถปิกอัพ 4 ประตู
New! Isuzu D-Max Hi-Lander อัปเกรดงานดีไซน์ใหม่! ตั้งแต่ ชุดกระจังหน้าแบบ 3-Dimension ดุดันด้วยโทนสี Silky Silver
และ Dark Grey เสริมระบบ Air Curtain ที่กันชนหน้า นวัตกรรม Aerodynamic ช่วยลดแรงต้านอากาศสไตล์รถสปอร์ตหรู ลงตัวกับ
ชุดไฟหน้าโฉบเฉี่ยว Isuzu Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่เป็นไฟขับขี่เวลากลางวัน, ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว ขณะ
ที่มุมมองด้านหลังสะดุดตาด้วยฝาท้ายใหม่! และไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED สัญลักษณ์ใหม่! แห่งความโดดเด่น ก่อนปิดท้ายด้วย
ล้ออัลลอย ดีไซน์แบบ Turbine Spiral ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น 2 ประตู และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น 4 ประตู
ภายในพรีเมียมตามแนวคิด High-Class & Sophisticated และประณีตด้วยงาน “Miura” Design ที่ออกแบบตามหลัก Usability Design ส่วนความครบครันด้านออปชันต้องยกให้รุ่น4 ประตูเป็นหลัก มาพร้อมกับไฮไลต์สำคัญ ใหม่! ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่ประกอบด้วยกล้อง 3D Imaging Stereo Camera ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่า เสริมด้วยเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน รวมถึงระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) และใหม่! ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
มากไปกว่านั้น คือ ขุมพลังของ New! Isuzu D-Max Hi-Lander ที่มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ จากพื้นฐาน “เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น” เริ่มจากรุ่น2 ประตู กับขนาด 1.9 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รหัส RZ4E-TC เจเนอเรชันที่ 2 พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่น 4 ประตู ยกระดับความเร้าใจขึ้นไปอีกขั้น ด้วยขุมพลัง 3.0 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รหัส 4JJ3-TCX เสริมเทอร์โบแปรผัน VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ที่มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร
โดยที่ระบบส่งกำลัง จะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่สปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มากับระบบ Genius Sport Shift ช่วยแจ้งเตือนรอบการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม
ซึ่งจากความหลากหลายนี้เอง ทำให้New! Isuzu D-Max Hi-Lander กลายเป็นอีกหนึ่งความยอดเยี่ยมที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด และเหมาะสมแล้วในการรับรางวัล The Most Popular Pickup จากงาน Thailand Car of The Year 2024 ไปครอง
The Best
Fuel Economy Pickup under 2,500 c.c.
“New! Isuzu D-Max”
เป็นอีกครั้งของการครอบครองรางวัล The Best Fuel Economy Pickup under 2,500 c.c. โดย “New! Isuzu D-Max”
จากการตัดสินของคณะกรรมการจากงาน Thailand Car of The Year 2024 จากความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อยืนยันในคุณภาพความเป็นรถปิกอัพประหยัดน้ำมันอันดับต้นๆของเมืองไทย
นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อีซูซุได้จัดกิจกรรมที่แสดงถึงความประหยัดน้ำมันของรถมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เช่นกิจกรรม “แชมป์ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ Isuzu Insight Fuel Economy Contest” บนเส้นทาง ปีนัง–มะละกา ระยะทาง 520.20 กม. ที่ขับขี่แบบ
เปิดแอร์ตลอดเส้นทางในระยะเวลา 8 ชม. ก่อนเผยผลงานเฉลี่ยดีที่สุด คือ 25.04 กม./ลิตร
ต่อเนื่องมาที่ภารกิจ “Isuzu Max Challenge” บนเส้นทางเริ่มต้นจาก มหานครเซี่ยงไฮ้ สู่เมืองฉางซา ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถังของ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์”และต้องขับขี่เป็นระยะทางรวม 1,212 กม. กับอัตราสิ้นเปลืองเกินคาด คือ 24.99 กม./ลิตร หรือกิจกรรม “Isuzu Last Drops Challenge น้ำมันไม่หมด…ไม่หยุดขับ!” ที่ใช้รถ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ขับขี่ขณะที่ไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดแสดงบนหน้าจอ เพื่อพิสูจน์ ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน? และหยุดที่จังหวัดใด?… โดยผลงานครั้งนี้ ขับขี่จริง เปิดแอร์ตามมาตรฐาน และใช้ความเร็วเฉลี่ย 80-90 กม./ชม. ท่ามกลางการจราจรปกติ จนรถหยุดนิ่ง และได้คำตอบ คือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมระยะทางสูงสุดถึง 251.8 กม. เลยทีเดียว
และจากประสบการณ์ที่สั่งสมจากห้องทดลอง รวมถึงผลงานต่างๆ จากกิจกรรมการขับขี่จริง ทำให้ “เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น” ขนาด 1.9 ลิตร ดีดีไอบลูเพาเวอร์ รหัส RZ4E-TC เจเนอเรชันที่ 2 พร้อมเทอร์โบ VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมความสมบูรณ์แบบในศักยภาพด้วย “สมรรถนะ” เร้าใจจากกำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และเหนืออื่นใดเลย คือ ความสามารถของการเป็นรถปิกอัพประหยัดน้ำมัน ที่ผู้บริโภคชาวไทยยอมรับ โดยมีผลการการันตีจาก Eco Sticker เป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 14.9-16.1 กม./ลิตร และนั่นมากพอในการยืนยันความเหมาะสมที่จะคว้ารางวัล The Best Fuel Economy Pickup under 2,500 c.c. ไปครองอีกครั้งในปีนี้
The Best
Hi-Tech & Safety Pickup
“New! Isuzu D-Max”
New! Isuzu D-Max สปอร์ตปิกอัพสายลุย ที่มาพร้อมการอัปเกรดเต็มขั้น จนสามารถคว้ารางวัล The Best Hi-Tech & Safety Pickup จากงาน
Thailand Car of The Year 2024 ไปครองอย่างสวยงาม
โดยออปชันล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยชั้นสูงที่จัดสรรมาให้อย่างครบครันของ New! Isuzu D-Max ประกอบด้วยชุดไฟหน้าใหม่ Isuzu Vision Bi-LED ที่มาพร้อมกับระบบไฟ Multifunctional Daylight ซึ่งเป็นได้ทั้งไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน, ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว พร้อมชุด
ไฟท้าย Triple-Armour แบบ LED เช่นกัน นอกจากนี้ บริเวณกันชนหน้ายังได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็น Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic เพื่อช่วยลดแรงต้านอากาศตามแบบฉบับรถสปอร์ตระดับหรูอีกด้วย
ภายในพรีเมียมด้วยงานออกแบบ “Miura” Design (“มิอุระ” ดีไซน์) ภายใต้แนวคิดHigh-Class & Sophisticated กับแผงคอนโซลหน้าแบบ Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายตามหลัก Usability Design มาพร้อมความสะดวกสบายเช่น เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งคนขับ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระ ซ้าย-ขวา และสามารถกรองฝุ่นระดับ PM 2.5, หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID ให้แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน
ต่อเนื่องไปถึงระบบความปลอดภัย ที่นอกเหนือจากขั้นพื้นฐาน ทั้ง Active Safety ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และ Passive Safety ปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ ตามด้วยการอัปเกรดใหม่! ล่าสุด ฟังก์ชันการช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ซึ่งประกอบด้วยระบบ 3D Imaging Stereo Camera ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่า มาพร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 ตำแหน่งรอบคัน รวมถึงระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) และใหม่! ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) เพื่อเติมเต็มความมั่นใจขณะขับขี่ให้ถึงขีดสุด
The Best 4WD Pickup under 3,200 c.c.
“New! Isuzu V-Cross 4×4”
ในงาน Thailand Car of The Year 2024 ที่ผ่านมา New! Isuzu V-Cross 4×4 สปอร์ตปิกอัพสายลุยไม่ได้แค่ครองใจคณะกรรมการจนคว้ารางวัล The Best Hi-Tech & Safety Pickup เท่านั้นหากแต่ยังคว้ารางวัลThe Best 4WD Pickupunder 3,200 c.c. ไปพร้อมกันอีกด้วย
โดยการส่งมอบความประทับใจที่คุ้นเคยให้คณะกรรมการได้สัมผัส ตั้งแต่ความสามารถของ “เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจคชั่น” พิกัด 3.0 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รหัส 4JJ3-TCX ที่มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังที่มีให้เลือก ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่สปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มากับระบบ Genius Sport Shift ช่วยแจ้งเตือนรอบการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม
ยกระดับศักยภาพการขับเคลื่อนในสไตล์ 4×4 ด้วยระบบ Terrain Command ที่แม่นยำ และฉับไว ในการเปลี่ยนรูปแบบ ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ ความเร็วสูง (2H), 4 ล้อ ความเร็วสูง (4H) และ 4 ล้อ ความเร็วต่ำ (4L) ที่มาพร้อมระบบ Electronic Diff-Lock ทํางานด้วยไฟฟ้าเสริมด้วยระบบ Rough Terrain Mode ควบคุมการกระจายกำลังทุกช่วงความเร็ว ทั้งในรูปแบบ 2 ล้อและแบบ 4 ล้อ, ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ และทิศทางการเลี้ยวผ่านหน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ตลอดจนความสามารถในการลุยน้ำที่ทำได้สูงสุดถึง 800 มม.
มากไปกว่านั้น คือ การผสมผสานทุกอย่างให้ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยโครงสร้างตัวถัง Isuzu Dynamic Drive Platform ที่ออกแบบพิเศษ เช่น การวางตำแหน่งเครื่องยนต์หลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship, เสื้อสูบชุบแข็งแบบเหนี่ยวนำ ด้วยคลื่นความถี่สูง Melt-in Liner เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะอีซูซุ, ยกระดับความแข็งแกร่งโดยวัสดุเหล็กกล้า Ultra-High Tensile,ติดตั้งระบบปรับความตึงอัตโนมัติ Timing Gear & Chain ช่วยเพิ่มความทนทาน พร้อมลดเสียงรบกวน
ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัยกับฟังก์ชันการช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ประกอบด้วยระบบ 3D Imaging Stereo Camera ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่า มาพร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 ตำแหน่งรอบคัน พร้อมฟังก์ชันที่ช่วยให้ทุกการผจญภัยสะดวกสบาย ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนก่อน
การชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) ทำงานร่วมกับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) และโหมดเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking), ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring), ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) หรือระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน LDW เป็นต้น
The Best Heavy-duty 4WD Single-cab Pickup
“Isuzu D-Max Spark 4×4”
Isuzu D-Max Spark 4×4 ที่สุดแห่งความคุ้มค่า ซึ่งหลายคนไม่อาจปฏิเสธ เช่นเดียวกับคณะกรรมการ Thailand Car of The Year 2024 ที่ต่างก็ลงมติเป็นเสียงเดียวกัน เรื่องความเหมาะสมกับรางวัล The Best Heavy-duty 4WD Single-cab Pickup
Isuzu D-Max Spark 4×4 ไม่ได้มีเพียงงานดีไซน์ที่ถูกอัปเกรดขึ้นใหม่เท่านั้น หากแต่ใจความสำคัญ คือการใช้งานที่คุ้มค่า ซึ่งประกอบด้วยจุดเด่นด้านรูปลักษณ์ เช่น กระบะท้ายขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง สำหรับรองรับรูปแบบการบรรทุกที่หลากหลาย
ภายในเน้นตอบโจทย์งานบรรทุก ไปพร้อมๆ กับเน้นความสะดวกสบายสูงสุด เช่น ใหม่! หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay, พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง รวมถึงพื้นที่เหนือศีรษะ และพื้นที่วางเท้า ตลอดจนเบาะนั่งปรับองศาพนักพิงได้ เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าเวลาเดินทางไกล
ต่อเนื่องที่ไฮไลต์หลักของ Isuzu D-Max Spark 4×4 กับความสามารถในการขับเคลื่อน เริ่มจาก “เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น” ขนาด 3.0 ลิตร ดีดีไอบลูเพาเวอร์ เรี่ยวแรงสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มากับระบบ Genius Sport Shift โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ ระบบขับเคลื่อน 4×4 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบ Terrain Command สำหรับปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ อาทิ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ความเร็วสูง (2H), 4 ล้อ ความเร็วสูง (4H) และ 4 ล้อ ความเร็วต่ำ (4L) เสริมด้วยระบบล็อกเฟืองท้าย Electronic Diff-Lock ทํางานด้วยไฟฟ้า, ระบบ Rough Terrain Mode เพื่อควบคุมการกระจายกำลังทุกช่วงความเร็ว ทั้งการขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ
ทั้งยังรองรับด้วยโครงสร้างตัวถังอันแข็งแกร่งที่ออกแบบพิเศษ Isuzu Dynamic Drive Platform พร้อมระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมโช้คอัพแก๊ส กับด้านหลังแบบแหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี พร้อมโช้คอัพแก๊ส ที่ผ่านการปรับเซตมา เพื่อเน้นการใช้งานบรรทุกเป็นหลัก ซึ่งตอกย้ำให้คณะกรรมการมั่นใจในทิศทางเดียวกัน ว่า Isuzu D-Max Spark 4×4 เหมาะสมกับรางวัล The Best Heavy-duty 4WD Single-cab Pickup อย่างแท้จริง
The Best PPV DIESEL 2WD under 3,200 c.c.
“The New MU-X”
เป็นอีกครั้งที่รางวัล The Best PPV DIESEL 2WD under 3,200 c.c. จากงาน Thailand Car of The Year 2024 ยังคงถูกจับจอง ด้วยศักยภาพความสมบูรณ์แบบของ The New MU-X Ultimate ที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้คณะกรรมการได้สัมผัส
ตั้งแต่การสร้างความสะดุดตาผ่านรูปลักษณ์ ที่ผสมผสานงานดีไซน์ความสปอร์ต และความหรูหราให้เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมรายละเอียดความโดดเด่น เช่น ชุดกระจังหน้าดีไซน์ World Cross Flow, ชุดไฟหน้าแบบBi-LED Projector ดีไซน์ Arrow Signature พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED รวมถึงชุดไฟท้าย LED กับงานดีไซน์แบบ Winglet Signature ซึ่งเพิ่มมิติมากขึ้น ด้วยโคมไฟ 3-Line LED ไปจนถึงการเสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารนำเสนอความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์เต็มรูปแบบ เพิ่มอารมณ์ความสปอร์ตด้วยการเลือกใช้โทนสีเทาดำ และออปชันอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold, ระบบ Infotainment ที่มากับหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ตลอดจนระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อม Filter กรองฝุ่น PM 2.5 และช่องแอร์ทั้ง 3 แถวโดยเบาะนั่งทั้ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ได้รับการสไตล์ 7 Stars Cruiser เพื่อรองรับทุกสรีระ
โดยเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับได้ 8 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งแถว 2 และแถว 3 ปรับเอนได้ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย รวมถึงปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ และราบสนิท สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้เต็มพิกัด ปิดท้ายสุดด้วยฝาท้าย Smart Tailgate ใหม่! เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor ซึ่งใช้จังหวะเดินเข้า-ออกแทนการแกว่งเท้า พร้อมระบบ Jam Protection ยกระดับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นที่สร้างความประทับใจ คือ สมรรถนะอันยอดเยี่ยมจาก “เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น” พิกัด 3.0 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่สปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย รองรับโดยระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง จับคู่กับด้านหลังแบบ 5-Link พร้อมเหล็กกันโคลง ที่ปรับแต่งมาให้นุ่มนวล เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพในการขับขี่ ไปพร้อมกับมีการทรงตัว และการยึด
เกาะถนนที่ดีเยี่ยม เอกสิทธิ์เฉพาะใน แบบฉบับ MU-X
The Best Hi-Tech & Safety PPV
“The New MU-X”
ไม่ใช่ “สมรรถนะ” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่สามารถชนะใจคณะกรรมการได้เพราะภายใต้ความเร้าใจ คือระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา ซึ่ง The New MU-X คว้ารางวัล The Best Hi-Tech & Safety PPV ไปครองอย่างสง่างามด้วยเทคโนโลยี Isuzu Matrix Safety Intelligence แบบฉบับยนตรกรรมระดับพรีเมียม
เริ่มจากขั้นพื้นฐาน Active Safety และ Passive Safety เพื่อป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และปกป้องขณะอุบัติเหตุ อาทิ ถุงลมนิรภัย SRS Airbags 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทุกที่นั่ง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix) บริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2
ต่อเนื่องที่ตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ซึ่งประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution), ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) และระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System), ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control), ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้ความแข็งแกร่ง และทนทานของโครงสร้าง
ห้องโดยสารแบบ Ultra-High Tensile เหนือขึ้นไปอีกขั้น คือ The New MU-X ได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ชั้นสูงแบบรอบทิศทาง ในชื่อ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วยเช่นกัน มอบความมั่นใจแบบครบครันด้วยกล้องหน้าคู่แบบ 3D Imaging Stereo Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคันตามด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go, ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) ทำงานร่วมกับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) และโหมดเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)
ต่อเนื่องด้วยระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring), ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic
Alert), ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning), ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam), ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation), ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake), ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ (Parking Aid System) และระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตนเอง MSL (Manual Speed Limiter)
The Best CSR Project of The Year
“Isuzu Gives Water…for Life” Project
เป็นเวลากว่า 10 ปีมาแล้วสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม Corporate SocialResponsibility (CSR) ในชื่อโครงการ Isuzu Gives Water…for Life (อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต) โดย“กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย”ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อโครงการต่อไป ภายใต้วัตถุประสงค์หลักดั้งเดิมในการเพิ่มคุณภาพของน้ำสำหรับอาคารเก็บน้ำในโรงเรียน ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ
ซึ่งนับจากก้าวแรก จนถึงปัจจุบัน โครงการ Isuzu Gives Water…for Life (อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต) ส่งท้ายปีเก่า พ.ศ. 2566 ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2567 กับโรงเรียนอนุบาลศรีบรรพต ตำบลเขาย่า อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง เป็นแห่งที่ 43 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดในโรงเรียน และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่นักเรียน บุคลากร และคนในชุมชน ตอกย้ำปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “วิถีอีซูซุ” นั่นคือ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”
สำหรับโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” อีซูซุได้ส่งทีมงานลงพื้นที่สำรวจปัญหา และติดตั้งระบบน้ำดื่มสะอาด ประกอบด้วย ระบบบ่อบาดาลครบวงจร, ระบบกรองน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐาน พร้อมอาคารศูนย์ผลิตน้ำดื่ม และจัดอบรมวิธีการใช้งาน, การทำความสะอาด และการบำรุงรักษาให้กับบุคลากรที่รับผิดชอบ รวมทั้งการเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้มีน้ำดื่มสะอาดถูกหลักอนามัยใช้บริโภคอย่าง ตามปณิธานที่จะดำเนินโครงการ จนกว่าไม่มีโรงเรียนในประเทศไทย ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มอีกต่อไป