Isuzu ประเดิมขายรถกระบะไฟฟ้าในเมืองไทยปี 2025
Isuzu ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ตกเป็นกระแสข่าวว่ามีแผนจะเปิดตัว รถกระบะไฟฟ้า ที่ใช้พื้นฐานจากรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ All-New Isuzu D-Max เจเนอเรชั่นปัจจุบัน โดยคาดว่าจะเริ่มต้น ขาย ในประเทศไทยเป็นตลาดแรกของโลกในปี 2025
Nikkei สำนักข่าวของประเทศญี่ปุ่น รายงานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Isuzu Motors มีแผนจะขาย รถกระบะพลังงานไฟฟ้า ในประเทศไทย ภายใน 2 ปี ข้างหน้า เพื่อต้านความนิยมกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) แบรนด์จีนที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3-4 ปีหลัง
รถกระบะขนาด 1 ตัน มีสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของยอดขายรถ Isuzu ทั่วโลก โดยคาดว่ารถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของพวกเขาจะใช้พื้นฐานจาก D-Max เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2019 และใช้โรงงานประเทศไทยเป็นฐานการผลิต
ในรายงานข่าวของนิคเคอิ ระบุเพิ่มเติมว่า Isuzu Motor มีแผนจะส่งออก D-Max EV ที่ผลิตจากประเทศไทยไปขายที่นอร์เวย์ เป็นประเทศแรกในปี 2025 จากการที่กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย มีความเข้มงวดในข้อกำหนดการปล่อยมลพิษของยานพาหนะใหม่ ก่อนจะเริ่มขายในประเทศอื่นของทวีปยุโรป รวมทั้งแถบตะวันออกกลางต่อไป
สำหรับประเทศในปัจจุบัน Isuzu ครองตลาดรถกระบะมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยนับเป็นเซกเมนต์ที่มียอดขายรวมมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรถยนต์ไทยตลอดทั้งปีอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ Isuzu นำเสนอแผนการผลิตรถบรรทุกขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 ทำให้คาดว่า D-Max เวอร์ชั่นไฟฟ้าจะเป็นโมเดล EV รุ่นที่ 2 ต่อจากรถบรรทุกขนาดกลางที่ประกาศออกมาเมื่อช่วงต้นปีนี้
นอกจากนี้ด้วยกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่มียอดขาย 5,014 คัน หรือ 8 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถใหม่ เดือนกรกฎาคม 2566 ตามข้อมูลของบริษัทสำรวจการตลาด MarkLines แสดงให้เห็นว่ายอดขายรถ EV ในประเทศไทยมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
ขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์จีน เพิ่มการแข่งขันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดย BYD ภายใต้การจัดจำหน่ายของเรเว่ ออโตโมทีฟ ที่ครองสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยราว 30 เปอร์เซ็นต์ กำลังเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตที่จังหวัดระยอง
ทำให้ตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์จีน เพิ่มการแข่งขันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดย BYD ภายใต้การจัดจำหน่ายของเรเว่ ออโตโมทีฟ ซึ่งครองสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยราว 30 เปอร์เซ็นต์ กำลังเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตที่จังหวัดระยอง
นอกจากนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล จะเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ของประเทศจีนที่จะเข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานมูลค่า 9.8 พันล้านบาท เช่นเดียวกับ 2 ผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดอย่าง SAIC เจ้าของแบรนด์ MG และ Great Wall Motor กำลังวางแผนจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น และครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทยมาตลอดหลายปี มีแผนจะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าทั้ง Toyota Hilux Revo BEV และอีกหนึ่งโมเดลที่พัฒนาจาก IMV0 คอนเซ็ปต์คาร์ที่เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะได้เห็นคันจริงภายในปี 2023 กลายเป็นอีกเหตุผลที่ Isuzu ต้องเร่งแผนเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งยอดขายของตลาดประเทศไทยเอาไว้
อย่างไรก็ตามบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่าประเทศไทยต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรกับขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งโดยเฉพาะสถานีชาร์จไฟ ที่จะต้องมีจำนวนเพียงพอรองรับการใช้งาน ทำให้มีการมองไปถึงการเพิ่มตัวเลือกรถกระบะที่รองรับระบบเครื่องยนต์ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด
ตามการวิเคราะห์ของ Global Information คาดการณ์ว่าตลาดรถกระบะทั่วโลก ที่มีมูลค่า 202.2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ในปี 2022 จะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 238.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 8.4 หมื่นล้านบาท) ภายในปี 2028 ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์เก่าแก่อย่าง Ford ต้องปรับตัวด้วยการส่งรถกระบะไฟฟ้าออกขายในประเทศสหรัฐฯเช่นเดียวกับ Tesla ที่พยายามจะส่งมอบ Cybertruck รถกระบะดีไซน์สุดล้ำให้กับลูกค้าภายในปีนี้หลังจากเลื่อนมาแล้วหลายรอบ
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: asia.nikkei.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Isuzu ขาย รถกระบะไฟฟ้า