Isuzu Press Trip Caravan 2025 พาเที่ยวจาก จีนใต้ สู่ เวียดนามเหนือ
Isuzu Press Trip Caravan 2025 พาเที่ยวจาก จีนใต้ สู่ เวียดนามเหนือ เปิดต้นปี 2025 กับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง อีซูซุ ที่เริ่มประเดิมด้วยกิจกรรมคาราวานท่องเที่ยว ต้นปีด้วยทริปการเดินทางท่องดเที่ยวสไตล์อีซูซุ Isuzu Press Trip Caravan บนเส้นทาง จีน- เวียดนาม นับเป็นกิจกรรมที่ทางอีซูซุทำมาอย่างต่อเนื่อง ได้ขับรถอีซูซุเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ สำหรับครั้งนี้ทางอีซูซุได้เลือกเส้นทางประเทศจีน และมุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม
DAY1
เราเริ่มทริปด้วยการนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่เมืองหนานหนิงซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยสายการบิน Spring Airlines ชื่ออาจจะไม่คุ้มหูเท่าไหร่นัก เพราะเป็นสายการบินราคาประหยัดของประเทศจีน ข้อดีก็คือมันบินตรงสู่เมืองหนานหนิงได้เลย ซึ่งจากที่ได้ลองนั่งแล้วก็ไม่ได้แย่นะครับ ที่นั่งกว้างพอสมควรเลย แต่เบาะปรับเอนไม่ได้ก็แค่นั้น
ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงเมืองหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีพรมแดนติดกับตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เมืองนี้อาจจะเป็นเมืองนอกสายตาของใครหลายๆคนด้วยความที่เป็นเมืองรอง ยังไม่ได้มีการโปรโมทการท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ แต่ก็เหมือนกับอัญมณีที่ยังไม่ได้เจียระไน เราจะยังคงเห็นความดิบ ความเรียลในแต่ละที่เหมือนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคนในพื้นที่
จุดเด่นคือธรรมชาติที่สวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็น นครสีเขียว แน่นอนเรามาถึงช่วงเย็นอากาศกำลังดีไม่หนาวมาก อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา ก่อนที่จะเดินชมเมืองเราต้องไปทำให้ท้องเราอิ่มก่อน แน่นอนคณะของพวกเรามุ่งหน้าสู่ร้านอาหารกันก่อนเลย หลังจากนั้นก็เดินชมแสงสียามค่ำคืนของเมืองหนานหนิง ก่อนที่จะเข้านอนพร้อมเดินทางไปท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้น
Day2
เช้าแรกที่เมืองหนานหนิง เราออกเดินทางด้วยรถบัส ซึ่งแรกเริ่มเดิมที ทางอีซูซุก็อยากทีจะนำรถ D-Max และ MU-X เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MaxForce เข้ามาขับในประเทศจีนเหมือนกัน แต่เพราะความยุ่งยากที่นอกจากต้องเทียบใบขับขี่แล้ว ยังจะต้องให้ผู้ที่จะขับทั้งหมดเข้าอบรมก่อน จึงทำให้เราเสียเวลาในการเดินทาง ทางอีซูซุเลยตัดสินใจจอดรถทั้งหมดรอเราไว้ที่ชายแดนเวียดนาม เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยจะต้องใช้รถบัสในการเดินทางไปท่องเที่ยวประมาณ 3 ชม. จากตัวเมือง ไปยังแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4 ดาว น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall) น้ำตก 2 แผ่นดิน คือถ้าหันหน้าเข้าน้ำตก ฝั่งเวียดนาม ซ้ายมือ ฝั่งจีนคือ ขวามือ
จอดรถตรงจุดจอดรถบัส สิ่งที่ว้าวอีกอย่างของที่นี่คือ Tourist Info อาคารใหญ่อลังกาล รองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะ และพอมีภาษาอังกฤษบ้างเล็กน้อย ช่วงที่เราไปเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว เดินเข้าไปตามทางจนเห็นตัวน้ำตกอยู่ไกล แอบเสียใจเพราะภาพที่เห็น น้ำตกมันมีน้ำอยู่เล็กน้อยเท่านั้น เอาละก็ต้องทำใจและเดินต่อไปเพื่อไปยังจุดลงแพล่องไปดูน้ำตกแบบใกล้ๆ นักท่องเที่ยวมีเยอะอยู่พอสมควร แต่ไม่ถึงกับแน่นมาก เมื่อซื้อตั๋วเสร็จเริ่มล่องแพกัน เห้ยย! พี่จีนเค้าทำได้ขนาดนี้เลย ฉลาดมาก เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าคือน้ำตกเต็มไปด้วยน้ำเยอะมาก ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ผมมาสอบถามไกด์ว่ามันคืออะไร ไกด์บอกว่าด้านบนน้ำตกเค้าได้ทำฝายกักน้ำไว้ และปล่อยน้ำออกมาเป็นเวลา ทำให้สามารถเที่ยวชมความงดงามของน้ำตกไปตลอดทุกฤดูกาล น้ำตกใหญ่ และกว้าง จริงรับประกัน เป็นน้ำตกระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นอันดับ 4 ของโลก
เราถ่ายรูปกันพักใหญ่ก่อนที่จะเดินกลับออกมาเพื่อไปกินข้าวกลางวัน และออกเดินทางไปยังที่พักสุดหรูหราของเราในค่ำคืนนี้ LUX Chongzuo Guangxi Resort Villas
Day3
เช้าที่ 2 ในประเทศจีน เราออกจากโรงแรมที่พักสายหน่อย เลยได้มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หรูหรา สวยงาม ของโรงแรมได้อีกนิด ก่อนที่จะนั่งรถบัสออกไปยังพรมแดนมิตรภาพจีน-เวียดนาม
เพื่อข้ามไปยังประเทศเวียดนาม โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงด่านโหย่วอี้กวาน (Youyi Guan Border) เมืองผิงเสียง ลงจากรถบัสและเดินข้ามแดนไปยังเมือง Lang Son ของเวียดนาม
และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง เท้าแตะแผ่นดินเวียดนามปุ๊บ เราก็พบกับยานพาหนะของเราทันที จอดเรียงรายอยู่ตรงด่านชายแดน ในทริปนี้ผมได้ ISUZU MU-X รุ่น 2.2 RS 8AT
ที่มีเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เป็นยานพาหนะคู่ใจตลอดการเดินทางในประเทศเวียดนาม
รถพร้อมคนพร้อมไม่รอช้าออกเดินทางกันต่อเลย เส้นทางในวันนี้เราจะขับออกจากด่านชายแดน มุ่งหน้าสู่เมืองฮาลอง เมืองมรดกโลกแห่งเวียดนาม ระยะทางประมาณ 176 กิโลเมตร แต่มันเป็น ร้อยกว่ากิโลเมตรที่ทั้งวุ่นวายและสนุกสนานไปในเวลาเดียวกัน ระยะทางอาจจะดูดสั้นๆแต่มันใช้เวลาทั้งหมด 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว แน่นอนหลายท่านคงพอทราบกันมาบ้างแล้วว่าการขับรถในเวียดนามมันยากและวุ่นวาย เพราะทั้งรถและมอเตอร์ไซด์จะพุ่งเข้ามาหาเราตอนไหนก็ไม่รู้
เพราะฉะนั้นแตรเป็นสิ่งสำคัญบีบเข้าไป ถนนเป็นเลนสวนและมีหลุมบ่อตลอดเส้นทาง แต่ระบบช่วงล่างของ ISUZU MU-X รุ่น 2.2 RS 8AT คันนี้ที่ด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ โช็คอัพ
ช่วงล่างด้านหลัง แบบ 5-Link Suspension พร้อมเหล็กกันโคลง และ โช็คอัพ สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นพิวของถนนได้ดี รูดหลุดบ่อสบาย นุ่มนวล ทำให้ไม่เหนื่อยล้าเวลาขับระยะทางยาวๆแบบนี้ ผู้นั่งก็หลับสบายตลอดการเดินทางเลยทีเดียว
เส้นทางบางช่วงเราต้องเร่งแซงรถชาวบ้านที่วิ่งช้าพละกำลังของเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 MAXFORCE ทำให้เราเร่งแซงได้อย่างไม่ต้องกังวล ถึงแม้จะมีน้ำหนักตัวกว่าเพื่อนในคาราวานอย่าง D-MAX แต่อัตราเร่งก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลยครับ ขับมาสักระยะคาราวานของเราก็พบกับเส้นทางขึ้น-ลง เขา แน่นอนพลังเครื่องยนต์ของ 2.2 MAXFORCE พาเราผ่านไปได้อย่างสบาย เครื่องยนต์ทำงานผสานกับเกียร์ใหม่อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode + – ได้อย่างลงลื่นไหล นุ่มนวล
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงเมืองฮาลอง ต้องบอกว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก จากครั้งล่าสุดที่ผมเคยมาประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตึกใหญ่โตมากมาย “ฮาลอง” (Ha Long) เมืองแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากธรรมชาติสุดตระการตาของ “อ่าวฮาลอง” (Ha Long Bay) ที่มีสถานะเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1994 ผืนทะเลกว้างใหญ่ที่รายล้อมด้วยโตรกผา เกาะหินปูนตระหง่านงามกว่า 1,600 เกาะ กระจัดกระจายอยู่ในทะเล
ชื่อ Ha Long Bay ในภาษาเวียดนาม คือ “Vinh Ha Long” มีความหมายว่า “อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง” โดยมีเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ในอดีตชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพผู้มารุกราน เทพเจ้าบนสรวงสรรค์จึงส่งมังกรลงมาช่วยเหลือ มังกรเหล่านี้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลทำให้อัญมณีและหยกกระจัดกระจายออกมาเป็นเกาะน้อยใหญ่เป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน
กลายเป็นอ่าวฮาลอง และเป็นจุดเริ่มต้นการก่อตั้งประเทศเวียดนาม แน่นอนเราก็ไม่พลาดที่จะนั่งเรือล่องชมความงดงามของที่นี่ แต่น่าเสียดายที่เรือสำเภาที่เคยเป็นสัญลักษณ์คู่ ฮาลอง เบย์ ได้มีการยกเลิกใช้ไปแล้ว กลายเป็นเรือรุ่นใหม่ ทำให้มนต์ขลังลดน้อยลง
Day4
เราพักกันที่ฮาลองหนึ่งคืนก่อนที่วันรุ่งขึ้นคณะ Isuzu Press Trip Caravan ของเราจะมุ่งหน้าสู่เมือง ฮานอย การเดินทางในช่วงนี้สบายขึ้นเยอะเนื่องจากเป็นทางด่วนขนาด 8 เลน วิ่งสบาย แต่ก็ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เยอะ เพราะกฎหมายเรื่องความเร็วที่นี่เข้มงวดมาก ห้ามขับเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สบายอยู่แล้วเพราะระบบ Full Speed Range Adaptive Cruise Control ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go ช่วยให้เราคุมความเร็วได้ วิ่งตามคันหน้าได้อย่างปลอดภัย
ลงทางด่วนเข้าสู่เมืองฮานอย เมืองที่มีการจารจรยุ่งวุ่นวายติดอันดับท็อป 10 ของโลก ระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆที่ MU-X คันนี้มีให้ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับวัตถุด้านหน้าด้วยกล้องคู่ ADAS 3D Imaging Stereo เรดาร์ 2 ตัว เซนเซอร์ 8 ตัว ,
ระบบเตือนการชน ,ระบบเบรกอัตโนมัติ ,ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร ,ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ได้ใช้งานทั้งหมด และใช้ได้ดีด้วย ทำให้คาราวานของเราถึงสนามบินอย่างปลอดภัย จบทริป Isuzu Press Trip Caravan 2025 อย่างสวยงาม
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th