ISUZU V-CROSS 4X4 ลุย! ท้า โลก พิสูจน์สมรรถนะ “ลาวใต้”
ISUZU V-CROSS 4X4 ลุย! ท้า โลก กลับมาอีกครั้งในรูปแบบคาราวานท่องเที่ยวต่างประเทศ คราวนี้พาไปสัมผัส “ลาวใต้” กับความท้าทายครั้งใหม่ พร้อมพิสูจน์สมรรถนะในการฝ่าฟันทุกอุปสรรคในการเดินทาง พาทุกคนเปิดประสบการณ์โรดทริ๊ปที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเยือน
อีซูซุได้จัดทำโปรเจกต์พิเศษ “ISUZU V-`CROSS 4X4 MASTER OF ALL ROADS…ตัวจริงทุกเส้นทาง” เมื่อพฤษภาคม ปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งผู้ชมและลูกค้าอีซูซุ ส่งผลให้มี “ISUZU V-CROSS 4X4 MASTER OF ALL ROADS SEASON 2 ลุย! ท้า โลก” ขึ้นในปีนี้ และล่าสุดได้จัดทริปออฟโรดจากจังหวัดอุบลราชธานีมุ่งหน้าไปเมืองปากเซ สปป.ลาว เพื่อพิสูจน์สมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถปิกอัพ ISUZU V-CROSS 4X4 ที่พร้อมลุยฝ่าทุกเส้นทาง
ทริป 3 วัน 2 คืนนี้ เราท่องเที่ยวผจญภัยไปดินแดนลาวใต้กับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs”…ทะยานต่อ ให้โลกตาม สปอร์ตออฟโรดที่จะพาเราลุยทางโหดในทุกเส้นทางตลอดทริป โดยเริ่มต้นปักหมุดสตาร์ทที่ จ.อุบลราชธานี มุ่งหน้าไปยังด่านช่องเม็ก จุดผ่านแดนไทย-ลาว เพื่อทำพิธีผ่านด่านไปยังสปป.ลาว โดยการขับรถในสปป. ลาวนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่สากล สามารถใช้ใบขับขี่ “แบบสมาร์ทการ์ด” ที่ระบุข้อมูลเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษของไทยได้เลย
Day I น้ำตกตาดฟาน สนุกกับ “ซิปไลน์”
จุดมุ่งหมายแรกที่เราแวะไปคือ ร้านอาหารลาเมมัว (La Memoire) ร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองปากเซ เป็นร้านอาหารที่มีการตกแต่งสวยงาม บรรยากาศสบายๆ การันตีด้วยรสชาติ และความหลากหลายของอาหาร ทั้งอาหารลาว ไทย เวียดนาม และยุโรป ให้เลือกมากมาย บอกเลยใครมาต้องติดใจ จุดมุ่งหมายต่อไป เดินทางต่อไปยัง “ตาดฟาน” น้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสัก เดิมบริเวณนี้เป็นปากปล่องภูเขาไฟ จึงทำให้มีลักษณะเป็นเหวลึกลงไปเหมือนปากปล่องภูเขาไฟ และรายล้อมไปด้วยป่าเขาสีเขียว ตัดกับน้ำตกตาดฟานสีขาว
เพื่อให้สมกับทริปลุย! ท้า โลก กิจกรรมไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือ “ซิปไลน์” ที่สูงและหวาดเสียวที่สุดในลาว ด้วยความสูงกว่า 220 เมตร ด้วยการโหนซิปไลน์ท้าความกล้าร่วม 4 เส้น ชมวิวน้ำตก 2 สาย ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันสู่กลางหุบเขาหลังจากนั้นกลับมาพักผ่อนและรับประทานอาหารเย็นที่ สะบายดี วัลเล่ย์ รีสอร์ท ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ เงียบสงบเหมาะสำหรับช่วงเวลาพักผ่อน
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของรีสอร์ทคือวิวบริเวณสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่แค่ได้มองก็รู้สึกฟิน อิ่มใจแบบไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้มีจุดไฮไลท์คือสระว่ายน้ำที่ใหญ่พร้อมวิวสุดอลังการ ให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาทุกที่อยู่รอบตัวได้อย่างดี และจบวันที่หนึ่งไปอย่างเพลิดเพลิน
Day II น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้
วันที่สองหลังจากรับประทานอาหารเช้าและเช็ก-เอ๊าท์ออกจากรีสอร์ท ได้เดินทางไปยัง “CC1971 Cafe” ร้านคาเฟ่สุดฮิต ที่ตัวตึกเป็นเหมือนตึกร้างที่ยังหลงเหลือร่องรอยจากสงครามอินโดจีน มีรอยกระสุนหลายชนิดตามกำแพง โดยเมื่อก่อนตึกดังกล่าวเคยเป็นสำนักงานการไฟฟ้าเก่าของเมือง หากไม่มาถือว่ายังมาไม่ถึง เพราะเป็นจุดขายของที่นี่เลยที่ทำให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาถ่ายรูปอย่างคับคั่ง และทางร้านยังมีขนมและเครื่องดื่มไว้ให้บริการอย่างหลากหลายอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของลาวใต้คือการขับรถฝ่าเส้นทางออฟโรดไปตาดแซพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้ แขวงอัตตะปือ มีความสูง 23 เมตร กว้าง 120 เมตร สวยงามอลังการสุดๆ ราวกับ “น้ำตกไนแองการา’’ ตั้งอยู่ในเขตคุ้มครองแห่งชาติเซเปียนห่างจากสามัคคีชัยเมืองหลวงของจังหวัดประมาณ 60 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง ด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างลำบาก ซึ่งถ้าเป็นรถธรรมดานั้น อาจเดินทางไปได้ยาก จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ลุยกันเข้าไปเพื่อสัมผัสความงามของธรรมชาติ
ลุยเสร็จก็เดินทางไปเติมพลังกับมื้อเย็นกันที่ร้านชิ้นดาดลูลี่ลูล่า ซึ่งคำว่าชิ้นดาดในภาษาลาวคือ หมูกระทะนั่นเอง จากนั้นเข้าพักผ่อนที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ จุดเด่นของโรงแรมนี้นอกเหนือไปจากความสวยงามก็คือ “ทำเล” ที่ดีมาก สำหรับที่พักในเมืองปากเซ เพราะตั้้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงตรงสะพานมิตรภาพญี่ปุ่น-ลาว ประตูสู่เมืองปากเซ ทำให้ได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำโขง และสะพานที่สวยงาม จบไปอีกวันของทริป
Day III เที่ยววัดพูสะเหลา ชมวิวปากเซ
วันสุดท้ายของการเดินทาง ออกจากโรงแรมก็มุ่งหน้าไปยังวัดพูสะเหลา ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับสะพานลาว-ญี่ปุ่น เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชมวิวอันสวยงามแบบ 360 องศา ของเมืองปากเซ มองเห็นเวิ้งแม่น้ำโขงไกลสุดลูกหูลูกตา โดยที่วัดจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีเหลืองทองสง่างามบนเนินผา และบริเวณโดยรอบวัดยังมีพระพุทธรูปองค์เล็กตั้งเรียงรายอีกมากมาย
จากนั้นเดินทางกลับมายังฝั่งไทยโดยการผ่านแดน ณ ด่านช่องเม็กเช่นเดิม จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านชมจันทร์ ริมแม่น้ำมูลใกล้สะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ พร้อมรับลมธรรมชาติเย็นสบาย ได้บรรยากาศที่ดี เสิร์ฟอาหารหลากหลายทั้งอาหารไทย-อีสานและอาหารนานาชาติ เมนูปลาแม่น้ำสดอร่อย เหมาะสำหรับเป็นมื้อสังสรรค์ในการปิดทริปลุย! ท้า โลก ในสปป.ลาว อย่างสวยงาม
NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs
ขอพูดถึงรถปิกอัพอีซูซุที่ช่วยให้การเดินทางครั้งนี้เป็นเรื่องสะดวกสบาย และมั่นใจในความปลอดภัยได้สุดๆ เพราะมีเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ครั้งแรกของวงการรถปิกอัพเมืองไทย มอบความแม่นยำและมั่นใจในการทำหน้าที่เสมือนดวงตาคู่อัจฉริยะ ตรวจจับวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำกว่า
พร้อมเรดาร์ 2 จุดและเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ที่อีซูซุออกแบบให้ทุกระบบความปลอดภัยทำงานผสานร่วมกันเป็นหนึ่ง ให้ความมั่นใจในการเดินทางอาทิ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรฝัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ และจะช่วยควบคุมความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง
มาพร้อมกับระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าจากกล้องหน้าคู่ และแจ้งเตือนเมื่อสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไปจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรกหลังสัญญาณเตือน โดยเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS สามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึง 50%
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สามารถลดอุบัติเหตุ โดยระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Warning with Autobrake ) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ดุดัน เท่ แกร่ง ทรงพลังด้วย Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน ที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง ที่เปิดกระบะท้าย Fender Lip และ Robust Extender เพิ่มความดุดัน ทรงพลัง ในทุกมิติของรถ ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน
พร้อมลุยทุกที่ ด้วยเครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบ Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ช่วยล็อกเฟืองท้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้านซ้ายและขวาเท่ากันเพื่อให้ผ่านอุปสรรคอย่างง่ายดาย
ใครชอบขับรถเที่ยวรับรองว่า “ลาวใต้” คือเส้นทางที่น่ามาสัมผัส ครบทุกรสชาติ ซึ่งงานนี้ต้องขอขอบคุณอีซูซุที่ให้ทาง “กรังด์ปรีซ์ ออนไลน์” ได้ร่วมเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ในแบบ “ลุย ท้าโลก” มา ณ ที่นี้ แล้วเจอกันใหม่กับกิจกรรมดีๆ ของอีซูซุได้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th