Jaguar E-Type Zero รถไฟฟ้า 15 ล้านของเจ้าชาย!
พิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮรี่ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับ เมแกน มาร์เคิล ถูกถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ทำให้เราได้เห็นพิธีเสกสมรสที่ยิ่งใหญ่แต่เรียบง่ายที่สุด ในฐานะของสื่อสายยานยนต์แล้ว อดไม่ได้ที่จะเพ่งความสนใจไปที่ยนตรกรรมที่ถูกเลือกมาใช้เป็นราชพาหนะในครั้งนี้
และแน่นอนว่ารถที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ “Jaguar E-Type” (จากัวร์ อี-ไทพ์) สีฟ้าทรงคลาสสิค ซึ่งแท้จริงแล้วรถคันนี้ไม่ใช่รถคลาสสิค แต่เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและยังพ่วงด้วยคำเยินยอของ “เอนโซ่ เฟอร์รารี่” บุคคลระดับตำนานผู้สร้างซูเปอร์คาร์ม้าลำพอง ที่กล่าวว่า “Jaguar E-Type เป็นรถยนต์ที่สวยที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นมา” (The Most Beautiful Car Ever Made) เห็นมั้ยล่ะว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
ชื่อจริงของเจ้าเสือสุดหล่อคันนี้ คือ Jaguar E-Type Zero (จากัวร์ อี-ไทพ์ ซีโร่) ที่การออกแบบเห็นชัดเจนว่าต้องเป็นรถคลาสสิคแน่นอน แต่จริงๆ แล้วรถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปี 2017 เป็นการจุดประกายให้เจ้าของรถคลาสสิคได้ชุบชีวิตรถสุดรักของตัวเองให้กลับมาโลดแล่นในโลกปัจจุบันด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าทดแทนเครื่องยนต์ที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์เหมือนตอนที่ออกมาจากโรงงานเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แต่ก่อนที่จะพูดถึง E-Type Zero ขอย้อนไปถึงยุคเริ่มแรกกันแบบคร่าวๆ ก่อน
Jaguar E-Type 1971
สำหรับ Jaguar E-Type มีอยู่ 3 ซีรีส์ คือ ซีรีส์ 1 (1961-1968), ซีรีส์ 2 (1969-1971) และ ซีรีส์ 3 (1971-1975) โดยรุ่นแรกถูกผลิตขึ้นเพื่อส่งออกเท่านั้น ติดตั้งเครื่องยนต์คาบูเรเตอร์ Jaguar XK6 แบบ 6 สูบ ขนาด 3.8 ลิตร 300 แรงม้า ส่งพละกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 สปีดและในปี 1964 ได้ขยายขนาดของเครื่องยนต์มาเป็น 4.2 ลิตร มีการปรับพื้นที่ห้องโดยสารให้นั่งสบายมากขึ้น ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบสปริง พร้อมดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ซึ่งจากัวร์ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ติดตั้งดิสก์เบรกมาให้ครบ และจากการทดสอบโดยนิตยสาร The Motor ในปี 1961 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 240 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7 วินาที
โดยที่จุดเด่นจะอยู่ที่การเป็นรถทรงเปิดประทุน มีทั้งแบบหลังคาผ้าใบและหลังคาแข็ง (รุ่นหลังคาแข็งแบบดั้งเดิมหายากมากและปัจจุบันมีราคาสูงมากระดับนักสะสมเลยทีเดียว) รูปร่างเพรียวยาว มีเส้นโค้งที่ดูลื่นไหล นุ่มนวล เป็นรถที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามที่สุด ซึ่งปี 1966 ได้มีการเพิ่มทางเลือกเป็นตัวถังแบบคูเป้ 2+2 พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ ขยายความยาตัวถังเพิ่มอีก 229 มม. และในช่วงปี 1963-1964 ได้มีการพัฒนาให้ตัวถังมีน้ำหนักเบาลง ด้วยการนำอลูมิเนียมอัลลอยด์มาใช้เป็นส่วนประกอบ แม้ว่าหลายอย่างจะมีการปรับปรุง แต่สไตล์ห้องโดยสารแบบเปิดโล่งจากรุ่น D-Type ยังคงเป็นจิตวิญญาณที่สืบทอดมาถึง E-Type อย่างชัดเจน
Jaguar D-Type
Jaguar E-Type Zero
ต่อมาอีก 56 ปี เป็นการถือกำเนิดใหม่ของ E-Type ด้วยชื่อว่า “Jaguar E-Type Zero” (จากัวร์ อี-ไทพ์ ซีโร่) ที่ได้เห็นคันจริงกันในพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮรี่ กับ เมแกน มาร์เคิล ขณะที่เจ้าชายแฮรี่กำลังขับ E-Type Zero ทะเบียน E190518 (E มาจาก Electric เลข 19 คือ วันแต่งงาน 05 คือ เดือนพฤษภาคม 18 คือ ปี 2018) คันนี้ไปร่วมงานเลี้ยงในช่วงค่ำ
แม้ว่าจะดูเป็นรถคลาสสิค แต่จริงๆ แล้วเป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นใหม่บนพื้นฐานเดิม หรือจะพูดว่าเป็นความทรงจำเดิม แต่หัวใจดวงใหม่ก็ไม่ผิด ที่มาพร้อมด้วยการยกเครื่องขุมพลังใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยด้วยพลังงานขับเคลื่อนจากไฟฟ้าล้วนๆ หรือ Fully Electric หรือที่เรียกว่าเป็นรถ EV (Electric Vehicle) นั่นเอง ซึ่งมีการเปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา โดยมีการออกแบบที่จะดัดแปลงตัวถังให้น้อยที่สุด เพื่อติดตั้งชุดมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่แทนที่เครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ยังคงการขับเคลื่อนแบบล้อหลังเอาไว้ ทั้งยังมีสัดส่วนการกระจายน้ำหนักเหมือนเดิมกับรุ่นเริ่มแรก
รูปโฉมที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว
ห้องโดยสารที่ทันสมัยแต่ยังคงมีกลิ่นอายแบบคลาสสิค
ภายในห้องโดยสารถูกอัพเกรดขึ้นใหม่ ด้วยการติดตั้งแผงคอนโซลที่ทำมาจากวัสดุประเภทคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมติดตั้งหน้าจอแบบอินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัส, แผงมาตรวัดความเร็วแบบแอลอีดีทันสมัย ส่วนชุดเกียร์นั้นใช้แบบปุ่มหมุนเช่นเดียวกับในจากัวร์รุ่นใหม่ เป็นการผสานความคลาสสิคและความทันสมัยให้เข้ากันอย่างสมดุล
จุดชาร์จกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านท้ายจุดเดียวกับที่เป็นฝาถังน้ำมัน
ขุมพลังจากกระแสไฟฟ้า สะอาดและปราศจากมลพิษ เป็นสปอร์ตคาร์ที่สวย แรงและรักษ์โลก
ในส่วนของสมรรถนะนั้นไม่ธรรมดา เพราะมอเตอร์ไฟฟ้า 220 กิโลวัตต์ ที่ออกแบบมาเฉพาะ E-Type พร้อมด้วยแบตเตอรี่แบบลิเธียม-อิออน ขนาด 40 กิโลวัตต์ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.5 วินาที จากเดิมทำได้ 7 วินาที แต่ไม่ปล่อยมลพิษแม้แต่นิดเดียว และสามารถทำระยะทางได้ 270 กิโลเมตร ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าเต็มประมาณ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับแหล่งจ่ายไฟฟ้า) ซึ่งได้นำเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจาก Jaguar I-Pace มาร่วมด้วย ทำให้การขับเคลื่อนสมบูรณ์แบบมากขึ้น
แบตเตอรี่ลิเธียม-อิออน ขนาด 40 กิโลวัตต์ ที่ติดตั้งอยู่ใต้ฝากระโปรงท้ายอย่างแนบเนียน
ส่วนราคาค่าตัวของ “Jaguar E-Type Zero” (จากัวร์ อี-ไทพ์ ซีโร่) ความคลาสสิคเหนือกาลเวลาที่ทันสมัยและเป็นรถยนต์ที่สวยที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นมาต้องจ่ายถึง 350,000 ปอนด์ หรือราว 15,000,000 บาท เหมาะกับรถของเจ้าชายจริงๆ
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th