JAGUAR I-PACE EV 400 แรงม้า แบตเต็มวิ่งได้ไกล 470 กิโลเมตร!!!
JAGUAR เปิดตัวรถต้นแบบ EV ในชื่อรุ่น ‘I-PACE’ มาในช่วงต้นปี 2017 พร้อมตั้งเป้าส่งรถตัวจริงพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ภายในปี 2018 และบัดนี้ JAGUAR ได้เปิดตัว I-PACE รถ EV 100% โมเดลแรกของค่ายไปเป็นที่เรียบร้อย ช่วงเวลาปีเศษจากรถต้นแบบมาเป็นเวอร์ชันจำหน่ายจริง I-PACE ได้ผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงในทุกภูมิภาคทั่วโลก ด้วยมาตรฐานที่เข้มข้นไม่แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ และนี่คือรถไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ในเวลานี้
- I-PACE จัดอยู่ในประเภท Mid-size SUV 5 ที่นั่ง ใช้ดีไซน์รูปแบบเดียวกับรถสปอร์ตในค่าย
สมัยเป็นรถต้นแบบ I-PACE มาพร้อมสโลแกน “The Electric Performance SUV” รูปแบบตัวถังจัดอยู่ในประเภท Mid-size SUV 5 ที่นั่ง เน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ทว่า ตัวตนในความเป็นรถ SUV ของ I-PACE ดันใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถซูเปอร์คาร์ตัวต้นแบบประจำค่าย JAGUAR นาม C-X75 ดีไซน์ของ I-PACE จึงแตกต่างจาก SUV ที่เราคุ้นเคย อีกทั้งพละกำลังขับเคลื่อนรถระดับ 400 PS ที่ไม่แตกต่างกัน ทั้ง I-PACE ตัวต้นแบบและตัวจริง น่าจะช่วยให้สมรรถนะของรถไฟฟ้าคันนี้ ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
- โครงสร้างของ I-PACE ได้รับการออกแบบมาเพื่อการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ของรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ
ไม่เพียงเฉพาะงานออกแบบตัวถังเท่านั้น ที่ I-PACE รับมาจาก C-X75 (ปรากฏตัวในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน SPECTRE) แต่การวางเลย์เอาต์ของรถทั้งคัน ยังถอดแบบมาจากรถสปอร์ตเต็มขั้น ใช้ระยะฐานล้อที่ยาว พร้อมระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า-หลัง ที่สั้น เพื่อความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ในการบังคับควบคุม มิติตัวถัง ความกว้าง ความยาว และความสูง อยู่ที่ 1,895, 4,682 และ 1,565 มิลลิเมตร ตามลำดับ ขณะที่ระยะฐานล้อมาเต็มที่ระดับ 2,990 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความยาวให้กับส่วนห้องโดยสารโดยเฉพาะ
งานออกแบบห้องโดยสาร ส่วนที่ถูกเน้นเป็นพิเศษ คือ Knee Room ของเบาะนั่งแถวหลัง ซึ่งมีระยะห่างระหว่างหัวเข่ากับเบาะหน้ามาให้มากกว่า 70 มิลลิเมตร ห้องโดยสารของ I-PACE ดูโอ่โถงกว่ารถ SUV ทั่วไป เพราะปราศจากอุโมงค์เพลากลาง พื้นห้องโดยสารจึงราบเรียบ นับเป็นข้อได้เปรียบสำหรับรถที่ถูกออกแบบมาเป็นรถไฟฟ้าโดยตรง วิศวกรใช้ส่วนพื้นห้องโดยสารเป็นที่เก็บชุดแบตเตอรี่ และวางกันแบบเต็มพื้นที่ เพื่อให้ I-PACE สามารถมีพลังงานสำรองมากพอ สำหรับการใช้งาน ทั้งในเมือง และการขับขี่เดินทางไกล
- แม้จะเป็น EV แต่การลุยน้ำไม่เป็นอุปสรรคสำหรับ I-PACE
Electric Test Programme ของ JAGUAR I-PACE ได้แก่ ขับผ่านถนนที่มีระดับน้ำลึก 500 มิลลิเมตร, การจำลองรูปแบบการเกิดอุบัติเหตุ ให้ชุดแบตเตอรี่ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง, ทดสอบความเสถียรในการจ่ายไฟของระบบ ที่อุณหภูมิ +40 และ -40 องศาเซลเซียส, วิ่งทดสอบรอบสนาม Nardo ในอิตาลี และ Nürburgring ในเยอรมัน รวมกว่า 400 รอบสนาม, วิ่งทดสอบเก็บข้อมูลบนถนนจริง ในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย เป็นระยะทางรวมกว่า 1.5 ล้านไมล์ ใช้ชั่วโมงการทดสอบรวมกว่า 11,000 ชั่วโมง และใช้วิศวกรทั่วโลกรวมกว่า 500 คน, ใช้รถโปรโตไทป์ในทุกขั้นตอนกว่า 500 คัน ก่อนการผลิต I-PACE เวอร์ชันพร้อมจำหน่าย
ชุดแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากที่สุดในรถ ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ต่ำ ให้ประโยชน์ในเรื่องลดจุดศูนย์ถ่วง (C.G.) ของรถทั้งคัน ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทรงตัว ทั้งวิ่งทางตรงและขณะเข้าโค้ง ชุดแบตเตอรี่ได้รับการปกป้องอย่างดีจากโครงสร้างโลหะ ซีลกันน้ำอย่างมิดชิด มาพร้อมระบบหล่อเย็นประเภท Liquid-cooled เพื่อความเสถียรในการจ่ายกระแสไฟ ในทุกสภาวะภูมิประเทศ ทั้งร้อนจัด และเย็นจัด
- แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ความจุ 90 kW จัดวางใต้พื้นห้องโดยสาร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังรวม 400 PS พร้อมแรงบิดสูงสุด 696 Nm
แบตเตอรี่จัดอยู่ในประเภทลิเทียม-ไอออน 432 เซลล์ แบ่งเป็น 36 โมดูล ความจุ 90 kW ต่อ 1 รอบการชาร์จ เดินทางได้ไกลกว่า 470 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLPT) เมื่อชาร์จแบตผ่านไฟ 100kW DC (Rapid Charging) จาก 0-80% ใช้เวลาเพียง 40 นาที และการชาร์จเพียง 15 นาที รถสามารถวิ่งใช้งานได้ถึง 100 กิโลเมตร สำหรับการชาร์จผ่าน Wall Box ตามบ้าน 0-80% ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
แม้จะเป็น SUV แต่เรื่องแอโรไดนามิกเป็นส่วนที่ I-PACE โดดเด่นไม่เป็นรองรถสปอร์ต มาพร้อมตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงต้านทางอากาศ (Cd.) ต่ำเพียง 0.29 ท่อนหน้ารถถูกออกแบบเป็นช่องรับลมขนาดใหญ่ นอกจากประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ ยังผันกระแสลมเข้าไประบายความร้อนให้กับระบบไฟฟ้าภายในรถด้วย ฝากระโปรงหน้าฉีกดีไซน์เดิมๆ ที่เคยมีใน SUV เพราะถูกออกแบบเป็นช่องดักลมขนาดใหญ่ ลมจะถูกส่งมาจากกระจังหน้า มาผ่านช่องดักลมในส่วนนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนที่ผ่านกระจกบังลมหน้า หลังคา ต่อเนื่องไปจนถึงท้ายรถ สร้างแรงกดให้ท่อนหน้าของรถ แบบที่ไม่ต้องไปพึ่งพาอุปกรณ์ไฮเทคใดๆ แอโรไดนามิกในส่วนนี้มีให้เห็นใน C-X75 ก่อนที่จะส่งต่อมายัง I-PACE
- ช่วงล่างมีให้เลือกทั้ง Coil Spring และ Air Spring (ออปชัน)
I-PACE มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AWD จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่เชื่อมต่ออยู่กับเพลาหน้าและเพลาหลังโดยตรง มอเตอร์ที่ใช้เป็นเทคโนโลยีจากรถแข่ง Formula E จากทีม JAGUAR เป็นแบบ Synchronous, Permanent Magnet Electric Motors แต่ละตัวมีกำลัง 200 PS พร้อมแรงบิดสูงสุด 348 Nm โดยมอเตอร์แต่ละตัวถูกจับคู่กับเกียร์ Single-speed Epicyclic Transmission กำลังรวมของระบบจะอยู่ที่ 400 PS พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 696 Nm
อัตราเร่งจากแรงบิดระดับ 696 Nm พร้อมระบบขับเคลื่อน AWD จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสุภาพ สไตล์รถจากเมืองผู้ดี ทว่า หนักแน่นและดึงระดับน้องๆ รถแข่ง Formula E เป็นการไต่เพดานความเร็วที่ปราศจากอาการล่าช้าเหมือนรถที่ใช้เครื่องยนต์ ต้นสังกัดเปิดอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ออกมาที่เวลา 4.8 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม.
เรื่อง พิทักษ์ บุญท้วม / กรังด์ปรีซ์ แมกกาซีน ฉบับมกราคา 2561
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th