J.D. POWER จันอันดับรถยนต์คุณภาพในไทย ปี 2566
J.D. Power เผยผลการสำรวจคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2566 (2023 Thailand Initial Quality StudySM (IQS))
ผลการศึกษาวิจัยจาก J.D. POWER ในปี 2566 เผยว่า เสียงรบกวนยังคงเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลต่อคุณภาพของรถยนต์โดยรวมในประเทศไทย
โดยการศึกษานี้ ทาง J.D. Power ได้ร่วมมือกับนีลเส็นไอคิว (NielsenIQ) พบว่า แม้ปี 2566 จำนวนเจ้าของรถใหม่ที่กล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ของตนเองจะน้อยลงกว่าปีก่อนถึง 10% (81% เทียบกับ 91% ในปี 2565) แต่จำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นกลับสูงขึ้น โดยเจ้าของรถใหม่เจอปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนเองตั้งแต่ 2 ปัญหาขึ้นไปเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า (52% เทียบกับ 27% ในปี 2565)
เกณฑ์ในการใช้วัดผลการวิจัย
การวัดคุณภาพรถยนต์วัดจาก จำนวนปัญหาที่พบต่อรถยนต์ใหม่ 100 คัน (PP100) ในช่วง 6 เดือนแรกของการใช้งาน โดยคะแนน PP100 ยิ่งต่ำ หมายถึงคุณภาพของตัวรถยิ่งสูง อีกทั้งเป็นปีแรกที่มีการนำกลุ่มรถพลังงานใหม่ (NEV) ประกอบไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และรถปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) เข้าร่วมการวิจัยในครั้งนี้
ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 168 PP100 พบว่ามากกว่าปีก่อนถึง 38 PP100 (130 PP100 ในปี 2565) โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องการออกแบบ (91 PP100) และยังคงมีการพูดถึงความผิดพลาดในการผลิตอยู่ที่ 76 PP100 ส่วนปัญหา 3 อันดับแรกที่พบมาจากเสียงลมที่มากเกินไป (13.1 PP100) เสียงดังจากการบดถนน (9.3 PP100) และการกันสะเทือนของรถยนต์ (8.1 PP100)
เสียงรบกวนคือ ปัญหาหลักของผู้ใช้รถยนต์
“เจ้าของรถใหม่กำลังประสบปัญหาเดียวกันจากปีที่แล้ว” มณีณัฐฐา จิระเสวีจินดา – ผู้อำนวยการงานวิจัยฝ่ายยานยนต์ นีลเส็นไอคิว กล่าว “คือ เสียงรบกวนจากลมรอบรถ และเสียงจากด้านล่างของตัวรถยังคงเป็นปัญหาหลัก ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์กำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีและรถพลังงานใหม่ ทั้งนี้พวกเขาควรให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของรถยนต์ โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานต่างๆ ที่เจ้าของรถต้องการ”
ข้อมูลเพิ่มเติมจากการสำรวจปี 2566
- ปัญหาที่พบมากที่สุด คือปัญหาที่เกิดภายนอกรถยนต์
ส่วนใหญ่มาจากเสียงลมและเสียงบดถนน (13.1 และ 9.3 PP100 ตามลำดับ) ความยากในการเปิดหรือปิดฝาท้ายและกระบะหลังรถ (2.8 PP100) ไฟหน้าสว่างไม่พอ (1.9 PP100) และฝาถังน้ำมันที่เปิด-ปิดยากเกินไป (1.0 PP100)
- ปัญหาใหม่ที่พบใน 5 อันดับแรกของแต่ละหมวดหมู่
เสียงรบกวนหรือเสียงผิดปกติจากช่องเก็บของภายในห้องโดยสารด้านหน้า (3.7 PP100) เป็นปัญหาใหม่ใน 5 อันดับแรกของหมวดความผิดพลาดในการผลิต ส่วนเครื่องยนต์กำลังไม่พอ (5.2 PP100) กลายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น และเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของหมวดการออกแบบ
- ปัญหาระบบทำความเย็น (HVAC) ถูกพูดถึงอย่างมากในกลุ่มรถพลังงานใหม่
เจ้าของรถพลังงานใหม่ประสบปัญหากับระบบทำความเย็นสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (26.3 PP100 เทียบกับ 12.6 PP100) เนื่องจากแอร์ที่เย็นช้าเกินไป (13.7 PP100) และแอร์ไม่เย็นเลย (6.1 PP100) นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่สำคัญอีก 1 ปัญหา คือ ปัญหาจากการชาร์จไฟที่ช้าเกินไป สำหรับการชาร์จไฟแบบปกติ (AC) (2.2 PP100)
ผลจากการจัดลำดับสูงสุดของการศึกษาวิจัย
- นิสสัน อัลเมร่า ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (153 PP100)
- มาสด้า2 ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (149 PP100)
- ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง (150 PP100)
- นิสสัน คิกส์ ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (163 PP100)
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ (169 PP100)
- อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ เอ็กซ์-แค็บ ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะตอนขยาย (138 PP100)
- อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์ / วี-ครอส 4 ประตู ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู (150 PP100)
- บีวายดี แอตโต้ 3 ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถพลังงานใหม่ (158 PP100)
การวิจัยวัดคุณภาพรถยนต์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ 2 ปัญหาหลักของเจ้าของรถยนต์ใหม่ ได้แก่
ปัญหาด้านการออกแบบและปัญหาจากความผิดพลาดในการผลิต การศึกษานี้ได้เจาะจงถึงปัญหาต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งหมด 8 หมวดหมู่ ได้แก่
ปัญหาภายนอกรถยนต์
- ปัญหาจากประสบการณ์การขับขี่
- ปัญหาจากฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/จอแสดงผล
- ปัญหาจากเบาะที่นั่ง
- ปัญหาระบบเสียง/ระบบสื่อสาร/ความบันเทิง/ระบบนำทาง
- ปัญหาจากระบบทำความร้อน/ระบบระบายอากาศ/ระบบทำความเย็น
- ปัญหาภายในห้องโดยสาร
- ปัญหาเครื่องยนต์/มอเตอร์/การชาร์จ/ระบบเกียร์
ผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย (IQS) ประจำปี 2566 มาจากการสำรวจเจ้าของรถยนต์คันใหม่ 4,726 รายที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงเดือนสิงหาคม 2566
ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถกระบะ, รถยนต์อเนกประสงค์ และรถพลังงานใหม่ทั้งหมด 47 รุ่น จาก 12 แบรนด์ รวมถึงการลงพื้นที่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน 2566
J.D. POWER เป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ให้บริการที่ปรึกษา และการวิเคราะห์ข้อมูล ในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกการใช้บิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการสร้างแบบจำลองอัลกอริทึม เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค เจ.ดี. พาวเวอร์นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์มานานกว่า 50 ปี หลากหลายธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมหลักของโลกต่างไว้วางใจให้ J.D. POWER แนะนำแนวทางในการวางกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เจ.ดี. พาวเวอร์มีสำนักงานอยู่ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย แปซิฟิก
นีลเส็นไอคิว เป็นผู้นำในการส่งมอบข้อมูลที่เป็นกลางและครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก นีลเส็นไอคิวขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ล้ำหน้า พร้อมความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย เพื่อผลักดันให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลกสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจ
ด้วยการใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลการดำเนินการทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน นีลเส็นไอคิวช่วยให้ลูกค้าสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการในแพลตฟอร์มค้าปลีกทั้งหมด ปรัชญาของเราในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดด้วยกัน ทำให้เรามีชุดข้อมูลผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก นีลเส็นไอคิว ส่งมอบความจริงที่สมบูรณ์
นีลเส็นไอคิว เป็นบริษัทในเครือ แอดเวนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม NielsenIQ.com.