Jeep เตรียมปิดฉากเครื่องยนต์ EcpDiesel V6 3.0 ลิตรที่ขึ้นชื่อในด้านมีแรงบิดสูงและประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2014 จึงนำ Gladiator Rubicon มาทำเป็นรุ่นแต่งพิเศษในชื่อ FarOut ซึ่งมาพร้อมกับการเพิ่มอุปกรณ์แต่งพิเศษและอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ โดยมีการผลิตจำกัด 1,000 คัน

Jeep Gladiator Rubicon FarOut ไม่เพียงแค่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ EcoDiesel V6 3.0 ลิตรที่มีแรงบิด 600 นิวตัน-เมตรซึ่งดีที่สุดในระดับเดียวกัน โดยเลือกได้ระหว่างการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อด้วยระบบส่งกำลังแมนนวล 6 สปีดหรืออัตโนมัติ 8 สปีดเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อย่างเพลาหน้าและเพลาหลังเฮฟวีดิวตี Dana 44 เจเนเรชันที่ 3 และ  Transfer Case 2 สปีด Rock-Trac ที่มีอัตราทดเกียร์ Low-range 4.0:1

สำหรับอุปกรณ์พิเศษอื่นๆ ที่มาพร้อมกับรถมีกราฟฟิก Diesel 3.0L บนฝากระโปรงหน้า ป้าย 3.0 D ที่ฝาท้าย ป้ายระบุชื่อรุ่นพิเศษ สติกเกอร์แต่งที่ซุ้มล้อพร้อมซุ้มล้อสีเดียวกับรถ โดยมีล้ออลูมินัมสีดำ Low-gloss ขนาด 17 นิ้ว และยางมัด-เทอร์เรนขนาด 33 นิ้วอยู่ใต้ซุ้มล้อ

นอกจากนี้รถรุ่นพิเศษยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างกันชนหน้าเหล็กกล้า กระจังหน้าสีดำ Satin Black พ่นกระบะหลังกันรอย Mopar ขณะที่ห้องโดยสารของรถมีเบาะและแผงแดชบอร์ดหุ้มหนังสีดำเดินด้ายสีแดง พรมปูพื้น All-weather พร้อมกับอุปกรณ์อย่าง LED Lighting Group, Cold Weather Group, Safety Group, Trailer-Tow และ Heavy-Duty Electrical Group

ทาง Jim Morrison รองประธานอาวุโสและผู้บริหารแบรนด์ Jeep อเมริกาเหนือบอกเกี่ยวกับรถรุ่นพิเศษว่า “ขณะที่ Jeepเคลื่อนไปสู่การใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เราจึงยุติเครื่องยนต์ EcoDiesel ด้วยGladiator Rubicon FarOut ที่ผลิตจำกัด 1,000 คันสำหรับรถรุ่นปี 2023 โดยเป็นรถรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นบนรถปิกอัพเปิดหลังคารุ่นเดียวในตลาดที่มีความสามารถในการลุยและเป็นรถที่มีความอเนกประสงค์ดีที่สุดในระดับเดียวกัน”

รถปิกอัพรุ่นพิเศษถูกตั้งราคาไว้ที่ 69,995 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มรับออร์เดอร์ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่จะเริ่มส่งมอบในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 นี้

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th