Jeep เปิดตัว Grand Cherokee รุ่นใหม่ลุยยุโรป โดยที่จะมีการทำตลาดเพียงรุ่นเดียวคือ Grand Cherokee 4Xe ซึ่งมากับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเช่นเดียวกับ Wrangler ที่มีเฉพาะรุ่น 4Xe เท่านั้นทำตลาดยุโรปเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องมลพิษ

สเปกของ Jeep Grand Cherokee 4Xe ที่ขายในยุโรปไม่ต่างกับที่ทาง Jeep เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดของรถที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ และมอเตอร์คู่ให้กำลังออกมารวม 380 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 637 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดส่งกำลัง พร้อมกับมีแบตเตอรี 17 kWh ซึ่งให้ระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 51 กิโลเมตรสำหรับการขับในเมือง 

Grand Cherokee 4Xe มาพร้อมกับระบบ Quadra-Drive II 4×4 รวมทั้งมีการทำงาน Selec-Terrain ให้เลือกตามลักษณะของเส้นทางอย่างหิมะ ทราย/เลน หิน สปอร์ต หรือออโต ในขณะที่การใช้พลังงานสำหรับขับเคลื่อนมี 3 โหมดให้เลือกระหว่าง Hybrid, Electric และ e-Save

Jeep มีรุ่นแต่งพิเศษ Launch Edition ให้กับ Grand Cherokee 4Xe ในช่วงเปิดตัวที่ยุโรป ซึ่งมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 21 นิ้ว ชุดไฟ LED หลังคาดำ Diamond Black พร้อมการแต่งบนตัวรถด้วย Platinum Chrome และมี 4 สีภายนอกให้เลือกระหว่างสีดำ (Diamond Black) สีขาว (Bright White) สีแดง Velvet Red และสีเทา Beltic Grey

สำหรับห้องโดยสารเต็มไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ เพราะนอกจากใช้หนัง Palermo หุ้มส่วนต่างๆ และแต่งด้วยไม้วอลนัตแล้ว ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้วพร้อมระบ Infotainment Uconnect 5 จอดิจิตอลแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 10 นิ้ว พร้อมมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาด 10 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีจอขนาด 10.25 นิ้วสำหรับผู้โดยสารที่เบาะหน้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางพร้อมฟังก์ชั่นปรับหนุนหลังและนวด ในขณะที่เบาะหลังปรับความอุ่นได้พร้อมมีระบบระบายอากาศ ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบ 4 โซน มีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ใช้ระบบเสียง 950 วัตต์ และลำโพง 19 ตัวของ McIntosh ขับกล่อมขณะเดินทาง แถมสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารด้วยไฟ Ambient Lighting LED โดย Grand Cherokee 4Xe มาพร้อมกับชุดระบบช่วยขับ Active Driving Assist ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวล 2

อย่างไรก็ตาม Jeep ขาย Gran Cherokee Launch Edition ที่จัดเต็มด้วยอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะบางประเทศในยุโรปเท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในยุโรปตะวันตกรวมทั้งสหราชอาณาจักร ส่วนราคาของรถยังไม่เปิดเผยออกมา