ไฮไลต์ของวงการรถยนต์โลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องยกให้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายใน Ford บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ หลังจาก Mark Fields ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเลือก Jim Hackett อดีตผู้บริหารบริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่มีประสบการณ์ในวงการรถยนต์เพียงปีเศษๆ เข้ามารับหน้าที่แทน

ในแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ Ford เลือกใช้คำว่า ‘เกษียณ’ (Retire) กับการออกจากตำแหน่งของ Fields แต่ความจริงที่บรรดาสื่อทั่วโลกรายงานออกไปคือผู้บริหารวัย 56 ปี ถูกปลด ด้วยสาเหตุหลักๆ คือราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงมาถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 3 ปีที่เขากุมบังเหียนในการบริหาร, ความล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการโต้คารมผ่านสื่อกับ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ในช่วงการณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อกลางปีก่อน จนทำให้แผนการลงทุนของบริษัทต้องประสบความยุ่งเหยิง

“เป็นความยากลำบากที่ต้องตัดสินใจ” Bill Ford ทายาทรุ่นที่ 4 และรั้งตำแหน่งประธาน (Chairman) ของ Ford ในปัจจุบัน เผยความรู้สึกท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน “แต่ Jim คือตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง”

การเลือกคนนอกเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารไม่ได้เป็นครั้งแรกของ Ford ในปี 2006 Alan Mulally อดีตผู้บริหารบริษัทผลิตเครื่องบิน Boeing กลายเป็นผู้เข้ามากอบกู้สถานการณ์ให้บริษัทรถยนต์เก่าแก่แห่งดีทรอยต์ รอดพ้นจากการล้มละลายในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปลายทศวรรษก่อน ทั้งที่เขาไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจรถยนต์มาก่อน

อย่างไรก็ตาม Hackett วัย 62 ปี ถือว่ามีความได้เปรียบมากกว่า จากการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดบริหารของ Ford Motor Company ตั้งแต่ปี 2013 ก่อนจะเข้ามาทำงานอย่างจริงจังในตำแหน่งประธานบริหาร Ford Smart Mobility หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และระบบขนส่งในอนาคต เมื่อเดือนมีนาคม 2016 หลังจากประสบความสำเร็จในการบริหาร Steelcase ให้กลายเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานอันดับ 1 ของโลก ก่อนจะอำลาตำแหน่งซีอีโอ เมื่อ 3 ปีก่อน

 Jim Hackett เตรียมเริ่มภารกิจในการนำ Ford เข้าสู่ยุคใหม่

“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Bill Ford และทุกคนในทีม ตามแนวทางของ Ford ในการสร้างสรรค์พลังในการขับเคลื่อน และความสุขเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนทั่วโลก รวมทั้งมอบสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท” Hackett กล่าวระหว่างแถลงข่าวรับตำแหน่งใหม่

ตลอดระยะเวลา 30 ปี ในการทำงานกับ Steelcase ผู้บริหารร่างใหญ่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่หวั่นเกรงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ด้วยการพลิกโฉมบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ระดับท้องถิ่นให้กลายเป็นบริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ทุ่มเทเวลากับการพัฒนาสินค้าให้ตรงใจลูกค้า พร้อมสนับสนุนการปรับเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานจากเดิมที่เหมือนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ มาสู่หลัก Open Space ที่พนักงานทุกคนสามารถนั่งทำงานตรงไหนก็ได้ที่พวกเขาต้องการ

Mark Fields กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อย 

อย่างไรก็ตามบทบาทใหม่ของ Hackett ต้องแบกรับความคาดหวังมากกว่าเดิมหลายเท่า ในการทำให้ Ford ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่พวกเขาเคยประกาศว่าจะผลิตออกขายในปี 2021 แต่ตอนนี้กลายเป็นต้องไล่ตามคู่แข่งทั้งบริษัทรถยนต์ และบริษัทเทคโนโลยีในซิลิคอน วัลเล่ย์ที่กำลังแข่งขันเพื่อพัฒนารถยนต์สำหรับอนาคตออกมาวิ่งบนถนนจริงให้เร็วที่สุด

“ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ Ford ในการมองหาผู้บริหารจากข้างนอกเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับพวกเขา และด้วยหลายๆ เหตุผลงานของ Hackett อาจจะมีความท้าทายมากกว่าในยุคของ Mulally” Adam Jonas นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ให้ความเห็น

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Ford Motor Company/USA Today
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE