มีสำนวนที่ชาวยุโรปและอเมริกาหรือประเทศในโลกเสรีมักพูดแซวกันว่า “มองโลกแบบชาวรัสเซีย” คาดว่าน่าจะมาจากรูปแบบทางสังคมของประเทศรัสเซียสมัยก่อน ที่อยู่ในยุคสงครามเย็นและใช้ระบอบคอมมิวนิสต์ในการควบคุมประเทศ

การกระทำสิ่งใด เขาจะต้องระแวงระวังภัยคล้ายกับมองโลกในแง่ร้าย แต่นั่นเพราะเหมือนประเทศเขาถูกโดดเดี่ยวและถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายทางด้านการเมืองของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคสงครามเย็น

ด้วยพื้นฐานตรงนั้น ประเทศรัสเซียหรือสหภาพโซเวียตในสมัยก่อน จะมีทุกสิ่งทุกอย่าง เรียกว่าต้องสร้างและผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ให้สามารถอยู่รอดได้ หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมการผลิตอาวุธมีความโดดเด่นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติหลายอย่าง มีการผลิตอาวุธปืนที่โด่งดังอย่าง Ak-47 ซึ่งสามารถใช้งานง่าย มีกลไกไม่มาก สามารถยิงในน้ำได้อีก จะพบเห็นการใช้งานอย่างแพร่หลาย ใช้กับลูกกระสุนได้หลากหลายขนาด ราคาจะถูกกว่าอีกด้วย

UM-1 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่มีความจุพลังงานสามารถใช้ขี่ได้ระยะทางประมาณ 93 ไมล์และมีความเร็วสูงสุดประมาณ 62 ไมล์ต่อชั่วโมง ตัวรถมีน้ำหนักประมาณ 165-245 กิโลกรัม

สาเหตุที่ Kalashnikov พัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าออกมาใช้งานในเมือง เพราะความมั่งคั่งทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศเขา เหลือเฟือ โรงไฟฟ้าทั้ง ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซ หรือแม้แต่พลังงานนิวเคลียร์มีเพียบ พลังงานไฟฟ้าจึงมีให้ใช้อย่างมากมายในราคาที่ถูก อีกทั้งยังมีความได้เปรียบในเรื่องของการปล่อยมลพิษออกสู่ภายนอกที่น้อย จึงเป็นสิ่งที่น่าจะพัฒนา แอบนินทาสักเล็กน้อย ว่าไม่เหมือนบางแห่งบนโลกนี้ พลังงานไฟฟ้ายังนำเข้าอยู่เลยแต่อยากจะก้าวสู่การใช้รถไฟฟ้า

ส่วนการทำตลาดนั้นจะนำออกจำหน่ายนอกประเทศหรือตลาดประเทศไหนบ้าง ต้องคอยติดตามกันต่อไป…

เรื่อง : ศิปิวรรธ ปานกลาง

เครดิตภาพ: https://uncrate.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th