หลัง EV6 ทำตลาดที่สหรัฐอเมริกามา 3 ปีล่าสุดทาง Kia ได้ทำการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับรถคอมแพกต์เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นนี้ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกของตนที่อยู่บนแพลตฟอร์ม E-GMP หลังจากที่ได้เปิดตัวรุ่นปรับโฉมไปแล้วทั้งที่เกาหลีใต้และยุโรป ซึ่งจาการปรับโฉมทำให้รถมีระยะการเดินทางเพิ่มขึ้น  พร้อมได้รับปรับดีไซน์ให้มีความดุดันขึ้น ขณะที่เกรด GT มีกำลังขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นพร้อมมีการทำงานเหมือนการเปลี่ยนเกียร์มากับรถ

ภายนอกของ Kia EV6 รุ่นปรับโฉมมีความเฉียบคมขึ้นอย่างชัดเจนที่ด้านหน้าของรถจากการออกแบบทั้งไฟหน้าและกันหน้าใหม่ รวมทั้งมีช่องดักลมที่กันชนหน้าใหม่ ส่วนด้านข้างรถมีความสดใหม่ขึ้นด้วยล้อใหม่พร้อมกับการปรับในส่วนของคิ้วแต่งซุ้มล้อ ขณะที่ด้านหลังมีกราฟฟิกไฟท้าย LED ใหม่ร่วมกับกันชนหลังใหม่ในรุ่นปรับโฉม

นอกจากความเปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์แล้ว รถรุ่นปรับโฉมยังมีความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 15 มม. พร้อมกับมีโอเวอร์แฮงหน้ายาวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉม โดยการออกแบบภายนอกของรถคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นปรับโฉมเป็นการตีความใหม่ให้กับภาษาการออกแบบ Opposite United ของแบรนด์ ทำให้รถมีสไตล์แตกต่างจากรถไฟฟ้ารุ่นอื่นของแบรนด์โดยยังคงมีเส้นสายที่โค้งและรูปทรงที่สปอร์ตเอาไว้

ห้องโดยสารของรถมากับจอโค้งใหม่ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับแบบดิจิตอลและจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้วทั้งสองจอยาวต่อเนื่องกัน รวมทั้งมีพวงมาลัยใหม่ และใช้พื้นผิววัสดุใหม่ที่คอนโซลกลาง โดยรถรุ่นปรับโฉมที่สหรัฐอเมริกายังสามารถปรับแต่งจอแสดงข้อมูลเพื่อใช้สีและโลโก้ทีมบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอที่ชื่นชอบได้ผ่านทางKia Connect Store รวมไปถึงมีการปรับปรุงวัสดุซับเสียงเพื่อให้ห้องโดยสารเงียบขึ้น และปรับปรุงระบบช่วยขับที่มากับรถให้ทันสมัยมากขึ้น

รถเอสยูวีรุ่นปรับโฉมมีการปรับในส่วนของแบตเตอรีเพื่อให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า โดยเปลี่ยนจากแบตเตอรีความจุ 58 kWh และ 77.4 kWh ในรุ่นก่อนเป็นความจุ 63 kWh และ 84 kWh ทำให้รุ่นที่มากับแบตเตอรี 84 kWh ขับเคลื่อนล้อหลังมีระยะการเดินทางสูงสุด 513 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นจากเกรด Long-Range RWD ในรุ่นก่อนปรับโฉม 15 กิโลเมตร นอกจากนี้รถคอมแพกต์เอสยูวีไฟฟ้ายังมีความสามารถในการลากจูงเพิ่มขึ้นเป็น 1,225 กิโลกรัม

สำหรับเกรด GT ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดเน้นสมรรถนะ มีกำลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มขึ้นเป็น 601 แรงม้า และยังสามารถเพิ่มกำลังเป็น 645 แรงม้าได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในโหมด GT รวมทั้งยังมีแรงบิดเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 31 นิวตัน-เมตร นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกเร้าใจในการขับมากขึ้น ด้วยการทำงานที่ให้ทั้งเสียงและการปรับแรงบิดเพื่อให้รู้สึกเหมือนการเปลี่ยนเกียร์ของรถ

การขายรถคอมแพกต์เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นปรับโฉมที่สหรัฐอเมริกาจะมีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า โดยที่ราคารถจะออกมาในช่วงใกล้ขาย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th