แม้ว่า Kia จะเปิดตัวรถคอมแพกต์เอสยูวี Niro เจเนเรชันที่ 2 ออกมาเมื่อปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนจะยังไม่ยอมถอดปลั๊กสายการผลิตเจเนเรชันแรกของรถเอสยูวีรุ่นนี้ง่ายๆ เพราะล่าสุดได้นำเอา Niro เจเนเรชันแรกมาปรับเป็น Niro Plus โดยระบุว่าเป็นรถประเภท Purpose-built Vehicle ซึ่งเป็นรถที่ทำออกมาเพื่อการใช้งานต่างๆ เฉพาะด้าน

Kia Niro Plus ถูกทำออกมาโดยเพิ่มความยาวขึ้น 10 มม. และเพิ่มความสูงขึ้น 80 มม. จาก Niro เจเนเรชันแรกเพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารของรถ  โดยทาง Kia จะเริ่มทำตลาดในเกาหลีใต้ด้วยการนำ Niro Plus รุ่นใช้พลังงานไฟฟ้ามาปรับให้เป็นรถแท๊กซี ซึ่งทำให้นอกจากการเพิ่มความยาวและความสูงของรถแล้ว ยังมีการปรับให้เบาะและแผงประตูของรถมีความหนาน้อยลงด้วย

นอกจากนี้ Kia Niro Plus แท๊กซียังติดตั้ง All-in-One Display ซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการรถแท๊กซี่ไม่ต้องติดหลายหน้าจอในรถ เพราะหน้าจอจะมีทั้งระบบนำทาง แอปป์มิเตอร์แท๊กซี เครื่องบันทึกความเร็วของรถแบบดิจิตอล และระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมไปถึงมีข้อมูลของสถานที่ที่น่าสนใจ รวมทั้งตำแหน่งของสถานีชาร์จไฟที่อยู่ใกล้

นอก Niro Plus ไฟฟ้าสำหรับทำแท๊กซีแล้ว ยังมี Niro Plus ทั้งแบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้าสำหรับการใช้งานประเภทอื่นด้วย โดยทาง Kia บอกว่า Niro Plus เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการรถสำหรับการใช้งานในวันทำงาน พร้อมกับเป็นรถเพื่อใช้สำหรับทำกิจกรรมและการพักผ่อนในวันหยุดได้

Kia กำลังพัฒนารถ Purpose-built Vehicle หลายรุ่นและตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้ภายในปี 2030 โดยวางแผนที่จะทำรถ Purpose-built Vehicle โดยเฉพาะออกมาในปี 2025 ซึ่งในแผนงานของผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีใต้รายนี้จะมีทั้งรถขนาดกลางสำหรับการใช้งาน Ride-hailing และบริการส่งสินค้า รวมไปถึงรถขนาดจิ๋วในลักษณะ Robo-delivery รถขับขี่อัตโนมัตืเพื่อใช้งานเป็นโรโบแท๊กซี และรถขนาดใหญ่สำหรับขนส่งสิ่งของจำนวนมากและขนส่งคน

ส่วน Niro Plus ในแบบรถแท๊กซีนอกจาก Kia จะทำตลาดในบ้านตนเองแล้ว ยังวางแผนที่จะส่งไปทำตลาดในบางประเทศด้วย