ในโอกาสที่ Kia ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการผลิตจักรยานมาสู่รถยนต์ราคาประหยัดจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกมีอายุ 80 ปี ทางบริษัทในสหราชอาณาจักรจึงนำเอา Pride รถแฮทช์แล็กขนาดเล็กในปี 1996 มาเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า Pride EV โดยเป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือกับ Electrogenic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้า

Kia Pride EV ถูกถอดเอาเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 61  แรงม้าเดิมของรถออก แล้วแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 91 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตัน-เมตร อย่างไรก็ตามทั้งผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีใต้และ Electrogenic ได้เก็บชุดเกียร์แมนนวล 5 สปีดของรถเอาไว้พร้อมกับมีการปรับแต่งเพื่อทำงานร่วมกับคลัตช์สมรรถนะสูงสำหรับรองรับแรงบิดที่สูงจากมอเตอร์ไฟฟ้า

พลังงานสำหรับขับเคลื่อนรถยุค ๅต90 ที่ถูกแปลงเป็นรถไฟฟ้ามาจากแบตเตอรีความจุ 20 kWh  ซึ่งแม้จะดูเหมือนเล็กแต่ก็ถูกระบุว่าให้พลังงานสำหรับการเดินทางได้ถึง 193 กิโลเมตร โดยรถมาพร้อมกับระบบชาร์จไฟ 3.3 kW ทำให้ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟจนเต็มความจุแบตเตอรี

รถไฟฟ้าย้อนยุคไม่ต่างกับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีหลายโหมดขับให้เลือกใช้ทั้ง Eco, Sport และ Auto โดยในโหมดแรกระบบขับเคลื่อนจะส่งกำลังออกมา 61 แรงม้าให้แรงบิด 118 นิวตัน-เมตร ส่วนโหมด Sport จะมีการปล่อยพลังขับเคลื่อนทั้งหมดออกมา ใช้เวลา 8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. นอกจากนี้รถยังมีการทำงานเพื่อเก็บพลังงานจากการเบรกมาสร้างไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระยะการเดินทาง

ทางKia ยังคงดีไซน์ภายนอกของรถที่คลาสสิกเอาไว้ แต่เปลี่ยนสีใหม่เป็นสีขาว White Pearl ที่มีให้เลือกในรถไฟฟ้าตั้งแต่ EV3 ถึง EV9 พร้อมกับใช้คาลิเปอร์เบรกสีเขียว Lime Green ที่มาจาก EV6 GT แต่ยังคงเก็บล้อเหล็กขนาด 12 นิ้วและฝาครอบล้อดั้งเดิมของรถเอาไว้

ห้องโดยสารของรถยังคงนำกลับไปสู่ความรู้สึกในยุค 1990 ด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ของรถในยุคนั้นอย่างวิทยุเทป ระบบปรับอากาศเดิมของรถที่ออกมาจากโรงงาน และที่เปิดกระจกหน้าต่างรถแบบมือหมุน แต่ก็มีการใช้สีเขียว Lime แต่งที่เบาะของรถ

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th