มาถึงเมืองไทยแล้ว Lamborghini Huracan STO เริ่มต้น 29.99 ล้านบาท
Lamborghini Huracan STO โมเดลรุ่นพิเศษของค่ายซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลี่ยนที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป มีกำลังสูงสุด 640 แรงม้า และแรงบิด 565 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.0 วินาที โดยมีราคาเริ่มต้น 29,990,000 บาท
คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริษัทเรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Lamborghini อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจาก Lamborghini ปล่อย Livestream ให้สาวกกระทิงดุได้ชมโฉม Lamborghini Huracan STO พร้อมกันแบบเรียลไทม์ทั่วโลกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ทางลัมโบร์กินี ออโตโมบิลี ได้ส่งรถ Lamborghini Huracan STO มาให้แฟนพันธุ์แท้ในไทยได้ยลโฉมคันจริงเป็นครั้งแรกกันอย่างใกล้ชิดที่โชว์รูม Lamborghini Bangkok โดย Lamborghini Huracan STO เป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากสนามแข่งสู่ท้องถนน ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความเร้าใจตามแบบฉบับของรถแข่ง ในรูปแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนสาธารณะ”
ทางด้านคุณศักดิ์ นานา กรรมการบริษัทเรนาสโซ มอเตอร์ กล่าวถึงไอคอนแห่งความแรงตัวล่าสุดของแบรนด์ลัมโบร์กินี พร้อมมอบประสบการณ์ที่สุดแห่งยนตรกรรมส่งตรงจากสนามแข่งขันสู่ท้องถนนว่า “บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำ Lamborghini Huracan STO ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Huracan GT3 EVO แชมป์ 3 ปีซ้อนจากรายการแข่งขัน 24 Hours of Daytona หนึ่งในการแข่งขันที่ยากและโหดที่สุดในโลก มานำเสนอให้ลูกค้าที่หลงใหลในแบรนด์ลัมโบร์กินีได้สัมผัส และเป็นเจ้าของ”
Lamborghini Huracan STO – Super Trofeo Omologata: ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง โดยแผนก Squadra Corse’s ที่วิจัย และพัฒนารถแข่งของทางค่ายอย่าง Huracan Super Trofeo EVO และ Huracan GT3 EVO ที่พิชิตชัยชนะจากรายการ 24 Hours of Daytona 3 สมัย และ 12 Hours of Sebring 2 สมัย ด้วยเครื่องยนต์ V10 แบบ NA ที่มอบพละกำลังสูง 640 แรงม้า และแรงบิด 565 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปที่ล้อคู่หลังทำให้ Huracan STO สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.0 วินาที และจาก 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.0 วินาที
ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจหลักสำคัญของ Huracan STO นั้นคือหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถที่สามารถจัดการกับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีไซน์ตัวถังที่ถูกออกแบบเพื่อสร้างแรงกดอากาศได้สูง และสามารถรีดอากาศออกจากตัวรถได้ดีในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งการนำวัสดุน้ำหนักเบามาใช้บนตัวรถเพื่อลดน้ำหนักสูงสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่เสมือนรถแข่งได้อย่างแท้จริง
หลักอากาศพลศาสตร์ และน้ำหนักตัวรถที่เบาในดีไซน์ของรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์
Huracan STO ได้รับการเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกใหม่ เพื่อช่วยให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทุกรายละเอียดได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต และเดินตามปรัชญา “Design Always Follows Function” Huracan STO คือผลงานระหว่างการร่วมมือของแผนกวิจัย และพัฒนาของลัมโบร์กินี แผนกมอเตอร์สปอร์ต Squadra Corse และแผนกดีไซน์ Centro Stile ฟังก์ชั่นหลายส่วนของรถได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งที่ทาง Squadra Corse ผลิตขึ้นมาและถูกนำมาใช้ใน Huracán STO
“Cofango”
การนำฝากระโปรงหน้า, ซุ้มล้อ และกันชนหน้า ของตัวรถมาดีไซน์ใหม่ให้เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้ Huracan STO มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ดีไซน์ใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถในตำนานของค่ายอย่าง Lamborghini Miura และ Sesto Elemento
ดีไซน์ด้านหน้าใหม่นอกจากช่วยลดน้ำหนักของตัวรถแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นมอเตอร์สปอร์ตได้อย่างลงตัว ช่องดักอากาศบริเวณฝากระโปรงหน้าช่วยจัดระเบียบให้อากาศไหลเวียนผ่านตัวรถได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้การระบายความร้อนเครื่องยนต์ดียิ่งขึ้น และสร้างแรงกดให้กับรถมากยิ่งขึ้นอีกด้วย บริเวณด้านหน้าของ Huracan STO ได้ติดตั้งสปลิตเตอร์หน้าใหม่ที่มีช่องระบายอากาศไปยังใต้ท้องรถจนถึงดิฟฟิวเซอร์หลังที่ช่วยลดการต้านลมเมื่อต้องการทำความเร็วในทางตรง
ซุ้มล้อหลังพร้อมช่องดักอากาศ NACA
ซุ้มล้อหลังของตัวรถถูกพัฒนามาจากรถแข่ง One Make Race อย่าง Super Trofeo EVO ช่วยให้ตัวรถลู่ลมมากยิ่งขึ้นและในขณะเดียวกันก็ยังสร้างแรงกดด้านท้ายของตัวรถ ส่งผลให้สมรรถนะของตัวรถทั้งทางตรงและทางโค้งมีประสิทธิภาพสูงเหมือนกับรถแข่งในสนาม ช่องดักอากาศ NACA ที่ถูกติดตั้งบนซุ้มล้อหลังนั้นทำหน้าที่ดักอากาศเข้าไปในเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์สร้างพละกำลังได้อย่างต่อเนื่องแม้ในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานาน
ฝาเครื่องยนต์ด้านหลังพร้อมช่องดักอากาศ
ฝาเครื่องยนต์ของตัวรถได้รับการออกแบบใหม่และติดตั้งช่องดักอากาศด้านบนเพื่อช่วยระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ บริเวณในห้องเครื่องได้รับการติดตั้งครีบลำเลียงอากาศ เพื่อการจัดสรรให้อากาศสามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ครีบอากาศ
ครีบอากาศบริเวณฝากระโปรงหลังนั้นช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับ STO ในขณะเข้าโค้ง โดยอากาศจะถูกตัดผ่าน และไหลไปที่สปอยเลอร์ด้านท้าย ส่งผลให้ตัวรถมีความนิ่งมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
สปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับได้
สปอยเลอร์หลังของ Huracán STO สามารถปรับตั้งได้ 3 ระดับ เพื่อให้สมดุลตามแต่ละรูปแบบของสนามได้อย่างลงตัว
ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง
ช่องดักอากาศเบรกหน้าใหม่ถูกดีไซน์เพื่อระบายความร้อนให้กับระบบเบรกแบบใหม่อย่าง CCM-R brakes ที่ถูกพัฒนาจากรถ F1 โดย Brembo
แอโรไดนามิก
Huracan STO สามารถสร้างแรงกดได้สูงสุดในรถคลาสเดียวกันและยังมีบาลานซ์รถที่ดีที่สุดสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังอีกด้วย Huracan STO มีประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้นมากถึง 37 เปอร์เซ็นต์ และสร้างยังสามารถแรงกดได้มากขึ้นถึง 53 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ Huracan Performante
โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา
โครงสร้างภายนอกของ Huracán STO กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักตัวรถและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวถังได้เป็นอย่างดี น้ำหนักตัวรถเปล่าเพียง 1,339 กิโลกรัม ซึ่งลดลงไปถึง 43 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นพิเศษอย่าง Huracan Performante โดยกระจกบานหน้าของ Huracan STO เบาลง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ Huracan Performante และยังมีออพชั่นเสริมอย่างล้อแม็กนิเซียมน้ำหนักเบา
The Huracan STO–Lamborghini Squadra Corse
Huracan STO มอบความรู้สึกความเป็นนักแข่งให้กับผู้ขับขี่ทุกครั้งที่ได้อยู่หลังพวงมาลัยด้วยเครื่องยนต์ V10 แบบเดียวกับรถ Super Trofeo สร้างกำลังสูงสุด 640 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตร ตัวรถมีการขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับตั้งมาโดยเฉพาะอย่าง Lamborghini’s MagneRide 2.0 ทำให้ STO สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของรถแข่งได้อย่างไร้ขีดจำกัดแม้บนถนนสาธารณะ ระบบเลี้ยวล้อหลังถูกติดตั้งเพิ่มเพื่อความคล่องตัวเมื่อใช้งานทุกวันและยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจในทุกสภาพแวดล้อมเมื่ออยู่ในสนามแข่งอีกด้วย
3 โหมดการขับขี่แบบใหม่
Huracan STO’s ได้รับการติดตั้งโหมดการขับขี่ใหม่ 3 โหมด: STO, Trofeo และ Pioggia โหมด STO ถูกปรับตั้งให้เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไปหรือบนถนนคดเคี้ยวในชนบท ระบบ Lamborghini Veicolo Dinamica Integrata (LDVI) ถูกนำมาติดตั้งเพื่อช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่น และธรรมชาติยิ่งขึ้น
ในโหมด Trofeo ตัวรถจะถูกตั้งค่าให้ตอบสนองกับการขับขี่บนสนามแข่งในพื้นผิวที่แห้ง ระบบ LDVI จะคอยจัดสรรแรงบิดให้ไปที่ล้อที่มีแรงยึดเกาะสูงสุดซึ่งทำงานควบคู่กับระบบ Performance Traction Control ของรถ อีกทั้งระบบ Brake Temperature Monitoring (BTM) ใหม่จะคอยแจ้งสถานะอุณหภูมิของเบรกแบบเรียลไทม์
ในโหมดการขับขี่ Pioggia ตัวรถจะคอยควบคุมให้ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบกระจายแรงบิด ระบบเลี้ยวล้อหลัง และระบบเบรก ABS ให้เหมาะสมกับพื้นผิวถนนที่เปียก โดยระบบ LDVI จะทำการวิเคราะห์แรงยึดเกาะของรถเพื่อถ่ายกำลังแรงบิดไปที่ล้อสูงสุดโดยไม่ลื่นไถลในทางตรงและระบบกระจายแรงบิดจะทำการกระจายกำลังไปยังล้อที่มีแรงยึดเกาะสูงสุดในขณะกำลังเข้าโค้ง
ระบบเบรก CCM-R
ระบบเบรกของ Huracan STO ได้รับการถ่ายทอดจากสนามแข่งอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีจาก Brembo ระบบเบรก CCM-R ช่วยให้การหยุด Huracan STO ทำได้อย่างมั่นใจแม้จะถูกใช้งานอย่างต่อเนื่อง สามารถทนความร้อนได้มากกว่าระบบเบรกเซรามิกทั่วไปถึง 4 เท่า และทนทานต่อการใช้งานในสนามมากขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อผู้ขับขี่ต้องการทำเวลาต่อรอบในสนามแข่ง ระบบเบรก CCM-R ยังเพิ่มขีดจำกัดของแรงเบรกมากขึ้นไปอีกถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ระยะการเบรกลดลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์
ภายในของ The Huracan STO
การออกแบบภายในได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตด้วยการนำเอาวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้บริเวณแผงประตูภายใน เบาะแบบสปอร์ตพร้อมแผ่นหลังจากวัสดุคาร์บอน และนำเอาวัสดุอัลคันทาร่ามาใช้เพื่อให้สัมผัสที่กระชับมือยิ่งขึ้น พรมบริเวณพื้นรถถูกแทนที่ด้วยแผ่นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา
ระบบเซฟตี้เบลท์ 4 จุดที่ยึดไว้กับคานไทเทเนียมด้านหลังเบาะที่พัฒนาร่วมกับ Akrapovic ถูกนำเข้ามาเพิ่มความปลอดภัยตามแบบฉบับรถแข่ง ฝากระโปรงหน้าของตัวรถถูกออกแบบใหม่ให้สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ทำให้ Huracan STO พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสนามแข่ง ระบบ HMI ถูกพัฒนาจาก Huracan EVO เพื่อบอกค่าสำคัญต่างๆ ให้แก่ผู้ขับขี่เช่น การทำงานของระบบ LDVI รวมไปถึงอุณหภูมิของระบบเบรกอีกด้วย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เรนาสโซ มอเตอร์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th