Lamborghini Invencible และ Autentica ผลิตพิเศษสองคันสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุคไฮบริด
แม้ว่ากำลังจะมีรถซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ขุมกำลังไฮบริดมาแทน Aventador แต่ทาง Lamborghini ก็ยังมีการทำรถผลิตพิเศษบนพื้นฐานของ Aventador ออกมาสองคันในชื่อ Invencible และ Autentica ซึ่งเป็นเหมือนการบอกลาครั้งสุดท้ายกับเครื่องยนต์ V12 สันดาปล้วนก่อนเข้าสู่ยุคไฮบริด
Lamborghini Invencible และ Autentica ซึ่งเป็นรถคูเป้และโรดสเตอร์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยLamborghini Centro Stile บนพื้นฐานของแชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกจาก Aventador แต่มีการทำตัวถังโดยเฉพาะรถด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และมีการออกแบบภายในห้องโดยสารเป็นพิเศษซึ่งทางผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์จากอิตาลีระบุว่าเจ้าของรถทั้ง 2 คันมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างตั้งแต่เริ่มต้น
แม้รถที่ผลิตออกมาเป็นพิเศษทั้ง 2 คันจะมีชื่อแตกต่างกันและไม่ได้มีเจ้าของคนเดียวกัน แต่ก็เป็นเหมือนรถรุ่นเดียวกันในรูปแบบคูเป้และโรดสเตอร์ เพราะมีการใช้แผงตัวถังรถส่วนใหญ่เหมือนกัน โดยมีความแตกต่างในส่วนของหลังคา บริเวณด้านหลังเบาะนั่ง รายละเอียดของแอโรไดนามิก และรายละเอียดในการแต่ง โดยนำแรงบันดาลใจมาจาก Sesto Elemento รถรุ่นพิเศษในอดีต
ในส่วนดีไซน์ภายนอกของรถ ที่ด้านหน้าของรถผลิตพิเศษทั้ง 2 คันมาพร้อมกับไฟหน้าทรงหัวลูกศร ปลายด้านหน้าของรถที่มีความเฉียบคมและต่ำ มี Splitter ขนาดใหญ่ และช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้าที่ทำให้คิดถึง Essenza SCV12 ซึ่งเป็นรถสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ ขณะที่ด้านข้างรถแสดงความเชื่อมโยงกับ Aventador ในส่วนบริเวณกระจกหน้าต่าง แต่แผงตัวถังด้านข้างมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ประตูรถแบบ Scissor และซุ้มล้อรถที่มีกลิ่นไอของ Countach รวมไปถึงล้อคาร์บอนไฟเบอร์ Center-lock ลายเฉพาะ
ส่วนท้ายของรถผลิตพิเศษทั้ง 2 คันมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่แพ้ด้านหน้าด้วย 3 ไฟท้าย LED ทรง 6 เหลี่ยมที่แต่ละฝั่งของรถ รวมทั้งยังเน้นรูปทรง 6 เหลี่ยมด้วย 3 ปลายท่อไอเสียที่ออกตรงกลาง และช่องระบายอากาศที่ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหลังของรถ ในขณะที่กันชนหลังถูกออกแบบให้เป็นเหมือน Diiffuser ไปในตัวพร้อมกับเปิดบางส่วนของล้อหลัง อย่างไรก็ตามกับ Invencibleจะมาพร้อมกับปีกหลังติดตายตัวเหมือนกับใน Sesto Elemento ในขณะที่ Autentica มาพร้อมกับครีบคู่ที่ด้านหลัง รวมทั้งมีโครงสร้างในลักษณะโดมด้านหลังเบาะ
ในห้องโดยสารของรถแม้จะมีการจัดวางสิ่งต่างๆ เหมือนรถที่ใช้เป็นพื้นฐานในการผลิต แต่มีการออกแบบรายละเอียดที่แตกต่างไป อย่างการมีช่องระบบปรับอากาศ 6 เหลี่ยมจากการพิมพ์ 3 มิติ จอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลมีกราฟฟิกเฉพาะของตัวเองในรถแต่ละคัน ไม่มีจอระบบ Infotainment และเน้นการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ โดยในห้องโดยสารของรถตัวถังคูเป้จะมีเกล็ดสีแดงบนส่วนที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อให้เข้ากับสีแดง Rosso Efesto ภายนอกรถ พร้อมกับใช้สีแดง Rosso Efesto แต่งส่วนต่างๆ เพิ่มความเด่น รวมทั้งมีการใช้หนังสีแดง Rosso Alara และ Alcantara สีดำ Nero Cosmus ในห้องโดยสาร
ในขณะที่กับ Autentica ซึ่งมีภายนอกสีเทา Griogio Titan และสีดำด้านโดยใช้สีเหลือง Giallo Auge เพิ่มความโดดเด่นในบริเวณชิ้นส่วนแอโรไดนามิก มีห้องโดยสารที่ใช้หนังสีดำ Nero Ade และ Alcantara ดูโอโทนสีดำ Nero Cosmus / สีเทา Grigio Octans โดยใช้สีเหลือง Giallo Taurus เพิ่มความเด่น
แน่นอนว่าขุมกำลังที่ถูกวางกลางลำของรถผลิตพิเศษทั้ง 2 คันเป็นเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตรหายใจเอง ให้กำลังขับเคลื่อน 780 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลัง ISR 7 สปีดนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 ของรถ พร้อมมีระบบLamborghini Dynamic Steering เพื่อควบคุมการเลี้ยวทั้ง 4 ล้อของรถ
ทางผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์จาก Sant’Agata Bolognese ในอิตาลีระบุว่ารถที่ถูกทำออกมาทั้ง 2 คันนี้เป็นการสดุดีครั้งสุดท้ายแก่เครื่องยนต์ V12 ที่ไม่ใช้พลังงานไฟฟ้าก่อนจะมีเครื่องยนต์ V12 ไฮบริดมาในอนาคตพร้อมกับรถระดับเรือธงรุ่นใหม่
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th