เรนาสโซ มอเตอร์ ยกทัพ Lamborghini Pre-owned ร่วมงานบางกอก อิมพอร์ตคาร์ แอนด์ ยูสคาร์ โชว์ 2024
เรนาสโซ มอเตอร์ ยกทัพซูเปอร์คาร์ Lamborghini Selezione Certified Pre-owned เข้าร่วมงาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2024 ที่เอ็กซ์ซิบิชั่น ฮอลล์ 11-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 10-14 กรกฎาคม 2567
บริษัทเรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินี อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ, ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการ ยกทัพ Selezione Certified Pre-owned จัดแสดงในงาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2024 หรือมหกรรมยานยนต์นำเข้า และรถยนต์มือสอง ครั้งที่ 15
กลับมาครั้งนี้ต้องยิ่งใหญ่! ‘บางกอก อิมพอร์ตคาร์ แอนด์ ยูสคาร์ โชว์ 2024’
ในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ เรนาสโซ มอเตอร์ นำเสนอ Lamborghini Pre-owned ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากทางลัมโบร์กินี และมาตรฐานสูงสุดจากเรนาสโซ มอเตอร์ มั่นใจด้วยการตรวจสอบประวัติรถได้ทุกคัน พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงาน อาทิ Huracán Tecnica, Huracán STO, Huracán EVO RWD, Aventador S, Huracán EVO Spyder และ Urus Performante ที่เอ็กซ์ซิบิชั่น ฮอลล์ 11-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 10-14 กรกฎาคม 2567
เรนาสโซ มอเตอร์ มุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์การขับขี่และบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับท่านเจ้าของรถลัมโบร์กินี ด้วยวิสัยทัศน์การบริหารงานด้านการบริการลูกค้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ และใส่ใจในทุกรายละเอียดของรถลัมโบร์กินีทุกคันก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้าคนสำคัญเสมอ
ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์ได้ที่ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: บริษัทเรนาสโซ มอเตอร์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Lamborghini Huracan STJ ซึ่งชื่อต่อท้ายมาจาก Super Trofeo Jota ที่เคยใช้ครั้งแรกกับ Miura ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เป็นการพัฒนาต่อเนื่องจาก Huracan STO ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังเน้นสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง โดยยังคงลักษณะที่มีน้ำหนักเบาและครีบด้านหลังของรถที่มาจากมอเตอร์สปอร์ตเอาไว้
แต่ทางวิศวกรได้มีการเพิ่มแอโรไดนามิกให้กับรถมากขึ้นด้วยการมี Canard คาร์บอนไฟเบอร์คู่ที่กันชนหน้า พร้อมกับปรับมุมของสปอยเลอร์หลังของรถเพิ่มขึ้น 3 องศา ซึ่งทำให้มีแรงกดเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้รถยังใช้แดมเปอร์ปรับได้ 4 ทิศทางที่มาจากรถแข่งที่ผู้ขับสามารถปรับการยืดและยุบได้เองแทนโช๊กอัพแอคทีฟที่ใช้ในรุ่น STO ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่าสามารถทำให้ผู้ขับใช้สปริงที่มีความนุ่มมากขึ้นโดยที่ยังคงความเฉียบคมในการควบคุมพวงมาลัยเอาไว้ได้ แต่รถยังคงมาพร้อมกับล้ออัลลอยฟอร์จ Center-lock ขนาด 20 นิ้วเหมือนกับรุ่น STO
ด้านขุมพลัง V10 ที่มีกำลัง 640 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 565 นิวตัน-เมตรที่ 8,000 รอบ/นาทีซึ่งอยู่ใน STO ยังคงถูกนำมาประจำการในรถรุ่นพิเศษใหม่
พร้อมกับใช้ระบบส่งกำลังดูอัลคลัตช์ 7 สปีด แต่รถมาพร้อมกับยาง Bridgstone Potenza ชุดใหม่ที่ช่วยเสริมสมรรถนะของรถจนทำให้ขับรอบสนามทดสอบ Nardo ทางใต้ของอิตาลีเร็วกว่า STO หนึ่งวินาที
รถรุ่นพิเศษมี 2 ทางเลือกของสีภายนอก แบบแรกมีตัวรถสีเทา Grigio Telesto หลังคาดำ Nero Noctis พร้อมรายละเอียดสีแดง Rosso Mars และสีขาว Bianco Isi ส่วนอีกทางเลือกมีตัวรถสีฟ้า Blu Eliadi หลังคาดำ Nero Noctis รายละเอียดสีแดง Rosso Mars และสีขาว Bianco Isi โดยรถทุกคันจะมาพร้อมกับแผ่นป้ายระบุหมายเลขการผลิต