Lamborghini Temerario ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่สลัดขุมพลัง V10 มาใช้ขุมพลัง V8 เทอร์โบไฮบริด
Lamborghini เปิดตัว Temerario ออกมาแทน Huracan ที่ขายมากว่า 10 ปี โดยรถรุ่นใหม่เปลี่ยนจากใช้เครื่องยนต์ V10 ที่ประจำการอยู่ในซูเปอร์คาร์ระดับเริ่มต้นของบริษัทมาตั้งแต่รุ่น Gallado เป็นเครื่องยนต์ V8 ไบเทอร์โบไฮบริดตามแนวทางของรถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อน และเป็นรถรุ่นที่ 2 ใน Lamborghini High Performance Electrified Vehicle ต่อจาก Revuelto
ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ Lamborghini Temerario ใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตรไบเทอร์โบที่ทำงานสูงถึง 10,000 รอบ/นาที มีกำลัง 800 แรงม้าที่ 9,000-9,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 730 นิวตัน-เมตรที่ 4,000-7,000 รอบ/นาที ร่วมกับ 3 มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งแต่ละมอเตอร์มีกำลัง 110 kW โดยมี 1 มอเตอร์อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับชุดเกียร์ และอีก 2 มอเตอร์ที่เพลาหน้าของรถ ให้กำลังขับเคลื่อนจากระบบไฮบริดรวม 920 แรงม้าสำหรับการขับเคลื่อนทุกล้อของรถ ขณะที่ระบบส่งกำลังของรถเป็นแบบดูอัลคลัตช์ 8 สปีด ด้านตัวเลขความเร็วของรถใช้เวลา 2.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุดกว่า 340 กม./ชม.
สำหรับแบตเตอรีที่ให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นลิเธียมไอออนความจุ 3.8 kWh ที่ทำให้เดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้ 3.5 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จไฟรองรับสูงสุด 7 kW พร้อมกับสามารถชาร์จไฟได้จากการเบรกของล้อหน้า ส่วนโหมดการขับของรถมีให้เลือกระหว่าง Citta, Strada, Sport และ Corsa โดยโหมดแรก Citta หรือ City จะเป็นการขับเคลื่อนที่ใช้ไฟฟ้าปราศจากมลพิษและเสียง
รถซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นใหม่อยู่บนแชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์ มีโครงสร้างเป็นสเปซเฟรมอลูมิเนียมเหมือน Huracan แต่มีระยะฐานล้อยาว 2,658 มม. สั้นกว่า Huracan 121 มม. อย่างไรก็ตามภายนอกของรถรุ่นใหม่มีความยาวมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 38 มม. ซึ่งถูกระบุว่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ Legroom นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังบอกว่ารถรุ่นใหม่ยังมีพื้นที่ Headroom มากกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วยเพื่อรองรับนักขับที่สูงและสวมหมวกกันน็อกในสนามแข่ง
ภายนอกของรถเน้นความโฉบเฉี่ยวและเฉียบคมของพื้นผิว โดยรถมาพร้อมกับไฟหน้าทรงเรียวและเพิ่มความโดดเด่นด้วยไฟซิกเนเจอร์ไลต์ทรง 8 เหลี่ยมสองข้างของกันชนหน้า ขณะที่ด้านข้างของรถดุดันด้วยช่องดักอากาศทั้งที่หน้าซุ้มล้อหลังและหลังกระจกหน้าต่างของรถ ด้านหลังรถมาพร้อมกับไฟท้ายทรง 8 เหลี่ยมพร้อมมีปลายท่อไอเสียคู่ภายในกรอบ 8 เหลี่ยม ส่วนกันชนหลังมี Diffuser คาร์บอนไฟเบอร์พร้อมไฟเบรก
ห้องโดยสารของรถมีถึง 3 หน้าจอทั้งจอแสดงข้อมูลการขับ จอตรงกลางแนวตั้ง และจอด้านหน้าผู้โดยสาร โดยห้องโดยสารยังคงเน้นรูปทรง 8 เหลี่ยมตามส่วนต่างๆ อย่างแผงประตู จอแสดข้อมูลการขับ การแสดงข้อมูลในจอตรงกลาง และช่องระบบปรับอากาศ ขณะที่พวงมาลัยมีด้านล่างแบนพร้อมมาร์กสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารมีทั้งคาร์บอน หนัง และ Cosatex โดยสามารถเลือกใช้ออปชันคาร์บอนไฟเบอร์กับบางส่วนได้
ทางผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์จากอิตาลียังไม่เปิดเผยรายละเอียดด้านราคาและกำหนดการขายรถออกมานอกจากการนำไปเปิดตัวที่ Monterey Car Week
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th