Lamborghini Urus S ซูเปอร์เอสยูวีสายไลฟ์สไตล์กับสุดยอดสมรรถนะ 666 แรงม้า
Lamborghini Urus S ซูเปอร์เอสยูวี ขุมกำลัง 4.0 liter V8 Twin-turbo สุดยอดสมรรถนะ 666 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. พร้อม 6 โหมดการขับขี่ และโหมด EGO เพื่อมอบประสบการณ์ซูเปอร์เอสยูวีแนวสปอร์ตที่ขับขี่สบายและใช้งานได้อเนกประสงค์ในทุกสถานการณ์
Lamborghini ผู้ผลิตซูเปอร์สปอร์ตคาร์สัญชาติอิตาลี ประกาศเปิดตัว Urus S โมเดลล่าสุดในตระกูลซูเปอร์เอสยูวีที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการรถยนต์ระดับโลก มาพร้อมการเพาเวอร์อัปกำลังเครื่อง และฟังก์ชั่นอเนกประสงค์เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวีจากลัมโบร์กินี เคียงคู่กับ Urus Performante สำหรับนักขับที่ต้องการสัมผัสยนตรกรรมแนวสปอร์ตอันเร้าใจ
“รถยนต์ตระกูล Urus ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถตอบโจทย์กลุ่มนักขับที่ต้องการสุดยอดเอสยูวีที่ผสานการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกเร้าใจเข้ากับการใช้งานที่สะดวกสบายในทุกวัน เราจึงนำเสนอ Urus S คู่กับ Urus Performante ใหม่เพื่อมอบอีกหนึ่งความสมบูรณ์แบบแห่งดีไซน์สุดหรู สมรรถนะขั้นสุดยอด และฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ครบครัน” สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Automobili Lamborghini กล่าว “ความสำเร็จของรถยนต์ตระกูล Urus ซึ่งมียอดการผลิตมากกว่า 20,000 คัน คือบทพิสูจน์แห่งความโดดเด่นในฐานะต้นฉบับแห่งซูเปอร์เอสยูวีที่แท้จริง และ Urus S ตอกย้ำความสำเร็จของเราให้เด่นชัดยิ่งขึ้น”
สุดยอดสมรรถนะ พร้อมรูปลักษณ์ที่ภูมิฐานและการใช้งานอเนกประสงค์
เครื่องยนต์ Twin-turbo V8 มอบกำลังเครื่องยนต์ให้สูงถึง 666 แรงม้า เทียบเคียงกับรุ่น Urus Performante มอบอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดียิ่งขึ้นที่ 3.3 กิโลกรัม/แรงม้า เช่นเดียวกับอัตราเร่งเต็มพลังที่ได้รับการอัปเกรดใหม่จาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 12.5 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. มีระยะเบรกจากระดับความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 33.7 เมตรเท่านั้น
เครื่องยนต์ Twin-turbo ยังมอบสุดยอดแรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตรที่ 2,300 รอบต่อนาทีถึง 6,000 รอบต่อนาที ระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ในสไตล์ซูเปอร์เอสยูวีจากลัมโบร์กินี มอบพลังเสียงกระหึ่มอย่างมีเอกลักษณ์นับตั้งแต่เริ่มสตาร์ตและให้เสียงที่คมชัดแตกต่างไปในแต่ละโหมดการขับขี่
โครงแชสซีของ Urus ติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมแบบ adaptive เพื่อมอบการขับขี่แนวสปอร์ตที่ตื่นเต้นเร้าใจแต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่นบนท้องถนนทั้งในโหมด Starda, Sport, Corsa และ Ego พร้อมการตอบสนองแรงบิดที่ฉับไวและการรักษาความเสถียรของตัวรถได้อย่างดีเยี่ยมเพื่อให้เหมาะกับการขับแบบออฟโร้ดทั้งในโหมด Terra, Neve และ Sabbia ด้วยการคาลิเบรตระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Urus Performante
ทำให้ Urus S มอบการตอบสนอง และสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตามโหมดที่ใช้งาน พร้อมสัมผัสการควบคุมที่หรูหราภูมิฐานเพื่อมอบสุนทรียภาพในการขับขี่ประจำวันจากแชสซีที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยมในทุกรายละเอียด ด้วยภาพลักษณ์อันโดดเด่นที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานบนทุกสภาพการขับขี่ ทำให้ Urus S คือซูเปอร์เอสยูวีแนวไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับอย่างแท้จริง
สุดยอดดีไซน์และภาพลักษณ์ที่พร้อมสะกดทุกสายตา
Urus S ยกระดับงานออกแบบยานยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ และภูมิฐานในทุกมุมมอง โดยเน้นรูปลักษณ์แนวสปอร์ตหากยังคงความหรูหราของยานยนต์ไลฟ์สไตล์ไว้อย่างกลมกลืนเพื่อมอบความโดดเด่นที่แตกต่างจากเอสยูวีรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน ด้วยออปชั่นการปรับแต่งใหม่มากมายทั้งในเรื่องโทนสี, อุปกรณ์เสริม, ล้อ, แพ็คเกจการตกแต่ง และรายละเอียดพิเศษอื่นๆ ที่แสดงตัวตนของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน ครอบคลุมทั้งความหรูหราภูมิฐานไปจนถึงสัมผัสที่สนุกสนานเร้าใจในแบบสปอร์ต
งานออกแบบกันชนหน้าผนวกเส้นสายอันละเอียดอ่อนเข้ากับการเคลือบผิวแผ่น Skid plate สแตนเลสสตีลสีดำด้านรูปแบบใหม่มาเป็นมาตรฐาน เสริมด้วยเส้นสายสีดำดูภูมิฐานของส่วนตะแกรงหน้า มาพร้อมออปชั่นการตกแต่งถึง 5 รูปแบบที่ผสมผสานทั้งโทนสีตัวรถ การเคลือบสีดำเงา และชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งแบบเงา และด้านอย่างสมดุล ทำให้คุณตกแต่ง Urus S ให้สะท้อนถึงสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างตรงใจที่สุด
ส่วนฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่มาพร้อมช่องระบายอากาศสีดำด้าน ซึ่งสามารถเลือกออปชั่นสีดำเงาแบบ Gloss Black รวมถึงสีตัวรถหรือชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบเงาและด้านตามต้องการ พร้อมนำเสนอออปชั่นเด่นคือหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่จะเติมเต็มความหรูหราแนวสปอร์ตขั้นสุดให้แก่ Urus S รุ่นใหม่นี้
ชุดกันชนหลังยังได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความกลมกลืนและขับเน้นความหรูหราในทุกองศา ส่วนล่างได้รับการเคลือบสีดำด้านที่ติดตั้งกับท่อไอเสียคู่ดีไซน์ใหม่พร้อมทำผิว Brushed steel ให้เป็นแบบมาตรฐาน โดยมีออปชั่นสีดำด้านหรือดำเงาได้ตามต้องการ ไปจนถึงการตกแต่งแบบ Ad Personam ในสีโครเมียมโทนสว่าง นอกจากล้อขนาด 21 นิ้วแบบมาตรฐาน ยังนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งใหม่อื่นๆ ทั้งล้อ Nath ขนาด 22 นิ้ว แบบ Titanium Matt และ Diamond Polish หรือล้อ Taigete ขนาด 23 นิ้วที่เลือกได้ทั้งสี Bronze และ Diamond Polish
การตกแต่งห้องโดยสารของ Urus S ได้รับการออกแบบโทนสีและส่วนตกแต่งใหม่ทั้งหมด โดยออปชั่น Bi-color Sportivo และ Bi-color Sophisticated แนวใหม่นำเสนอรูปแบบตะเข็บที่สวยหรูเหมือนกับของ Urus Performante โดยการตกแต่งแบบ Bi-color Sportivo จะให้บรรยากาศที่สปอร์ตและดุดัน
ในขณะที่ Bi-color Sophisticated จะมอบความหรูหราภูมิฐานและการตกแต่งด้วยโทนสีเฉพาะอย่างมีสไตล์ โดดเด่นด้วยการใช้หนังสีดำเนื้อละเอียดมาจับคู่กับโทนสีใหม่ที่ตัดกันอย่างงดงามร่วมกับสี Blu Leandro และ Verde Aura ที่พัฒนาใหม่ ควบคู่ไปกับสีแทน ครีม และน้ำตาลอย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้น Urus S ยังมอบโอกาสพิเศษแก่นักขับให้สามารถปรับแต่งรถยนต์ในฝันให้โดนใจที่สุดด้วยโทนสีและอุปกรณ์ตกแต่งใหม่อีกมากมายที่จะช่วยเน้นภาพลักษณ์อันเปี่ยมพลังและคงไว้ซึ่งความงดงามภูมิฐานที่พร้อมสะกดทุกสายตาบนท้องถนน
Urus S มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อออนไลน์ที่ครบครันทั้งระบบการนำทาง ระบบความปลอดภัยและบริการควบคุมมากมายจากภายในตัวรถ โดยสามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน รวมถึงการควบคุมจากสมาร์ตวอชต์ อาทิ ฟังก์ชั่น Virtual Car Key
Lamborghini Urus S ซูเปอร์เอสยูวี
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Renazzo Motor
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th