Land Rover ได้เปิดตัวรถเอสยูวีเรือธง Range Rover รุ่นใหม่ของตนซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 5 ออกมาในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยที่มี 2 รุ่นทางเลือกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในแบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมระบุว่ามีระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามล่าสุดทางผู้ผลิตรถเอสยูวีหรูจากสหราชอาณาจักรได้ทำการอัพเดตระยะการเดินทางใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม

ทาง Land Rover ได้มีการประกาศออกมาว่า Range Rover PHEV หรือปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชันล่าสุดซึ่งจะถูกขายเป็นรุ่นปี 2023 มีระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีอยู่ที่ 113 กิโลเมตรตามวงรอบการทดสอบ WLTP สูงกว่าที่เคยประกาศเอาไว้ตอนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทาง Land Rover ได้ระบุว่าด้วยระยะการเดินทาง 113 กิโลเมตรที่มาจากการทดสอบจะแปลงมาเป็นระยะการเดินทางสำหรับการใช้งานในชีวิตจริงที่ 88 กิโลเมตร ซึ่งแม้จะลดลงจากระยะทางที่ได้จากการทดสอบ แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระยะทางที่คาดการเอาไว้ 13 เปอร์เซ็นต์ และสามารถครอบคลุม 75 เปอร์เซ็นต์ของระยะการเดินทางในชีวิตประจำวันโดยไม่ปล่อยมลพิษ

Range Rover ใหม่มี 2 ทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริดคือ  P440e และ P510e ซึ่งทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 105 kW และแบตเตอรี 38.2 kWh เหมือนกัน แต่ P440e มีกำลัง 440 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร ขณะที่ P510e มีกำลัง 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร และใช้เวลา 5.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. โดยทาง Land Rover ระบุว่ารถเอสยูวีหรูปลั๊กอินไฮบริดของตนมีการปล่อยมลพิษที่ต่ำเพียง 18 กรัม/กม.

ในขณะที่การชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรีหากใช้เครื่องชาร์จที่บ้าน 7.2 kW กับไฟกระแสสลับจะใช้เวลาในการชาร์จไฟจาก 0-100 เปอร์เซ็นต์ไม่ถึง 5 ชั่วโมง แต่หากเป็นเครื่องชาร์จไฟกระแสตรงแบบเร็ว 50 kW จะชาร์จไฟจาก 0-80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ทาง Land Rover เปิดรับจอง Range Rover PHEV ในสหราชอาณาจักรแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้น 103,485 ปอนด์สำหรับรุ่น P440e