เปิดตัว New Audi RS3 Sportback สปอร์ตดุดัน 400 แรงม้า ราคา 5.399 ล้านบาท
เปิดตัว New Audi RS3 Sportback ยนตรกรรม RS รุ่นที่ 9 ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport ดุดัน 400 แรงม้า ราคา 5.399 ล้านบาท อาวดี้ ประเทศไทย แนะนำ “อาวดี้ อาร์เอส 3 สปอร์ตแบ็ก ใหม่” ยนตรกรรม RS รุ่นที่ 9 ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport ซึ่งนับเป็น เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งทาง อาวดี้ นำเข้ามาจำหน่ายมาพร้อม RS Sport Exhaust เสียงท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ ดังกระหึ่ม เร้าใจ ท่อไอเสียสามารถเปิดปิดได้ เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชน หรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่
The New Audi RS3 Sportback วางราคาจำหน่าย 5,399,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ 20 วาล์ว แถวเรียง Direct Injection ขนาด 2.5 ลิตร 2,480 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.5 x 92.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า (PS) ที่ 5,850 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,850 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic) ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250กิโลเมตร/ชั่วโมง
รถสปอร์ตแฮทแบ็กคันนี้ มีขนาดมิติตัวถัง ยาว 4,389 มิลลิเมตร กว้าง 1,851 มิลลิเมตร สูง 1,436 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,631 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 282 – 1,104 ลิตร (เมื่อพับเบาะ) ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร มาพร้อมระบบกระจายแรงบิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า RS Torque splitter พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกในการขับขี่ในสถานที่ปิดหรือสนามแข่งได้ โดยจะทำให้รถยนต์สามารถดริฟท์ให้ท้ายปัดได้ โดยการสั่งการผ่านการเลือกโหมดการขับขี่แบบใหม่ในชื่อ RS Torque Rear ซึ่งระบบนี้จะสามารถส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ทั้งหมดลงสู่ล้อหลังข้างเดียวเพียงล้อเดียวอีกด้วย
นอกจากนั้นอาวดี้ยังเพิ่มอีกหนึ่งโหมดการขับขี่ในชื่อ RS Performance ที่จะตั้งค่ารถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยทั้ง 2 โหมด การขับขี่แบบใหม่ได้ถูกพัฒนาและเพิ่มเข้ามาในรถยนต์อาวดี้เป็นครั้งแรกในรุ่น RS3 เพื่อตอบโจทย์การขับขี่แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาวดี้ยังคงใส่ใจรายละเอียดสำหรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบอื่นๆได้ ดังนี้ Comfort, Auto, Dynamic, Efficiency และ RS individual
ช่วงล่างสปอร์ตปรับปรุงใหม่
ระบบช่วงล่าง RS Sport suspension มาพร้อมกับระบบกันแรงสั่นสะเทือนและวาล์วที่ออกแบบใหม่ให้กับ Audi RS3 Sportback โดยเฉพาะ ทำให้ช่วงล่างตอบสนองต่อการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และอีกหนึ่งระบบใหม่ คือ ระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, adaptive dampers และ wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น
ระบบเบรก 6 พอต แบบเจาะรูระบายอากาศออกแบบมาใหม่ให้ใหญ่ขึ้นและเบรกได้อย่างมั่นใจ เพื่อให้สามารถควบคุมพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ 5 สูบได้ และระบบควบคุมอากาศที่ทำให้เบรกเย็นลงเร็วขึ้นกว่าเดิม 20 % ซึ่งจะทำให้เบรกไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถลดการเสื่อมสภาพของผ้าเบรกให้ช้าลง
การออกแบบภายนอก กันชนหน้าแบบ RS ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าลายรังผึ้งเอกลักษณ์ของตระกูล RS พร้อมชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy black และ Audi Ring และป้ายชื่อรุ่นสี Glossy black อุปกรณ์มาตรฐาน ไฟหน้า Matrix LED และไฟท้าย LED แบบ Dynamic มี digital daytime running light แบบพิกเซลล์ขนาด 3×5 ที่มาพร้อมกับเอฟเฟกต์ light staging แบบ RS3-signature ด้านฝั่งคนขับ เมื่อปลดล็อครถได้ ส่วน Daytime running light จะแสดงในรูปแบบของธงตราหมากรุก ช่องระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้าและซุ้มล้อหน้าที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นเดิม 33 มิลลิเมตร และซุ้มล้อหลังกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร ล้อขนาด 19 นิ้ว ลาย Y spoke ปั้มลาย RS และคาลิปเปอร์เบรกสีแดงปั้มลาย RS
การออกแบบภายในหน้าจอ Virtual cockpit plus เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แสดงรอบเครื่องยนต์ในรูปแบบ bar graph เรียกว่า RS runway design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก runway สนามบิน และ virtual cockpit plus แสดงค่า G- forces จับเวลารอบสนามแข่ง และจับเวลา 0-100, 0-200 หรือ ¼ mile และยังมี RS -Blinking shift indicator ระบบกระพริบไฟเพื่อบอกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ paddle shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์ในโหมด manual หน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว ที่มีชื่อว่า RS Monitor ซึ่งแสดงข้อมูล อุณหภูมิของระบบหล่อเย็น เครื่องยนต์ และน้ำมันเกียร์ รวมไปถึงค่าลมยาง
พวงมาลัยท้ายตัดมัลติฟังชัน สไตล์ RS sport หุ้มหนังพร้อม paddle shift และยังมีปุ่มปรับโหมด RS performance บนพวงมาลัยฝั่งด้านขวา เพื่อให้ง่ายต่อการปรับโหมด โดยไม่ต้องเอามือออกจากพวงมาลัย เบาะหน้าแบบ RS sport stitching ลาย diamond cut
ระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆ ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen 3มิติ หลังคา panoramic sunroof ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน และระบบช่วยจอด (Park assist) ซึ่งระบบจะช่วยหาที่จอดและควมคุมพวงมาลัยให้ โดยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมให้บนหน้าจอ MMI เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง เบรกหรือเร่ง
รถรุ่นนี้มีให้เลือก 6 สี คือ Glacier white, Mythos black, Python yellow, Tango red, Kyalami green และ Kemora grey เปิดให้จองพร้อมกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ
เรื่อง : เกรียงศักดิ์ กลิ่นจุ่น
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ภาพ : ขอบคุณภาพจาก https://www.audi.co.th
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th