Lexus ขายรถหนึ่งล้านคันในยุโรป
Lexus ในยุโรปได้มีการประกาศออกมาว่ามีการขายรถยนต์ของตนออกไปแล้วจำนวน 1 ล้านคันนับตั้งแต่เริ่มทำตลาดในยุโรปเมื่อปี 1990 โดยตัวเลขของรถคันที่ 1 ล้านถูกบันทึกออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลา 30 ปีนับตั้งแต่ที่ Lexus เริ่มทำตลาดรถยนต์หรูในภูมิภาคนี้ด้วยรุ่น LS 400 เพียงรุ่นเดียว
จากจำนวนการขายรวม 1 ล้านคันที่ยุโรปของ Lexus ในเวลา 30 ปี รถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์รถยนต์หรูจาก Toyota คือ RX ซึ่งเป็นรถเอสยูวีหรูพร้อมระบบไฮบริดรุ่นแรกในช่วงกลางยุค 2000 กับจำนวนยอดขาย 289,284 คัน ตามมาด้วยคอมแพกต์ซีดาน IS จำนวน 202,210 คัน ในขณะที่รถคอมแพกต์เอสยูวี NX อยู่ที่อันดับ 3 กับจำนวน 155,366 ตันที่ถูกส่งมอบให้กับลูกค้าในยุโรป
ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ถูกระบุยอดขายตาม 3 รุ่นข้างต้นมีรถไฮบริด CT จำนวน 97,637 คัน ต่อด้วยรุ่น GS, LX และ LS กับจำนวน 74,998 คัน, 58,234 คัน และ 39,059 คันตามลำดับ ในขณะที่ LFA ซึ่งเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่ผลิตออกมาจากโรงงาน Motomachi ในญี่ปุ่นช่วงปี 2010 ถึง 2012 ถูกขายไป 38 คันในยุโรป
ตัวเลขหนึ่งที่น่าสนใจของรถยนต์ Lexus จำนวน 1 ล้านบนถนนในยุโรปในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาก็คือมีถึง 45 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นระบบไฮบริด ขณะที่ในปัจจุบันเฉพาะในยุโรปตะวันตกมีถึง 96 เปอร์เซ็นต์ของรถ Lexus ที่ขายไปมีการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเฉพาะในสหราชอาณาจักรมีการเติบโตในส่วนนี้ถึง 99.7 เปอร์เซ็นต์จนทำสูงกว่า 1 ใน 4 ของรถ Lexus ที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งขายในยุโรปตะวันตก
ทาง Lexus ได้เปิดเผยหลังการขายรถไป 1 ล้านคันในยุโรปว่า “มันอาจไม่ใช่การเริ่มต้นที่ดูหวือหวานัก แต่เป็นสัญญาณถึงการเริ่มต้นเปลี่ยนผ่านในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม กับ LS ก็ได้ให้นิยามแล้วว่ารถยนต์หรูควรเป็นอย่าไรในแง่ของสมรรถนะ การประหยัดเชื้อเพลิง และการมีการทำงานที่ล้ำหน้า “
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th