Lexus IS 300h F SPORT ซัดตึงยาว 700 ก.ม. ไหวมั้ยเดี๋ยวรู้
Lexus IS 300h F SPORT ซัดตึงยาว 700 ก.ม. ไหวมั้ยเดี๋ยวรู้ เชื่อว่าหลายท่านคงจะรู้จัก Lexus แบรนด์รถหรูจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมีความปราณีตและพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของขับขี่ที่ดีเทียบเท่ากับรถยุโรป
ถึงแม้ว่ารถมันจะดีเทพขนาดไหน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่าราคาของเจ้า Lexus จะแพงกว่ารถหรูของเยอรมนี เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่น แต่ถ้าคุณมีกำลังเงินมากพอ และต้องการความแตกต่างไม่เหมือนใคร โดดเด่นในทุกมุมมอง Lexus เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะคันที่ผมนำมาวันนี้ Lexus IS 300h F SPORT ท็อปสุดของตระกลู เจ้าของค่าตัว ราคา 3,890,000 บาท วันนี้เราจะนำ Lexus IS 300h F SPORT กดคันเร่งยาวๆจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ เรามาดูกันกว่ารถสปอร์ตซีดานไฮบริดคันนี้จะเจ๋งขนาดไหน จะสู้คู่แข่งอย่าง BMW 330e และMercedes-Benz C 300e ได้หรือไม่
Lexus IS300h 2022 มีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ
- Luxury รุ่นเริ่มต้น ราคา 2,690,000 บาท
- Premium รุ่นรองท็อป ราคา 3,370,000 บาท
- F Sport รุ่นท็อปสุด ราคา 3,890,000 บาท
การดีไซน์ภายนอก
ต้องบอกว่าการดีไซน์ภายนอกของ Lexus IS300h F Sport คันนี้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง โฉบเฉี่ยว สปอร์ต หรูหรา ล้ำสมัย เรียกว่าขับอยู่บนถนน ใครเห็นต้องเหลียวหลังมองกันเลยทีเดียว กระจังหน้าโครเมียมรมดำลายสปอร์ต ไฟหน้า LEDพร้อมไฟ Daytime Running รูปตัว L เสริมความโฉบเฉี่ยว รับกับฝากระโปรงมีเหลี่ยมสันที่รับเข้ากับชุดกระจังและกันชนหน้าได้อย่างลงตัว ไฟท้ายแบบ LED รูปตัว L มี Light Barเชื่อมต่อติดกันระหว่างฝั่งซ้ายและขวา ดิฟฟิวเซอร์หลังเพิ่มความสปอร์ตพร้อมท่อไอเสียแบบคู่ ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว เคลือบสีดำ มิติตัวถัง ยาว 4,710 มิลลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase 2,800 มิลลิเมตร
การออกแบบภายใน
เข้ามาที่ภายใน Lexus IS300h F Sport ดูจะหรูหรา หวือหวา ทันสมัย ไม่เท่าคู่แข่งจากยุโรป เพราะเจ้า IS300h F Sport คันนี้มีการออกแบบที่เรียบง่าย จนผมมองว่ามันเชยล้าสมัยไปหน่อย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารถือว่าครอบคลุมการใช้งาน เช่น ช่องจ่ายไฟ 12V ช่องเสียบ USB AUX เป็นต้น เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง สามารถบันทึกได้3ตำแหน่ง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Smooth Leather ตัวเบาะนุ่มกำลังดี นั่งสบายกระชับตัว ขับทางไกล เป็นเวลานานๆไม่รู้สึกเมื่อยเท่าไหร่ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ดีไซน์ของพวงมาลัยธรรมดามาก มีปุ่มมัลติฟังก์ชั่นฝั่งซ้ายสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง มีปุ่มรับสาย-วางสาย ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ส่วนปุ่มทางฝั่งขวา สำหรับควบคุมจอเรือนไมล์ ที่หลังพวงมาลัยมีแป้น Paddle Shift มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control แบบแปรผัน หน้าจอกลาง EMV Electro Multi-Vision ขนาด 10.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ,Bluetooth ลำโพง Lexus Premium Sound 10 ตำแหน่ง พร้อมระบบสั่งงานกลางแบบ Frameless Touch Pad มีเบรกมือไฟฟ้า EPB มีกล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Camera 360 องศา ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง Power Rear Window Sunshade และหลังคา Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,494 ซีซี. Dual VVT-i พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 4,200 – 5,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (1KM) กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ Nickel Metal Hydride 192 Cells แรงดันไฟฟ้า 230.4 – 650 V รองรับน้ำมันสูงสุด E20 มีโหมดเลือกการขับขี่ 4 แบบ Normal,Eco,Sport,Sport+ แถมยังมีปุ่ม Hold และปุ่ม EV ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้ามาให้ด้วย
การทดลองขับ
การทดลองขับในครั้งนี้เราจะวิ่งยาวๆจาก กรุงเทพ ไป เชียงใหม่ ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร และบรรทุกเต็มพิกัด นั่ง4คนพร้อมสัมภาระมีเพียบด้านหลัง สัมผัสแรกโอ้วมันนั่งสบายเหนือนกันนะเนี่ย จัดตำแหน่งให้เหมาะพร้อมขับ เราออกจากย่านบางนาตราดในช่วงเช้ารถค่อนข้างเยอะมาก
แต่ IS 300h F SPORT คันนี้มีความคล่องตัวสูง ทัศนวิสัยดี อัตราเร่งช่วงออกตัวยอดเยี่ยม ทำให้สามารถลัดเลาะไปตามช่องว่างได้อย่างสบาย ระบบช่วงล่างก็นุ่มกำลังดีไม่ย้วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากหลุมบ่อบนท้องถนนได้ดีมากครับ
เริ่มออกมานอกเมืองรถเริ่มโล่ง ผมกดคันเร่งเพิ่มความเร็วซะหน่อยเพราะไม่อยากไปถึงเชียงใหม่มืด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลื่นไหล อัตราเร่งต้องบอกว่าทำได้ดีมากทุกย่านความเร็ว เพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่อง ระบบช่วงล่างแบบ Swing Valve ช่วงล่างไฟฟ้า Adaptive Variable Suspension
ด้านหน้าแบบดับเบิลวิชโบนปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัววิ่งด้วยความเร็วสูงตัวรถยังคงนิ่งมากไม่มีอาการโคลงหรือหวิวให้ได้สัมผัส มันนิ่งจนผมต้องมองที่หน้าจอว่าผมใช้ความเร็วเท่าไหร่ เมื่อเห็นเท่านั้นละแม่เจ้า190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถยังนิ่งขนาดนี้ยอดเยี่ยมครับ การเร่งแซงผมบอกเลยว่าไม่มีปัญหากดเป็นมาขับสนุกในทุกย่านความเร็วอย่างแน่นอน ระบบไฮบริดให้ความเงียบในการใช้งานในเมืองเก็บเสียงได้ดี และด้วยการเก็บเสียงที่ดีของตัวรถทำให้เวลาวิ่งด้วยความเร็วสูงเสียงที่เข้าห้องโดยสารถือว่าน้อยมากๆ
มาถึงทางขึ้นเขาช่วงขุนตาลอัตราเร่งขึ้น-ลง เขาบอกเลยว่าจะสูงชันแค่ไหนก็ผ่านได้สบายแน่นอน พละกำลังเหลือๆ ระบบช่วงล่างยังทำหน้าที่ได้ดีเค้าโค้งด้วยสลับซ้าย-ขวา ด้วยความเร็วตัวรถไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใดยังคงนิ่ง และควบคุมง่ายพวงมาลัย Rack & Pinion with Electric Power Steering ควบคุมด้วย ECU ถูกเชื่อมต่อการทำงานกับโหมดขับเคลื่อน 3 รูปแบบ สามารถแปรผันน้ำหนักไปตามโหมดที่เลือกใช้หรือความเร็วในขณะนั้น ทำให้ควบคุมง่าย เฉียบคม แม่นยำ และน้ำหนักกำลังดี
ผ่านช่วงขุนตาล กระโดดมาลองนั่งด้านหลัง อืมมม คนสูง 180 ซม. ขึ้นไปอาจจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะพื้นที่ด้านหลังเล็กและแคบปหน่อย แถมเวลาวิ่งด้วยความเร็วระยะทางยาวๆแบบนี้ ดันมีไอร้อนออกมาจากด้านหลังตรงช่องระบายอากาศของแบตเตอรี่ ทำให้ไอร้อนเป่าที่ต้นคอร้อนเราตลอดเวลา แต่วิ่งปกติด้วยความเร็วพอประมาณไม่มีไอร้อนออกมานะครับ เป็นเฉพาะวิ่งด้วยความเร็วสูงเท่านั้น คงเป็นเพราะแบตเตอรี่ทำงานหนักไปหน่อย
สรุป
เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกต้องบอกเลยครับว่าโดดเด่นไม่เหมือนใคร สปอร์ต สวย คม ในทุกเส้นสาย ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูง แต่การดีไซน์ดูเรียบและเชยไปหน่อย หวือหวา สวย หรู สู้คู่แข่งไม่ได้ ระบบเครื่องยนต์ไฮบริด ดีเยี่ยมขับสนุกในทุกย่านความเร็ว แถมประหยัดพอสมควร
ระบบช่วงล่างเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ ปรับเซ็ทออกมาได้อย่างลงตัว ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป แน่น หนึบ มั่นใจทุกโค้งแน่นนอน เรื่องราคาแพงไปหน่อย สู้คู่แข่งไม่ได้ ที่แพงเพราะเป็นรถนำเข้าทั้งคัน
เอาเป็นว่าถ้าท่านไหนชอบรถที่มีการดีไซน์ มีความปราณีตและพิถีพิถัน ในทุกจุดทุกมุมมอง ชอบความแตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และราคาไม่ใช่ปัญหา ลองไปขับ Lexus IS 300h F SPORT ดูแล้วคุณจะติดใจ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th