Lexus LBX รถเอสยูวีพรีเมียมขนาดเล็กเตรียมลุยตลาดด้วยระบบไฮบริด
Lexus ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากญี่ปุ่นเผยโฉมรถเอสยูวีรุ่นเล็กที่สุดของตนออกมาในชื่อ LBX โดยใช้ระบบไฮบริดในการขับเคลื่อน และมีให้เลือกระหว่างขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือทั้ง 4 ล้อของรถ อย่างไรก็ตามรถเอสยูวีรุ่นนี้จะถูกขายเฉพาะในยุโรป สหราชอาณาจักร และบางประเทศเท่านั้น
Lexus LBX ถูกพัฒนาขึ้นที่ยุโรปเพื่อเป็นรถเอสยูวีรุ่นสำคัญสำหรับตลาดแห่งนี้ โดยรถอยู่บนสถาปัตยกรรม GA-B มีความยาว 4,190 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,545 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,580 มม. ซึ่งทำให้เมื่อเทียบกับรถเอสยูวีรุ่น UX ของ Lexusแล้วรถรุ่นใหม่มีความยาวน้อยกว่า 305 มม. หรือประมาณ 12 นิ้ว
ส่วนการออกแบบภายนอกรถมาในภาษาการออกแบบที่ต่างจากรถรุ่นอื่นๆ ของผู้ผลิตรายนี้ ทั้งในส่วนของกระจังหน้า Spindle Grille ลายรังผึ้งที่มีขอบเป็นสีเดียวกับตัวรถกลมกลืนไปกับกันชนหน้า รวมทั้งมีไฟหน้าขนาดเล็กที่มีความสปอร์ต และฝากระโปรงหน้าที่สั้น ส่วนด้านข้างของรถมีทั้งคิ้วซุ้มล้อและคิ้วกันกระแทกสีดำที่ประตู รวมทั้งยังแต่งเสา C-pillar ของรถด้วยสีดำเงา ขณะที่ด้านหลังมีไฟท้าย LED ที่ถูกระบุว่านำแรงบันดาลใจมาจากแว่นกันแดด นอกจากนี้ยังมีโครเมียมแต่งที่กันชนหลัง และรภมาพร้อมกับสปอยเลอร์ปลายหลังคา สำหรับล้อที่มาพร้อมกับรถมีขนาด 18 นิ้ว แต่ในเกรดสูงจะเป็นล้อปัดเงารวมทั้งรถมีสีไบ-โทนให้เลือก
ห้องโดยสารของรถเอสยูวีขนาดเล็กยังคงเน้นความหรูพร้อมด้วยเทคโนโลยี โดยวัสดุที่ให้หุ้มเบาะมีทั้งหนัง Semi-aniline, Ultrasuede หรือวัสดุที่ไม่ได้มาจากสัตว์ให้เลือก ในขณะที่จอแสดงข้อมูลผู้ขับมีขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ส่วนจอทัชสกรีนตรงกลางที่มีระบบ Infotainment Lexus Link Connect มีขนาด 9.8 นิ้ว โดยสามารถอัพเดต Over-the-Air ได้ และรองรับ Apple CarPlay ไร้สาย รวมทั้ง Android Auto พร้อมมีระบบความปลอดภัยLexus Safety System + มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับพื้นที่เก็บของด้านหลังของรถมีความจุ 332 ลิตรในรุ่นขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า และรุ่นขับเคลื่อนทุกล้อจะมีความจุน้อยลงเล็กน้อย
การขับเคลื่อนรถเป็นระบบ Self-charging Hybrid ใช้เครื่อยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับ 2 มอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 3 มอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four AWD พร้อมด้วยแบตเตอรี NiMH โดยใช้ระบบส่งกำลังอีเล็กทรอนิกซีวีทีนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อของรถ ส่วนกำลังขับเคลื่อนของรถรวมจากระบบอยู่ที่ 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ซึ่งทางผู้ผลิคระบุว่าใช้เวลา 9.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.
การผลิตรถเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่จะเริ่มในช่วงปลายปี 2023 นี้ ขณะที่การส่งมอบรถจะเริ่มในช่วงต้นปี 2024 แต่รถพวงมาลัยขวาสำหรับตลาดสหราชอาณาจักรจะมีการส่งมอบได้เดือนมีนาคม 2024
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th