ความพยายามในการพัฒนารถต้นแบบ LF-LC Concept สู่การเป็นรถที่ผลิตขายจริง ในที่สุดถูกเผยโฉมภายใต้ชื่อ Lexus LC รถคูเป้ที่มีสไตล์โดดเด่นพร้อมดึงดูดทุกสายตา และสมรรถนะในการขับระดับเดียวกับรถสปอร์ตฝั่งยุโรป

หลังจากรถต้นแบบถูกนำมาโชว์ครั้งแรกเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว Lexus LC ที่ได้ฤกษ์ขายในสหรัฐฯ ช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนสะท้อนให้เห็นฝีมือการดีไซน์, การทำงานด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประกาศความเป็นแบรนด์รถระดับพรีเมียมของพวกเขา

ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ LC ไม่ได้มีแค่ความสวยงามภายนอก แต่ Lexus สามารถมอบประสบการณ์การขับที่พิเศษ ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 5.0L V8 ให้กำลังสูงสุด 471 แรงม้า, แรงบิด 389 ปอนด์-ฟุต และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที

ในรุ่นไฮบริด LC 500h มีการปรับมาใช้เครื่องยนต์ 3.5L V6 ให้กำลังสูงสุด 354 แรงม้า แต่ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5 วินาที โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ใช้ระบบเกียร์ 10 สปีด Multi Stage Hybrid Transmission เช่นเดียวกับ LC เครื่องยนต์ธรรมดาที่ติดตั้งระบบเกียร์ 10 สปีด Direct Shift Automatic ที่จะมีจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหล และให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

การทำงานของระบบ Multi Stage Hybrid System ในรุ่น LC 500h จะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นรถ Lexus รุ่นแรกที่เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่นิเกิลเมทัลไฮไดรด์ ใน Lexus LS โดยทั้ง 84 เซลล์ที่ติดตั้งอยู่ตอนท้ายของรถสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าสูงสุด 310.8 โวลต์

ในส่วนของระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานรถระดับนี้มีทั้งระบบเตือนการชน Pre-Collision, Pre-Collision Brake Assist, All-Speed Dynamic Radar Cruise Control, Lane Departure Alert, Vehicle Sway Warning และ Intelligent High Beam

เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล : Lexus Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th