Lexus LS ปรับโฉมครั้งใหญ่ทั้งสไตล์ ความสบาย และเทคโนโลยี
ผ่านมา 4 ปีนับตั้งแต่ Lexus เปิดตัวซีดานหรู LS เจนเนอเรชั่นที่ 5 ออกมาเมื่อปี 2017 จึงถึงเวลาที่ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากแดนอาทิตย์อุทัยจะทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับรถระดับเรือธงรุ่นนี้ของตน และแน่นอนว่านอกจากภายนอกและภายในแล้ว รุ่นใหม่ยังถูกเพิ่มความสบายในการเดินทาง และมาพร้อมกับเทคโนโลยีมากขึ้นด้วย
ในด้านรูปลักษณ์ Lexus LS ใหม่มาพร้อมกับการบริเวณด้านหน้าของรถที่ได้รับการอัพเดตแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างชัดเจนทั้งไฟหน้าทรงใหม่ที่มาพร้อมกับไฟ 3 ดวง โดยมี ไฟ Daytime Running Light ทรง L รวมอยู่กับไฟหน้า นอกจากนี้ในส่วนของกันชนหน้ายังได้รับการออกแบบใหม่พร้อมกับเปลี่ยนรูปทรงของช่องดักลมด้านข้าง รวมทั้งเปลี่ยนกระจังหน้าเป็นดาร์กเมทัลลิก
ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ด้านหลังอยู่ที่ไฟท้ายซึ่งแม้ยังคงมาในรูปทรงเดิมแต่เปลี่ยนการแต่งจากเดิมที่เป็นโครเมียมเป็นวัสดุสีดำ Piano Black ที่ไฟท้ายแทน พร้อมกับมีการปรับการออกแบบในส่วนล่างของกันชหลังใหม่ และหากเป็นรุ่น F Sport ก็จะมาพร้มอกับล้อ 20 นิ้วใหม่ โดยอีกสิ่งใหม่สำหรับภายนอกของ LS คือมีสีใหม่ที่เรียกว่า Gin-ei Luster ซึ่งใช้กรรมวิธีการผลิตที่เรียกว่า Sonic Method โดยลดปริมาณเนื้อสีลงแต่เพิ่มเกล็ดอลูมิเนียมเพื่อให้มีความแวววาวมากขึ้น เพื่อทำให้ตัวรถมีพื้นผิวที่เหมือนกระจก
การเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสารมีส่วนที่เด่นคือใช้จอขนาด 12.3 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment ซึ่งรองรับ SmartDeviceLink, Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งเปลี่ยนส่วนควบคุมการทำงานต่างๆ ทั้งที่พวงมาลัยและคอนโซลกลางเป็นสีดำ พร้อมกับย้ายปุ่มปรับความอุ่นที่เบาะและพวงมาลัยไปที่ส่วนควบคุมตรงกลาง
ทาง Lexus ยังบอกว่ามีการเพิ่มความสบายในการเดินทางมากขึ้นด้วยการใช้จุดเย็บที่ลึกขึ้นกับวัสดุหุ้มเบาะ รวมทั้งแผ่นรองใต้เบาะยังมียูรีเทนความยืดหยุ่นน้อยเพื่อให้เบาะมีความนุ่มขึ้น โดยในด้านความสบายขณะเดินทางไม่ได้มีแค่ในห้องโดยสาร เพราะผู้ผลิตยังบอกว่ามีการพัฒนาระบบกันสะเทือน Adaptive Variable Suspension ขึ้นใหม่เพื่อลดแรงสะเทือน ร่วมกับสปริงที่มีค่าความหนืดสำหรับยางรันแฟลต และบาร์กันโคลงที่มีความแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่เข้าสู่ห้องโดยสารจึงมีการเปลี่ยนภายในของยางแท่นเครื่องเพื่อให้มีลักษณะดูดซับการสะเทือน
ด้านเครื่องยนต์ LS ปรับโฉมใหม่มีทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาในรุ่น 500 ที่มีการปรับปรุงในด้านแรงบิดในช่วงความเร็วทั่วไปในขณะขับให้มีการตอบสนองดีขึ้น และไฮบริดในรุ่น 500h ซึ่งมีการเพิ่มการใช้แบตเตอรีช่วยในขณะเร่งกับการขับทั่วไปมากขึ้น โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์มาพร้อมกับ Active Noise Control และ Engine Sound Enhancement เพื่อความเงียบขึ้นขณะเดินทาง
Lexus LS ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยผู้ขับที่มีพื้นฐานจาก Mobility Teammate Concept ที่มีระบบตรวจดูสถานะของผู้ขับสำหรับการช่วยเหลือต่างๆ แก่ผู้ขับทั้งการจดจำ การตัดสินใจ และการทำงานตามสภาพการจราจรจริง สำหรับความสามารถของระบบช่วยขับของรถจะช่วยรถอยู่ในเลนพร้อมรักษาระยะห่างระหว่างรถ เปลี่ยนเลน และแซง เมื่ออยู่บนทางด่วนได้
ในขณะที่ระบบช่วยจอดมาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดที่ใช้ทั้งกล้องและเซ็นเซอร์อุลตร้าโซนิกช่วย ส่วนเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ที่ถูกใส่เข้ามาในรถมีระบบกล้องมองหลังดิจิตอลกับจอความละเอียดสูงขนาดใหญ่ขึ้น และระบบปรับไฟสูง BladeScan AHS ที่ใช้ครั้งแรกใน RX รุ่นใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไฟ LED จะฉายแสงบนแผ่นกระจกด้วยความเร็วสูงแล้วเปลี่ยนหน้าที่เป็นเลนส์เพื่อให้ความสว่างบนถนนข้างหน้า
อย่างไรก็ตามในส่วนของกำหนดการขายและราคาของ LS รุ่นใหม่ทาง Lexus ไม่มีการระบุออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th