Lexus NX เจเนเรชันใหม่ หรู แน่นด้วยเทคโนโลยี และมีหลายทางเลือกของขุมกำลัง
Lexus เผยโฉมรถเอสยูวี NX รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 2 ออกมา โดยระบุว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถครอสโอเวอร์หรูด้วยนวัตกรรมแถวหน้าในรถระดับเดียวกันทั้งด้านระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ระบบ Infotainment พลังในการขับ การออกแบบ และความปลอดภัย รวมไปถึงยังเป็นรถที่มีความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมากที่สุดนับตั้งแต่มีการผลิตรถ Lexus ออกมาเมื่อ 32 ปีที่แล้ว
Lexus NX เจเนเรชันที่ 2 ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม TNGA-K ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง และถูกเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น มาพร้อมกับการออกแบบใหม่หมดตั้งแต่กระจังหน้าไปจนถึงโลโก้ที่ด้านหลัง โดยที่ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้าที่ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดและกรอบเพื่อสร้างความรู้สึกกลมกลืนกับตัวรถมากขึ้น จากรายละเอียดที่มีลักษณะบล็อก U-Shape ภายในกรอบกระจังหน้า Spindle Grille ที่ถูกออกแบบเพื่อให้มีลักษณะ 3 มิติ รวมทั้งสร้างความรู้สึกที่มีความลึกไปพร้อมกับความแข็งแกร่ง โดยส่วนบนของกรอบกระจังหน้าขนาบด้วยไฟหน้าพร้อมไฟ Daytime Running Light รูปตัว L ที่ให้ความรู้สึกสมดุลย์
สำหรับด้านหลังของรถมาพร้อมกับโลโก้ Lexus ที่ถูกออกแบบใหม่เพื่อเป็นการถ่ายทอดถึงความล้ำหน้าและทันสมัย ด้วยการใช้ตัวหนังสือ Lexus ติดตรงกลางฝาท้ายแทนโลโก้ตัว L อย่างไรก็ตามที่ด้านหลังของ NX ใหม่ก็ยังมีรูปทรงตัว L ปรากฏอยู่ที่ไฟท้ายซึ่งมาพร้อมกับแถบไฟเรียวเต็มความกว้างของฝาท้ายเหมือนกับรุ่น UX และ IS ซึ่งจะทำให้ที่เป็นไฟเพื่อให้ความสว่างในตอนกลางคืนเหมือนกับไฟท้ายด้วย
ห้องโดยสารของ NX ใหม่ถูกระบุว่าออกแบบมาโดยมีผู้ขับเป็นศูนย์กลาง โดยเน้นไปที่การเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับกับรถ มีจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 7 นิ้ว และออฟชั่นการแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาด 10 นิ้วให้เลือก ซึ่งทั้ง 2 สิ่งถูกออกแบบให้มองเห็นการแสดงข้อมูล การเตือน และสิ่งที่อัพเดตได้ในระยะการมองของผู้ขับ
สำหรับจอตรงกลางมีขนาด 9.8 นิ้วซึ่งประกอบด้วยมัลติมีเดียต่างๆ อยู่ในระยะที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ปุ่มควบคุมสำหรับการทำงานที่ปรับตั้งบ่อยอย่างระบบปรับอากาศและความดังของเสียงจากมีเดีย โดยทาง Lexus ระบุว่าเป็นการออกแบบเพื่อรวมความเป็นมิตรกับผู้ใช้ที่มากขึ้นเข้ากับประสบการณ์ดิจิตอลในรถ
Lexus NX มี 4 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือ NX 250 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร กำลัง 203 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 249 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดส่งกำลังซึ่งเลือกได้ระหว่างรุ่นขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าที่ใช้เวลา 8.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. หรือขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้เวลา 8.6 วินาทีเพื่อทำความเร็วเท่ากัน ส่วนอีกรุ่นเป็นทางเลือกที่มีกำลังมากขึ้นคือ NX 350 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จใหม่ มีกำลัง 275 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 ส่งกำลังสู่ล้อซึ่งทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ด้วยเวลา 6.8 วินาที
สำหรับทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมี NX 350h ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ด้านหลังเพื่อสร้างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับรถ โดยมีกำลังรวม 239 แรงม้า ซึ่งสูงขึ้นกว่ารุ่นไฮบริดเดียวกันของเจเนเรชันแรก 20 เปอร์เซ็นต์ และมีอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ที่เร็วขึ้น 1.5 วินาทีเป็น 5.7 วินาทีด้วย
นอกจากนี้ NX เจเนเรชันที่ 2 ยังมีทางเลือกของขุมกำลังในแบบปลั๊กอินไฮบริดด้วยกับ NX 450h+ ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตรร่วมกับแบตเตอรีแพ็กลิเธียมไอออนและมอเตอร์ที่ด้านหลัง โดยมีระยะการเดินทางที่ไม่ปล่อยมลพิษ 58 กิโลเมตร สำหรับการชาร์จแบตเตอรีจะใช้เวลา 4.5 ชั่วโมงกับระบบชาร์จไฟมาตรฐาน 3.5 kW แต่หากใช้เครื่องชาร์จ 6.6 kW จะลดเวลาลงเหลือ 2.5 ชั่วโมง
ทาง Lexus ระบุว่า NX 450h+ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ประสบการณ์การขับที่สปอร์ตและมั่นใจขึ้น โดยมีการส่งแรงบิดไปที่ล้อหน้าและล้อหลังที่เหมาะสมที่สุดตามสภาพการขับ นอกจากนี้ยังมีระบบ Predict Efficient Drive ซึ่งจะเรียนรู้พฤติกรรมการขับ คาดการณ์ความน่าจะเป็นของเส้นทางข้างหน้า และวิเคราะห์รายงานการจราจรแบบเรียลไทม์เพื่อการชาร์จและใช้พลังงานของแบตเตอรีที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับเกรดที่มีความสปอร์ตขึ้นอย่าง F Sport จะมาพร้อมกับช่วงล่างแอคทีฟแปรผันพร้อมระบบกันสะเทือนประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงมีทั้งกระจังหน้าที่แตกต่างจากปกติ มีกันชนที่สปอร์ตขึ้น และใช้ล้อสีดำเงาขนาด 20 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ภายนอก ส่วนภายในมาพร้อมกับเบาะสปอร์ตทูโทน แป้นเหยียบอลูมิเนียม และใช้วัสดุ NuLuxe มีรูระบายอากาศหุ้มภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงมีพวงมาลัยสปอร์ต คิ้วบันไดเฉพาะ และใช้ดาร์กกราไฟต์อลูมิเนียมในการแต่ง
NX ใหม่มาพร้อมกับการทำงานต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของ Lexus Safety System+ 3.0 ล่าสุด อย่างระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและเบรกเพื่อเลี่ยงการชนที่เกิดขึ้นในเลน ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติเมื่อเลี้ยวขณะที่กำลังมีคนเดินถนนหรือคนขี่จักรยานผ่านเข้ามา ระบบตรวจเตือนและช่วยเบรกฉุกเฉินเมื่ออาจเกิดการชนที่ด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติใช้เรดาร์เพื่อให้รถเคลื่อนที่ไปตามสภาพการจราจรและปรับความเร็วเมื่อเข้าโค้ง ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมี Digital Latch ที่จะทำให้ประตูรถเปิดอย่างราบเรียบเมื่อกดปุ่มที่มือจับเปิดประตู รวมทั้งนี้มีเทคโนโลยี Safe Exit Assist เพื่อป้องกันการเปิดประตูรถขณะมีจักรยานหรือรถมาจากด้านหลังในระยะใกล้
ทาง Lexus จะเริ่มการผลิต NX ใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ส่วนราคาของรถจะเปิดเผยออกมาในช่วงใกล้จะจำหน่าย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th