Lotus เผยโฉมรถสปอร์ตหรูระดับตำนาน ในงาน Motor Expo 2021
โลตัส คาร์ ไทยแลนด์ ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายพรีเมียมสปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กลับมาระเบิดความยิ่งใหญ่พร้อมเดินเกมรุกตลาดรถยนต์เมืองไทยในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 Motor Expo 2021” ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ บูธโลตัส B07 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี นำเสนอสุดยอดนวัตกรรมรถสปอร์ตหรูสมรรถนะเยี่ยมและน้ำหนักเบา ชูรุ่นไฮไลต์ Exige Sport 350 และ Elise Sport 220 ที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมสปอร์ตคาร์ระดับโลก พร้อมเปิดจองครั้งแรก Lotus Emira V6 First Edition สปอร์ตคาร์ระดับตำนานที่ทำสถิติยอดจองถล่มทลายมาแล้วทั่วโลก สำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์โลตัสใหม่ทุกคัน จะได้รับประกัน 3 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง Roadside Assistance นาน 3 ปี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษและสิทธิประโยชน์อีกมากมาย เผยกลยุทธ์ 5 ปีข้างหน้า มุ่งสู่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์โลตัสอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการตลาดและการบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยมาตรฐานความเป็นเลิศของแบรนด์รถสปอร์ตหรู รุกตลาดรถสปอร์ตไทยด้วยกลยุทธ์ Driver to Driver ผ่านการนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมรถสปอร์ตหรูสมรรถนะเยี่ยมและน้ำหนักเบา การันตีด้วยความเป็น Racing Heritage เจ้าของแชมป์ F1 ถึง 7 สมัยที่ครองใจแฟนคลับทั่วโลกมายาวนานกว่า 73 ปี”
“การกลับมาเปิดตัวแบรนด์ในงาน Motor Expo ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่โลตัส คาร์ ไทยแลนด์ ได้นำรถยนต์มาจัดแสดงสู่คนรักรถสปอร์ตชาวไทย ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้พบกับอัครยนตรกรรม Lotus Exige Sport 350 และ Lotus Elise Sport 220 ที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมสปอร์ตระดับตำนาน ซึ่งเป็น 6 คันสุดท้าย ที่จะเผยให้ได้ยลโฉมและทำตลาดเป็นล็อตสุดท้าย และพิเศษสุดกับการเปิดจอง The New Lotus Emira V6 First Edition แบบ Full Option รถสปอร์ตพรีเมียมสายพันธุ์ใหม่ที่มียอดจองถล่มทลายจากทั่วโลก เปิดจองแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 6 คันเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท”
LOTUS ELISE SPORT 220 สุดยอดสมรรถนะและนวัตกรรมแชสซีขั้นสูง
นำเสนอความโดดเด่นของยานยนต์ในตระกูล Elise ที่สมบูรณ์แบบ ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่สมดุลทั้งในด้านพลัง ความคล่องตัว และฟอร์มที่สวยงามบริสุทธิ์ของสุดยอดการออกแบบ ชูนวัตกรรมแชสซีอลูมิเนียมสุดล้ำที่มีน้ำหนักเพียง 68 กก. ร่วมกับการออกแบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงเพื่อสร้างแรงกดที่สมดุลทั่วตัวรถ ทั้งยังลดแรงต้านลมและเพิ่มเสถียรภาพแม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
Elise Sport 220 ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์สี่สูบ 1.8-litre Supercharged Engine มอบกำลังเครื่อง 217 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.2 วินาที พร้อมอัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 173 กรัม/กม. รถยนต์ในซีรี่ส์ Elise ทุกคันยังมาพร้อมระบบกันสะเทือน Double Wishbone Suspension ทั้งสี่มุมและ Lotus Dynamic Performance Management (Lotus DPM) เอกสิทธิ์ของโลตัส ซึ่งนักขับสามารถเลือกเปิดเมื่อขับขี่ในชีวิตประจำวันที่ต้องการความผ่อนคลาย หรือปิดเมื่อต้องการผสานเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถในขณะพุ่งทะยานบนจิตวิญญาณแห่งสปอร์ตคาร์
Elise Sport 220 เพียง 3 คันสุดท้ายเท่านั้น ได้ในราคา 5,390,000 บาท
LOTUS EXIGE SPORT 350 ผสานสมรรถนะสุดขั้วและความงามสง่าในหนึ่งเดียว
ด้วยการรังสรรค์ความเป็นที่สุดของรถสปอร์ตพรีเมียมน้ำหนักเบา ให้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่สูงเป็นพิเศษ ร่วมกับแรงบิดขั้นสุดของเครื่องยนต์ 3.5-litre Supercharged V6 บวกติดตั้งส่วนปีกหลังและดิฟฟิวเซอร์เพื่อเพิ่มแรงกดและเสถียรภาพเมื่อเร่งความเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้คือพลังแห่งการพุ่งทะยานอันเร้าใจ ประสิทธิภาพการตอบสนองที่ฉับไว และสัมผัสการขับขี่ที่โลดแล่นเหนือจินตนาการ
Exige Sport 350 เป็นรถยนต์โลตัสรุ่นแรกที่ใช้แท่นเกียร์แบบ Manual อลูมิเนียมน้ำหนักเบา ซึ่งมอบความหรูหราสง่างาม และการเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นทำให้ทุกการขับขี่น่าจดจำยิ่งขึ้น พร้อมท่อไอเสียน้ำหนักเบาที่มอบเสียงกระหึ่มสุดพลังของเครื่องยนต์ V6
Exige Sport 350 เพียง 3 คันสุดท้ายเท่านั้น ได้ในราคา 9,290,000 บาท
Lotus Emira V6 First Edition
ตำนานสปอร์ตคาร์เครื่องสันดาปรุ่นสุดท้ายที่นักสะสมทั่วโลกต้องไม่พลาด
Lotus Emira จะเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปรุ่นสุดท้ายที่โลตัสประกาศผลิตจากโรงงาน Hethel ในสหราชอาณาจักร ก่อนที่แบรนด์จะเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในอนาคตด้วย Design Language และการออกแบบใหม่ที่มีหน้าตาสวยสะดุดตาเหมือนรถ Supercar ขนาดเล็ก หากยังคงรักษาดีเอ็นเอในแบบฉบับโลตัสที่เน้นสัมผัสในการขับขี่ตามสโลแกน “For The Drivers”
Lotus Emira รุ่น First Edition เครื่องยนต์ V6 3.5L มอบกำลัง 400 แรงม้า แรงบิดสูดสุง 430 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ในเวลาเพียง 4.2 วินาที และทำความเร็วได้สูดสุง 288 กม./ชม
โลตัส คาร์ เปิดจองLotus Emira V6 First Edition จำนวนจำกัดเพียง 6 คันเท่านั้น ในราคาเริ่มต้น 11,900,000 บาท
สำหรับซีรี่ส์ Elise และ Exige ถือเป็น Bread & Butter ของแบรนด์โลตัสที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ที่เหมือนกับรถแข่ง อย่างไรก็ตาม โลตัสได้ประกาศกำหนดเลิกการผลิตรถ 2 รุ่นนี้ในปี 2021 ทำให้ซีรี่ส์ Elise และ Exige จะกลายเป็น “THE LAST OF ITS KIND” และทำให้รถยนต์ 2 รุ่นนี้เป็นรถสะสมในหมู่คนเล่นรถ Future Collectibles ในอีกไม่ช้า
โลตัสเผยกลยุทธ์ 5 ปีข้างหน้า สู่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
โลตัสกำลังเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ในการผลิตไลฟ์สไตล์โมเดลที่น่าตื่นเต้นสำหรับตลาดโลก ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าใหม่ 4 รุ่น ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อรุกตลาดรถยนต์เกรดพรีเมียมอย่างเต็มตัว ได้แก่
- Type 132 รถ E-Segment SUV
- Type 133 รถ E-Segment 4-door Coupe
- Type 134 รถ D-Segment SUV
- Type 135 รถ Sport Coupe
“โลตัสกำลังลงทุนเปิดLOTUS TECHNOLOGY HQ แห่งใหม่ในประเทศจีน รวมถึงโรงงานผลิตรถไฟฟ้าในจีนเพื่อส่งจำหน่ายไปทั่วโลก สำหรับรถยนต์โลตัสรุ่นต่อไปที่จะเปิดตัวในปี 2023 จะเป็นเอสยูวีรุ่นแรกของแบรนด์และเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้โค้ดเนม [Type132] โดยเอสยูวีรุ่นนี้มีเป้าหมายที่จะบุกตลาดรถพรีเมียม ด้วยข้อได้เปรียบด้านฐานภาษีรถไฟฟ้าที่น้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป อีกทั้งรถยนต์ไฟฟ้าของโลตัสจะประกอบขึ้นที่โรงงานแห่งใหม่ในจีน ทำให้ภาษีอากรขาเข้าเป็น 0% ส่งผลให้การตั้งราคาขายจะสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้อย่างแน่นอน” นายธีรพงศ์ รอดลอย กล่าว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th