Lotus Evija ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่มากับแรงม้ามากที่สุดในโลก
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทาง Lotus ได้เปิดเผยชื่อรถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของตนออกมาว่าจะใช้ชื่อ Evija ซึ่งออกเสียงว่า อี-ไว-จา ล่าสุดทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากอังกฤษรายนี้ได้เปิดตัว Evija ออกมาแล้วโดยนอกจากจะเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของบริษัทหลังการเข้ามาของ Geely แล้ว ยังรับตำแหน่งรถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าจากสายการผลิตที่มีแรงม้าสูงสุดในโลกไปด้วยจากจำนวน 2,000 แรงม้าของรถ
กำลัง 2,000 แรงม้าของ Lotus Evija มาจากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว โดยนอกจากแรงม้าที่มากแล้ว ยังให้แรงบิดสูงสุด 1,700 นิวตัน-เมตร และด้วยการที่รถมีน้ำหนัก 1,680 กิโลกรัมจากการใช้แชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษและตัวถังรถที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์จึงส่งให้รถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Lotus ใช้เวลาไม่ถึง 3 เพื่อพุ่งทะยานจากหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กม./ชม. และหากมีทางตรงยาวมากพอ Evija ก็จะสามารถไปถึงความเร็ว 320 กม./ชม.ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดของรถได้ เพื่อรองรับกำลังสูงของรถ Lotus ใช้ช่วงล่างจากมอเตอร์สปอร์ตและระบบเบรกอลูมิเนียมฟอร์จ AP Racing ใน Evija เพื่อให้ตรงกับแนวทางการออกแบบที่เป็นการผสานระหว่างสมรรถนะสูงสุดจากสนามแข่งและความสบายบนถนน
ในด้านระยะการเดินทางของไฮเปอร์คาร์จากอังกฤษอยู่ที่ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จจากแบตเตอรีลิเธียมไอออน 2,000 Kw ที่พัฒนาโดย Williams Advance Engineering ซึ่งติดตั้งอยู่กลางรถด้านหลังห้องโดยสารเพื่อให้มีลักษณะเหมือนเครื่องวางกลาง โดยนอกจาก Evija จะครองตำแหน่งรถไฟฟ้าจากสายการผลิตที่มีกำลังมากที่สุดในโลกแล้ว ยังครองตำแหน่งรถไฟฟ้าที่ชาร์จไฟเร็วที่สุดในโลกด้วย เพราะสามารถรองรับการชาร์จ 800 kW ซึ่งจะทำให้ใช้เวลา 9 นาทีในการชาร์จพลังงานจนเต็ม เพียงแต่ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีชุดชาร์จไฟระดับนี้ที่ทำออกมาเพื่อการค้า แต่กับการชาร์จ 350 kW เป็นการชาร์จสูงสุดซึ่งมีให้ใช้ได้ในปัจจุบันจะใช้เวลา 12 นาทีชาร์จพลังงาน 80 เปอร์เซ็นต์ และ 18 นาทีเพื่อชาร์จจนเต็ม
ในด้านรูปลักษณ์ Evija แสดงถึงแนวทางการออกแบบใหม่ที่ร่วมสมัยของ Lotus โดยด้านหน้าของรถเด่นด้วยแผ่น Splitter คู่ซ้อนกัน รวมทั้งไฟหน้าทรงเรียวและซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่มีช่องระบายอากาศด้านหลังล้อ โดยไฟหน้าของรถที่มาจาก Osram ทาง Lotus ระบุว่าเป้นครั้งแรที่ใช้ไฟเลเซอร์ทั้งไฟหลักและไฟหรี่ นอกจากนี้ Evija ยังมาพร้อมกับการใช้กล้องเพื่อแสดงภาพบนจอ 3 จอในห้องโดยสารแทนกระจกข้างและกระจกหลัง โดยกล้องจะเก็บไว้ในตัวรถอย่างมิดชิดแล้วยื่นออกมาอัตโนมัติเมื่อปลอดล็อกรถ
ส่วนด้านหลังของรถให้ความโดดเด่นด้วยจากทั้ง Diffuser ขนาดใหญ่และไฟท้าย LED ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ Afterburner ของเครื่องบินรบ นอกจากนี้ด้านหลังรถยังเป็นตำแหน่งของช่องชาร์ตแบตเตอรี ในขณะที่สัญลักษณ์ Lotus ด้านหลังนอกจากจะสว่างจากแสงไฟแล้วยังทำหน้าที่เป็นไฟถอยหลังด้วย
ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่ล้ำหน้าพร้อมกับเต็มไปด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน ในขณะที่แผงแดชบอร์ดได้รับการออกแบบในลักษณะ Floating Wing โดยด้านหลังพวงมาลัยที่หุ้ม Alcantara ใช้การแสดงข้อมูลผู้ขับในแบบดิจิตอล ส่วนเบาะคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มด้วย Alcantara เช่นเดียวกับพวงมาลัย นอกจากนี้อีกจุดที่ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นในห้องโดยสารของ Evija คือคอนโซลกลางที่มีลักษณะ Ski Slope-style เรียวบางพร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส
แม้จะเป็นรถไฮเปอร์คาร์ในลักษณะ Series Production แต่ Lotus ผลิต Evija จำกัด 130 คันซึ่งเป็นจำนวนตามชื่อ Type 130 ของรถในช่วงแรก โดยตั้งราคาไว้ที่ 1.7 ล้านปอนด์ และตอนนี้เสามารถวางเงิน 250,000 ปอนด์เพื่อจองไว้ก่อนได้ โดยจะเริ่มการผลิตต้นปี 2020 ด้วยมือที่โรงงาน Hethel ในอังกฤษของ Lotus
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th