Lotus Evora GT ความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของรถสปอร์ตแดนผู้ดี
ดูเหมือนว่า Lotus จะรอให้มีการเปิดตัวรถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของตน Evija ไปให้เรียบร้อยก่อนจึงจะมีการขยับตัวในส่วนของรถรุ่นอื่นที่มีทำตลาดอยู่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ผลิตรถสปอร์ตจากอังกฤษรายนี้ที่เกิดขึ้นหลังการเปิดตัว Evija เพียง 2 สัปดาห์คือการอัพเดตให้กับรุ่น Evora ด้วยการส่ง Evora GT มาแทนที่ Evora 400 และ Evora Sport 410 ในตลาดอเมริกาเหนือ
Lotus Evora GT ซึ่งสามารถเลือกได้ระหว่างแบบ 2 ที่นั่งหรือ 2+2 ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3,500 ซีซี เทอร์โบชาร์จ แต่ได้รับการปรับจูนจนมีกำลัง 422 แรงม้าที่ 7,000 รอบ/นาที ในขณะที่แรงบิดสูงสุดจะขึ้นอยู่กับระบบส่งกำลังของรถ โดยหากเป็นเกียร์แมนนวล 6 สปีดจะมีแรงบิด 430 นิวตัน-เมตรที่ 3,500 รอบ/นาที พร้อมกับที่สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.8 วินาที แต่ถ้ามาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแรงบิดสูงสุดจะเพิ่มเป็น 450 นิวตันเมตร แต่จะใช้เวลาเพิ่มขึ้น 0.1 วินาทีเพื่อเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. [expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
ส่วนความเร็วสูงสุดของรถจะมีแตกต่างตามระบบส่งกำลังสู่ล้อเช่นเดียวกับแรงบิดและอัตราเร่ง โดยหากเน้นที่ความเร็วสูงสุดคงต้องเลือกเกียร์แมนนวลที่ทำได้ถึง 303 กม./ชม. ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติทำได้ 280 กม./ชม.
ไม่เพียงเพิ่มกำลังของรถเท่านั้น Evora 400 ยังได้รับการเสริมในด้านแอโรไดนามิกด้วยทั้งในส่วนของ Splitter ใต้กระจังหน้า ซุ้มล้อหน้า บริเวณล้อหลัง และ Diffuser ที่ใต้กันชนหลังจนสามารถสร้างแรงกดให้รถได้ถึง 64 กิโลกรัมหรือ 2 เท่าของ Evora 400 นอกจากนี้หากรู้สึกว่าน้ำหนักของรถที่มาพร้อมกับชิ้นส่วนมาตรฐานยังหนักเกินไป Lotus มีอุปกรณ์เสริมเพื่อการกำจัดน้ำหนักที่ไม่ต้องการด้วยคาร์บอนแพ็กที่มีทั้งแผงด้านหน้าของรถ หลังคา และฝากระโปรงท้าย จนน้ำหนักของรถลดลง 22 กิโลกรัม โดยหากเปลี่ยนระบบท่อไอเสียใหม่ก็จะช่วยรีดน้ำหนักได้อีก 10 กิโลกรัมจนทำให้รถมีน้ำหนัก 1,408 กิโลกรัม เบาลง 32 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับ Evora 400
เพื่อรองรับกำลังของรถ Lotus ใช้ระบบเบรก AP Racing ซึ่งมาพร้อมคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบทั้งล้อหน้าและหลัง แต่ขนาดดิสก์เบรกที่ล้อหน้าจะใหญ่กว่าล้อหลัง รวมทั้งใช้ระบบช่วงล่างสปอร์ตซึ่งประกอบด้วยสปริง Eibach และโช๊ก Bilstein เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดย Evora GT มาพร้อมล้ออัลลอยลาย 10 ก้านขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้า 20 นิ้วที่ด้านหลัง และใช้ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารของ Evora GT ใช้ Alcantara สีดำพร้อมลายเส้นคู่ 2 สีทั้งที่แผงแดชบอร์ด แผงประตู คอนโซลกลาง และเกียร์ โดยใช้คาร์บอนไฟเบอร์แต่งในส่วนบนของหน้าปัดแสดงข้อมูล ขณะที่พวงมาลัยเป็นแมกนีเซียมหุ้มด้วย Alcantara ส่วนเบาะบักเก็ตซีตจาก Sparco ที่ใช้ทั้งหนังและ Alcantara หุ้มโดยมีด้านหลังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แม้จะเน้นสมรรถนะจากสนามแข่ง แต่ Evora GT ก็มาพร้อมกับจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วพร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ รวมทั้งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
อย่างไรก็ตามจากที่ทาง Lotus ระบุ Evora GT จะถูกทำตลาดเฉพาะที่อเมริกาเหนือเท่านั้น จึงหมายความว่าจะมีขายแค่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]