Lotus บอกลา Elise และ Exige ด้วย Final Edition
ทาง Lotus ได้ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาว่าปีนี้จะมีการผลิตรถสปอร์ต 3 รุ่นของตนคือ Elise, Exige และ Evora เป็นปีสุดท้าย ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสหราชอาณาจักรจึงเตรียมบอกลา Elise และ Exige ด้วยรุ่นพิเศษในชื่อ Final Edition ก่อนที่จะเตรียมเปิดทางให้กับการผลิตรถสปอร์ตรุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้
จริงๆ แล้วรุ่นพิเศษ Final Edition ของทั้ง Lotus Elise และ Exige มีรวมกันถึง 5 รุ่น โดยเป็นของ Elise 2 รุ่นและ 3 รุ่นของ Exige ซึ่งรุ่นพิเศษที่ถูกผลิตจำกัดทั้งหมดจะประกอบด้วยสีเฉพาะรุ่น การแต่งภายนอกใหม่ ใช้ล้อสีใหม่ รวมทั้งใช้จอดิจิตอลแสดงข้อมูลผู้ขับ พวงมาลัย D-Shape และคันเกียร์แมนนวลใหม่ในห้องโดยสาร โดยในส่วนของ Elise Final Edition จะประกอบด้วย Elise Sport 240 Final Edition ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 244 นิวตัน-เมตร และมีอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.1 วินาที โดยนอกจากการปรับเปลี่ยนในส่วนที่มองเห็นทั้งภายนอกและภายในแล้ว ผู้ซื้อยังสามารถเลือกลดน้ำหนักของรถลงด้วยการใช้อุปกร์เสริมซึ่งเป็นแผงคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งบริเวณคิ้วบันได ฝาครอบเครื่องยนต์ ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน และใช้กระจกหลังเป็นโพลีคาร์บอเนต ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้น้ำหนักของรถลดลงจาก 922 กิโลกรัมเหลือ 898 กิโลกรัม
ขณะที่อีกรุ่นของ Elise Final Edition คือ Elise Cup 250 Final Edition ซึ่งจะแตกต่างในจากรุ่นแรกในเรื่องแอโรไดนามิกโดยมาพร้อมกับชุดแอโรพาร์ตที่ดุดันขึ้น สามารถสร้างแรงกดได้ 66 กิโลกรัมที่ความเร็ว 160 กม./ชม. และสามารถสร้างแรงกดได้ถึง 155 กิโลกรัมที่ความเร็วสูงสุดของรถ 248 กม./ชม. นอกจากนี้ Elise Cup 250 Final Edition ยังใช้โช๊ก Bilstein Sport กันโคลงปรับได้ และล้อฟอร์จน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยหากเลือกเพิ่มออฟชั่นเสริมคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักของรถจะทำให้น้ำหนักของรถลดลงเหลือ 931 กิโลกรัม
ส่วน 3 รุ่นของ Lotus Exige Final Edition มี Sport 390, Sport 420 และ Cup 430 ซึ่งรุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ซุเปอร์ชาร์จ 397 แรงม้า โดยทางผู้ผลิตระบุว่ารถสปอร์ตรุ่นนี้ของตนมีน้ำหนักเพียง 1,138 กิโลกรัม และใช้เวลา 3.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ในขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 276 กม./ชม.
สำหรับ Exige Sport 420 Final Edition มีกำลัง 420 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 427 นิวตัน-เมตร และเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดของ Exige ด้วยการมีความเร็วสูงสุด 289 กม./ชม. และใช้เวลา 3.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโช๊กปรับได้ 3-way ล้อฟอร์จน้ำหนักเบา เบรก AP Racing และรวมทั้งอุปกรร์มาตรฐานอื่นๆ กันโคลงหน้า-หลังปรับได้ Eibach ล้ออัลลอยฟอร์จน้ำหนักเบา 10 ก้านขนาด 17 นิ้วที่ด้านหน้าและ 18 นิ้วที่ด้านหลัง
ในขณะที่ Exige Cup 430 Final Edition ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดมาพร้อมกับกำลัง 430 แรงม้าจากเครื่องยนต์ V6 ซุเปอร์ชาร์จ พร้อมกับชุดแอโรคิตที่ดุดันขึ้นสร้างแรงกดได้สูงสุดถึง 171 กิโลกรัม ใช้เวลา 3.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 280 กม./ชม. นอกจากนี้ Exige Cup 430 Final Edition ทุกคันจะมาพร้อมกับการคาร์บอนไฟเบอร์เกรดมอเตอร์สปอร์ตทั้งที่ Splitter หน้า แผงด้านหน้ารถ หลังคา บริเวณรอบ Diffuser หลัง ช่องดักอากาศที่ใหญ่ขึ้น ประตูท้ายแบบชิ้นเดียว และสปอยเลอร์หลังจากรถแข่ง รวมไปถึงมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ของรถเหมือนกับ Exige Cup 420 Final Edition อย่างโช๊ก Nitron กันโคลงหน้าและหลังปรับได้จาก Eibach ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ระบบเบรก AP Racing 4 ลูกสูบ พร้อมด้วยระบบท่อไอเสียไทเทเนียมที่ช่วยให้การระบายไอเสียดีขึ้น
ส่วนราคารุ่น Final Edition เริ่มต้นที่ 45,500 ปอนด์ในรุ่น Elise Sport 240 ไปจนถึง 100,600 ปอนด์ในรุ่น Exige Cup 430
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th