Lotus เผยสเปก Emira V6 First Edition
เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา Lotus ได้เผยโฉมรถสปอร์ตเครื่องวางกลางรุ่นใหม่ออกมาในชื่อ Emira โดยนอกจากรายละเอียดด้านการออกแบบแล้ว ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากอังกฤษได้ระบุว่ารถรุ่นใหม่ของตนจะมี 2 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือ 4 สูบ 2.0 ลิตร และ V6 3.5 ลิตร แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละะเอียดด้านสมรรถนะออกมา จนกระทั่งล่าสุดทาง Lotus จึงได้มีการเปิดเผยสเปกต่างๆ ของ Emira V6 First Edition ออกมา
ขุมกำลังของ Lotus Emira V6 First Edition เป็นเครื่องยนต์ Toyota 2GR-FE V6 3.5 ลิตร พร้อมกับซูเปอร์ชาร์จ Edelbrock 1740 ซึ่งให้กำลังขับเคลื่อนออกมา 400 แรงม้า อย่างไรก็ตามตัวเลขแรงบิดของรถจะขึ้นอยู่กับระบบส่งกำลังสู่ล้อของรถ โดยหากมาพร้อมกับเกียร์แมนนวล 6 สปีดจะมีแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร แต่หากใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดส่งกำลังสู่ล้อจะมีแรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 430 นิวตัน-เมตร ซึ่งส่งผลให้ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.2 วินาที เร็วกว่ารถที่มาพร้อมกับเกียร์แมนนวล 0.1 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 290 กม./ชม. ไม่ว่าระบบส่งกำลังจะเป็นแบบใด
สำหรับการแต่งใน First Edition ของ Lotus Emira V6 นอกจากป้ายระบุรุ่นพิเศษแล้วยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่เลือกได้ระหว่างสีเงินหรือสีดำเงา, คาลิเปอร์เบรกของ Lotus, ชุดไฟ LED รอบคัน และชุดแต่ง Lower Black Pack ซึ่งหมายความว่ามี Splitter หน้า สเกิร์ตข้าง และ Diffuser ที่กันชนหลังเป็นสีดำเงา ในขณะที่สีภายนอกของรถมีให้เลือก 6 สีคือสีฟ้า Seneca Blue, สีแดง Magma Red, สีเหลือง Hethel Yellow, สีเขียว Dark Verdant, สีเทา Shadow Grey และสีเทา Nimbus Grey
ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกได้ระหว่างใช้หนัง Nappa สีแดง ดำ เทา น้ำตาลอ่อน หรือ Alcantara สีดำ โดยที่เลือกสีด้ายสำหรับเย็บในห้องโดยสารได้ระหว่างสีแดง เหลือง หรือเทา นอกจากนี้ยังมีการใช้ Satin Chrome ในการแต่ง และมีแสงไฟเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร พร้อมแผ่นครอบชายบันไดของรถ ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่นมีเบาะปรับความอุ่นได้สามารถปรับได้ 12 ทิศทางและมีระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ 2 ตำแหน่งพร้อมกับตำแหน่งกระจกมองข้างในส่วนของเบาะผู้ขับ
ส่วนการแสดงข้อมูลผู้ขับเป็นหน้าที่ของจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ขณะที่จอระบบ Infotainment ขนาด 10.25 นิ้วมีระบบนำทางพร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ยังให้ความเพลิดเพลินขณะเดินทางด้วยระบบเสียง 10 แชนเนล 340 วัตต์ที่พัฒนาร่วมกับ KEF ผู้ผลิตเครื่องเสียงชั้นนำของอังกฤษ
นอกจากอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ข้างต้นแล้ว Lotus ยังมีออฟชั่นต่างๆ ให้เลือกติดอย่าง Drivers Pack ที่เน้นในเรื่องของยางและช่วงล่างของรถ Design Pack ที่มาพร้อมกับฟิล์มดำและการแต่งในห้องโดยสารเพิ่ม หรือ Convenience Pack ที่มีอุปกรณ์เสริมเพิ่มความสะดวกในขณะขับ จอดและถอยรถอย่างเซ็นเซอร์หน้า กล้องหลัง เซ็นเซอร์ที่ปัดน้ำฝน และกระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ทาง Lotus จะเริ่มผลิตEmira V6 First Edition ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าโดยตั้งราคาไว้ที่ 75,995 ปอนด์ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบ i4 First Edition จะเริ่มผลิตฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th