LPG ประหยัดจริง หรือ “ปะจระเข้”
ในสมัยผมยังเด็ก ก็รู้จัก “รถยนต์ใช้แก๊สหรือก๊าซ” จาก TAXI รุ่นบุกเบิก 1ท หรือ 2ท ที่ใช้แก๊สหุงต้ม “LPG” เป็นเชื้อเพลิง เพราะราคาถูกกว่าน้ำมัน ซึ่งรถบ้านก็ไม่มีใครใช้กัน (อาจจะมีแต่น้อยมากๆ) ในตอนนั้น เรานั่งรถใช้แก๊สแล้วก็รู้สึกว่า “มันไม่โอเค” ทั้งเรื่องของกลิ่นแก๊สที่หอมหวลชวนวิงเวียน รวมไปถึงสภาพของเครื่องยนต์ที่เหมือน “แมวป่วย” เสียงแหบๆ อัตราเร่งหอบๆ เลยไม่มีความคิดที่จะใช้มันเลยแม้แต่น้อย…
แต่ในช่วง 10 กว่าปีที่แล้ว คงจำกันได้นะครับ ที่ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นอย่างไว ในตอนนั้น “สี่ลิตรร้อย” ก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว อีกแป๊บเดียวก็ สามลิตรร้อย…สองลิตรร้อย… ถ้าไม่ใช่เงินถุงเงินถังจะไหวได้ยังไง
ดังนั้นการติดตั้ง LPG จึงกลายเป็น “พลังงานทางเลือก” อย่างทันทีทันใด เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่าน้ำมันเบนซินกว่า 2 เท่า เลยติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง พอผ่านมาช่วงหนึ่ง น้ำมันเริ่มถูกลงเหลือลิตรละ 20 กว่าบาท คนเลยรู้สึกว่า เออ…ใช้น้ำมันดีกว่า เครื่องไม่โทรมด้วย ก็เลยถอดระบบ LPG กันออกเสียส่วนใหญ่ไม่ให้เกะกะ แต่ตอนนี้ ราคาน้ำมันดีดอย่างดุเดือดขึ้นอีกครั้ง และไม่รู้ว่าจะไปหยุด ณ บัดใด…
เมื่อรถก็ยังจำเป็นต้องใช้ หลายคนจึงทนแบกรับค่าน้ำมันไป เชื่อเถอะว่ามีหลายคนที่จะถวิลหา LPG กันอีกครั้ง แม้ว่าราคาแก๊สมันจะถูกกว่าน้ำมัน 2 – 3 เท่า ก็จริง แต่มันมีสิ่งที่จะต้องคิดต่อไป แล้วสิ่งที่เราคิด กับความเป็นจริง มันจะคุ้มค่าจริงไหม ??? หรือมีอะไรที่ตามมาในระยะยาวบ้าง อันนี้แหละ เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนติดตั้ง…
รู้จัก LPG ดีหรือยัง
LPG หรือ Liquefied Petroleum Gas คำว่า Gas หรือ ก๊าซ ซึ่งคนไทยก็นิยมเรียก “แก๊ส” แต่ถ้าเป็นฝรั่ง พูดว่า แก๊ส จะหมายถึง Gasoline (แก๊สโซลีน) หรือ น้ำมันเบนซิน อันนี้ให้รู้ไว้เผื่อจะได้ไม่งงเวลาสื่อสารกับชาวต่างประเทศ สำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ใช้ในการหุงต้มในครัวเรือนนั่นเองละครับ ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแต่ หากเป็นภาคครัวเรือน รัฐบาลยังสนับสนุน แต่เป็นภาคขนส่ง รัฐบาลไม่ได้สนับสนุน ในส่วนของเทคนิค ส่วนผสม ค่าเคมี อะไรต่างๆ ขอไม่พูดถึง เพราะไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่จะมีข้อดีและข้อเสียของการติดแก๊สมาบอกกันก่อน…
ข้อดี
- LPG มีออกเทนสูง !!! คนทั่วไปจะคิดว่า มันน่าจะเป็นข้อด้อยมากกว่า แต่ความจริง LPG มีออกเทนสูงถึง 105 RON เชียวนะ ยิ่งออกเทนสูง ก็จะมีผลดีในด้าน “การต้านทานการน็อกของเครื่องยนต์” ได้สูง ก็เหมือนกับ “รถแข่ง” โมดิฟายเครื่องยนต์เพิ่ม ที่ต้องการน้ำมันออกเทนสูงๆ นั่นเอง (อันนี้เปรียบแค่เรื่องของ ออกเทน นะครับ)
- มีความบริสุทธิ์ เพราะ LPG เป็นพลังงานที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Oil) และแยกก๊าซธรรมชาติ จึงสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม…
- โดยธรรมชาติ LPG จะ “ไม่มีทั้งสีและกลิ่น” ใดๆ มาขาวๆ ใสๆ วัยรุ่นชอบ แต่ทำไมเราถึงได้กลิ่นแก๊สละ ??? เนื่องจากว่า มีการเติม สารเอทิลเมอแคบแทน (ETHYL MERCAPTAN) ที่มีกลิ่น เพื่อให้สามารถรับรู้และตรวจสอบได้กรณีเกิดแก๊สรั่ว…
ข้อเสีย
- ย้อนไปเรื่องของออกเทน ถ้าออกเทนสูงขึ้น การลุกไหม้ก็ยากขึ้น จะต้องมีการ “ปรับองศาไฟจุดระเบิดแก่ขึ้น” ตามไปด้วย เพื่อให้จังหวะการจุดระเบิดนั้นเหมาะสม ได้ช่วงกำลังงานพอดี ถ้าไม่ปรับ จะกลายเป็น “ไฟอ่อน” ทำให้เครื่องร้อน กำลังตก ก็เกิดการเสียหายและสึกหรอได้มาก ถ้าช่างที่มีประสบการณ์ในการติดแก๊ส เขาจะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่จะมีเจ้าของรถประเภท “ขี้ตืด” ที่ชอบไป “บีบช่าง” จะเอาแต่ประหยัดๆๆๆๆๆ จูนแก๊สบางๆ นี่แหละ “ตัวพัง” ก็ต้องโทษตัวเองด้วยนะครับ อย่าเอาแต่โทษช่างอย่างเดียว…
- ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม เช่น หัวฉีดแก๊ส, หม้อต้ม, สายแก๊ส ฯลฯ ไปยัน ถังแก๊ส แม้ว่าตอนนี้จะมีถัง “โดนัท” ที่ใส่ไว้ในหลุมยางอะไหล่เดิม แต่คุณก็ต้องยอมเอายางอะไหล่และอุปกรณ์เหล่านี้ออกไป ต่อมา ต้องมีการ “เจาะ” ติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ต้องยอมรับว่ารถคุณจะมีตำหนิ แม้ว่าจะถอดระบบแก๊สออก ร่องรอยต่างๆ ก็ยังอยู่ให้เห็น…
- ราคาขายต่อตก อันนี้แน่นอนครับ เพราะรถที่ใช้แก๊ส หรือ เคยใช้แก๊ส คนก็จะมองว่า “เครื่องโทรมกว่าใช้น้ำมันล้วน” ก็ต้องยอมรับนะครับ ว่าการติดแก๊ส มันเป็นของ “นอกโรงงานผู้ผลิต” จะดีหรือไม่ก็อยู่ที่ “ฝีมือและอุปกรณ์” ที่ใช้ ซึ่งไม่มีใครรับประกันได้ คนซื้อไปก็มีความเสี่ยงต่างๆ เยอะกว่าปกติ เลยต้องโดนตัดราคาต่ำ…
ใช้น้อยก็อย่า ใช้เยอะก็ค่อยว่า
ก่อนอื่น คุณต้องคำนวณ “ระยะทางการใช้งานต่อเดือน” ของตัวเองก่อน ประเภท “จอดมากกว่าใช้” วันๆ ทำงานโดดขึ้นรถไฟฟ้าไปกลับ หรือ WFH เป็นหลัก เสาร์ – อาทิตย์ ค่อยขับรถพาครอบครัวไปบันเทิงไม่ได้ไกลมาก แบบนี้ “ไม่ต้องหาติดครับ” เพราะค่าน้ำมันต่อเดือนก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก แต่ถ้าเป็นแบบตรงกันข้าม ใช้รถน้องๆ แท็กซี่ ประเภทเดือนหนึ่งๆ ค่าน้ำมัน “หลักหมื่น” ทำให้รู้สึก “หัวจะปวด” ก็ต้องคำนวณกันหน่อย ดังนี้…
มันก็มีหลักคิดง่ายๆ นะครับ ตีตัวเลขกลมๆ คุณใช้น้ำมันเดือนละ 10,000 บาท ถ้าเป็น LPG ก็จะถูกลงเฉลี่ย 3 เท่า อยู่ประมาณ 3,000 กว่าบาท คือ มันก็ไม่ได้หาร 3 เป๊ะๆ หรอก เพราะ LPG มันกินมากกว่าน้ำมันอยู่บ้าง จะกี่เปอร์เซนต์ก็คงตอบยาก แล้วแต่ความสมบูรณ์ของการติดตั้งและตัวรถ เท่ากับประหยัดได้เดือนละ 6,000 กว่าบาท ค่าติดตั้ง LPG เอาอย่างดีเลยก็เฉลี่ย 30,000 บาท เท่ากับว่า คุณใช้รถ 5 เดือน ก็ได้ทุนติดตั้งคืน ที่เหลือคือกำไรใช้ แต่ว่า มันก็มีสิ่งที่ต้องคิดต่ออีกนะ…
สิ่งที่ต้องเพิ่มมา คือ การดูแลรักษา ทั้งระบบน้ำมันและระบบแก๊ส มันก็คงไม่ได้ต่างกันมากมายนักหรอก เพียงแต่ต้อง “เปลี่ยนเร็วขึ้นหน่อย” เช่น น้ำมันเครื่อง, หัวเทียน ซึ่งก็ไม่ได้แพงอะไรนัก ถ้ารถมีอายุ ยิ่งเก่ายิ่งแก่ก็ควรจะตรวจสอบเร็วขึ้น ทั้งระบบน้ำมันและแก๊ส ผมถือว่า “เชื้อเพลิงทุกชนิดมีอันตรายทั้งสิ้น” อย่าไปโทษแก๊ส อย่าอวยน้ำมัน รถไฟไหม้มันไม่ได้เป็นแค่แก๊สอย่างเดียวหรอกครับ…
รถสมัยใหม่ ติดแก๊สแล้วรวนไหม
ไอ้เรื่องจะรวนหรือไม่รวนนั้นก็ขึ้นอยู่กับ “คุณภาพของอุปกรณ์และช่างที่ติดตั้ง” บางคันรถราคาหลายล้านที่ระบบกล่อง ECU ฉลาดๆ ซับซ้อน ติดแก๊สตั้งแต่ป้ายแดง แต่ยอมใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง ใช้ช่างติดตั้งที่มีฝีมือและความละเอียด ก็เห็นใช้กันยาวๆ สบายดี
แต่ถ้า “เขียม” ใช้อุปกรณ์คุณภาพไม่ถึง แถมเจอช่างที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการติดแก๊สโดยตรง แบบนี้ “หัวจะปวด” เกิดปัญหาได้รื้อทิ้งแน่ๆ เอาเป็นว่า เบื้องต้น ก็ขอให้เลือกร้านที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการติดแก๊สโดยตรง ดูน่าเชื่อถือ มีหลักแหล่ง ดีที่สุดครับ…
สำหรับรถยุคใหม่ที่จะติดแก๊ส ถ้าเป็นรถที่มีระบบทั่วไป ก็คงไม่มีอะไรมาก แต่อย่างรถที่มีระบบหัวฉีดแบบ “Direct Injection” จ่ายตรงเข้าห้องเผาไหม้ อันนี้จะเริ่มซับซ้อนขึ้น เพราะระหว่างใช้แก๊ส จะต้องมีการ “ฉีดโปรยน้ำมัน” ผสมไปด้วยเล็กน้อย เพื่อหล่อเลี้ยงหัวฉีดไม่ให้ร้อนเกินไป เนื่องจากมันปักอยู่ในห้องเผาไหม้เลย แต่ก็มีปัญหาเรื่องส่วนผสมที่ไม่สมบูรณ์เท่าไร แต่ตอนนี้มีการพัฒนา บางรุ่นก็จ่ายแก๊สเข้าหัวฉีดเดิมติดรถเลย เลยต้องใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงและราคาก็สูงตาม อันนี้ คุณก็ต้องพิจารณาว่าคุ้มค่ากับการใช้งานของเราไหม…
บทสรุป การติดแก๊ส LPG นั้น อาจจะเป็นวิธีที่ Old School หรือ “ย้อนยุค” สักหน่อย อันนี้ก็ต้องพิจารณาก่อน ถ้าเป็นรถยุคเกิน 10 ปี พอได้ เพราะระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อนมาก แต่ถ้าเป็นรถยุคใหม่ๆ ซึ่งให้ความประหยัดได้มากกว่ายุคก่อนอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าด้วยราคาน้ำมันที่แสนแพง เลยทำให้รู้สึกว่ามันเปลือง อันนี้ผมเข้าใจนะครับ ว่าคนส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากติดแก๊ส แต่ด้วยความจำเป็นในการใช้รถ และแบกค่าน้ำมันไม่ไหว “ศรีจะไม่ทน” ก็ต้องคิดดีๆ ตั้งแต่ “จุดคุ้มทุน” กับค่าติดตั้งอุปกรณ์แก๊สดูก่อน รวมไปถึงการเลือกร้านที่ติดตั้ง พยายามหาข้อมูลหลายๆ ด้าน (แต่อย่าถึงขั้นเสพย์ข้อมูลจนหลอน) แนะนำว่า ถ้าจะใช้รถคันนี้ไปยาวๆ ก็ลงทุนติดของดีไปเลย ถ้าจะเขียมๆ เอาแต่ของถูก มีปัญหาจุกจิกแล้ว “หัวจะปวด” ทีหลัง งั้นก็อย่าติด ลองคิดให้ตกก่อนแล้วค่อยตัดสินใจครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th