Madison 150 สกู๊ตเตอร์ตัวแรงจากโบโลญญา
Malaguti Madison 150 ถือได้ว่าเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดรถสกู๊ตเตอร์เมืองไทยไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการปรากฏตัวของสายพันธุ์สกู๊ตเตอร์ชั้นนำอีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศอิตาลีที่บุกตลาดเมืองไทยภายใต้ชื่อ Malaguti โดยโมเดลนำร่องเปิดตลาดรหัส เมดิสัน 150 ที่มาพร้อมดีไซน์สไตล์สปอร์ต พร้อมขุมพลัง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมและสะดวกสบาย
ขอพาไปทำความรู้จักกับแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีแบรนด์นี้กันก่อน … โดยนับย้อนกลับไปในราวปี ค.ศ 1930 Antonino Malaguti ในวัย 22 ปี ที่เป็นทั้งนักปั่นจักรยานดาวรุ่งในเวลานั้น รวมไปถึงยังมีกิจการเกี่ยวกับรถจักรยานของตัวเองในเมือง Bologna ประเทศอิตาลี จนวันหนึ่งริเริ่มนำเครื่องยนต์ขนาดเล็กมาติดตั้งเข้ากับจักรยาน เพื่อการใช้งานได้สะดวกสบายขึ้น พร้อมต่อยอดออกแบบพัฒนาสร้างมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงสกู๊ตเตอร์อีกหลากหลายรุ่นภายใต้แบรนด์ Malaguti สร้างชื่อเป็นที่ยอมรับจากนักบิดทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
หุ่นทรงสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวตามหลักอากาศพลศาสตร์
ระบบไฟดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่ซ้ำใครแบบ LED รอบคัน
หน้าจอเรือนไมล์แบบ LCD Display Dynamic Motuion แสดงผลครบถ้วนชัดเจน พร้อมลูกเล่นที่น่าสนใจ
- เมดิสัน 150 สกู๊ตเตอร์ดีไซน์สปอร์ต ที่ได้รับการออกแบบโดยผสมผสานกลิ่นอายสไตล์อิตาเลี่ยน ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเหลี่ยมสันแหลมคมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ภายใต้รูปลักษณ์ที่กะทัดรัดปราดเปรียวเหมาะกับสรีระนักบิดโซนเอเชีย โดยมีหัวใจของความแรงเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ สูบเดียว SOHC 4 วาล์ว ขนาดความจุกระบอกสูบ 149.3 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด
กันสะเทือนหลังโช้คคู่ตอบสนองการใช้งานได้น่าพอใจ
เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตตัดเย็บประณีตนั่งสบาย
ค็อกพิทเรียบหรูดูดี
ถังน้ำมันติดตั้งด้านหน้าสามารถเติมได้โดยไม่ต้องลงจากรถ
ช่องเก็บของแยกส่วน มาพร้อมช่องจ่ายกระแสไฟแบบ USB ทางด้านซ้าย
- มิติตัวรถถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หญิง หรือชาย ด้วยน้ำหนักตัวราว 142 กก. กับความสูงจากพื้นถึงเบาะที่ 755 มม. ถ้าผู้ขับขี่มีความสูงราว 160 ซม. ก็สามารถวางขากับพื้นได้อย่างมั่นคง ในส่วนของอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตัวมาถือว่าน่าพอใจตั้งแต่ระบบกันสะเทือนที่ด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโกปิก ทำงานร่วมกับโช้คหลังคู่ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ 5 ระดับ โดยจากการทดสอบขับขี่ในเมืองด้วยน้ำหนักผู้ขับขี่ที่หนักราว 80 กก. การปรับตั้งค่ามาตรฐานจากโรงงานถือว่ารองรับแรงกระแทกได้น่าพอใจ
กันสะเทือนหน้าเทเลสโกปิก กับบังโคลนแบบสปอร์ต
การออกแบบถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน
ล้อแม็กลายสปอร์ตไซส์ 14 นิ้ว พร้อมยางทู๊ปเลสขนาด 100/80 – 14 ปั๊มเบรก 3 ลูกสูบ คีบจับจานขนาด 250 มม.
- ในส่วนของระบบเบรกน่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ประทับใจกับระบบเบรกแบบดิสก์หน้า – หลัง ที่มาพร้อมระบบกระจายแรงเบรก CBS เพิ่มความปลอดภัยได้อีกขั้น โดยคาลิเปอร์หน้าเป็นแบบ 3 ลูกสูบมาพร้อมจานขนาด 250 มม. ส่วนด้านหลังเป็นป๊มลูกสูบเดี่ยวคับจับจานขนาด 220 มม. วงล้อแม็กลวดลายสปอร์ตขนาด 14 นิ้ว รัดทับด้วยยางทู๊ปเลสขนาด 100/80 – 14 และ 120/70 – 14 หน้า – หลังตามลำดับ
- ทางด้านส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานจัดเต็มครบครันตอบโจทย์การขับขี่ของไรเดอร์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกุญแจแบบ Keyless ที่มาพร้อมดอกกุญแจที่ถูกซ่อนอยู่ด้านในสำหรับการใช้งานในเวลาฉุกเฉินที่แบตเตอรี่ของรีโมทหมด ขาดไม่ได้กับช่องจ่ายกระแสไฟแบบ USB ที่ซ่อนเอาไว้ในเก๊ะด้านซ้าย เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยการออกแบบถังน้ำมันติดตั้งด้านหน้าสามารถเติมได้โดยไม่ต้องลงจากรถ โดย Malaguti Madison 150 เปิดราคาขายเอาไว้ที่ 79,800 บาท
ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้อย่างลงตัว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th
