Maserati Gran Turismo ผลิตพิเศษ 3 คันสำหรับอวดโฉมงานมิลานดีไซน์วีค
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปที่จีนเพื่อนำทั้งรถในสายการผลิตและรถคอนเซ็ปต์ไปอวดโฉมในงานเซียงไฮ้ออโตโชว์ แต่ Maserati ได้ผลิต Gran Turismo เป็นพิเศษแตกต่างกัน 3 คันไปอวดโฉมในงานมิลานดีไซน์วีค โดยที่เป็นรถจริง 2 คันในชื่อ Prisma และ Luce ส่วนอีกหนึ่งคันเป็นรถดิจิตอลในแบบเสมือนจริงชื่อ Ouroboros
Maserati Gran Turismo Ouroboros ซึ่งใช้พื้นฐานจากรถไฟฟ้าGran Turismo Folgore ถูกสร้างสรรค์ออกมาในแบบดิจิตอลเสมือนจริงด้วยฝีมือของ Hiroshi Fujiwara นักนวัตกรรมชาวญี่ปุ่นที่เป็นแฟนตัวยงของค่ายตรีศูล โดยนำเอาส่วนต่างๆ ของรถค่ายตรีศูลในอดีตมารวมเอาไว้ อย่างไฟหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนจากรถแข่ง Tipo 151 กระจังหน้าที่มันวาวจาก A6GCS Berlinetta Pininfarina ด้านข้างรถมีการปรับช่องระบายอากาศใหม่มาจาก 3500 GT พร้อมมีล้อฟอร์จที่นำสไตล์มาจากล้อแมกนีเซียมของ Bora ขณะที่ด้านหลังของรถนำมาจากรุ่น Shamal จึงมีไฟท้ายพิกเซล LED ซ่อนอยู่ในแถบที่ยาวเต็มความกว้างของรถ
ทางผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีอธิบายถึงชื่อรถ Ouroboros ว่า คือสัญลักษณ์องค์ความรู้ที่แสดงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่งซึ่งไม่เคยสูญหายไป แต่มีความเปลี่ยนแปลงในวงจรโครงสร้างและการสร้างใหม่ตลอดกาล ขณะที่ทางผู้สร้างสรรค์รถชาวญี่ปุ่นบอกว่าGran Turismo Ouroboros ถูกคิดขึ้นมาเพื่อแสดงถึงการเชื่อมโยงระหว่างการออกแบบยุคต่างๆ ของ Maserati และรถรุ่นปัจจุบัน เราทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีและสมรรถนะสูงสุดที่มีในวันนี้กับสไตล์ที่เป็นจุดเด่นที่ถูกทำออกมาในหลายทศวรรษที่ผ่านมา”
ในส่วนของรถผลิตพิเศษอีก 2 คันซึ่งถูกทำออกมาเป็นรถจริงคือ Prisma และ Luce มาจากฝีมือของ Centro Stille โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งภายนอกและภายในของรถ ซึ่งในส่วนของ Prisma จะเน้นสีสันด้วยการใช้ 14 สีที่แตกต่างกันกับภายนอกรถ แต่มีแค่ 2 สีเท่านั้นที่เป็นสีใหม่ ขณะที่สีอื่นเป็นสีที่เคยมีให้เลือกในรถรุ่นก่อนหน้าอย่าง A6 1.500 ปี 1947 และ Khamsin ปี 1973 รวมทั้งยังมีสีที่ไล่โทนผสมกัน และยังมีตัวหนังสือระบุชื่อรุ่นรถต่างๆ ของMaseratiซึ่งทำด้วยมือรวม 8,500 ตัวหนังสือ ส่วนรถพื้นฐานที่ใช้ในการทำเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงสุดคือ Trofeo ที่มีขุมำลังเป็นเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 550 แรงม้า
สำหรับรถรุ่นพิเศษชื่อ Luce ถูกทำออกมาให้เป็นเหมือนกระจกติดล้อ โดยทางผู้ผลิตบรรยายไว้ว่าเป็น Chromatic Mirrored Monolith ตามลักษณะพื้นผิวตัวถังรถที่มีความสะท้อนแสงสูง อย่างไรก็ตามตัวรถถูกสลักลายจุดบนตัวถังเพื่อเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้นบนพื้นผิว และเพิ่มความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยลาย Tri-spoke ในขณะที่ห้องโดยสารของรถใช้ Econyl ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความยั่งยืนหุ้มโดยไล่โทนจากสีฟ้าเป็นสีขาวครีมเหมือนกับคลื่นในทะเล ส่วนรายละเอียดในการขับเคลื่อนใช้ 3 มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 761 แรงม้า และมาพร้อมแบตเตอรี 92.5 kWh
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th